"ชัยวุฒิ" เผย ติดตามรายละเอียด-รวบรวมพยานหลักฐานปมการนำเสนอโฆษณาของ ลาซาด้า ส่อผิดกฎหมายหรือไม่ แนะ ผู้ดำเนินการโฆษณาควรทำบนพื้นฐานจริยธรรม ขอ "พิเชษฐ" เข้าแจงปัญหาต่อ คกก. พรรคเพื่อความชัดเจน
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวยืนยันถึงกรณีแพลตฟอร์มออนไลน์ลาซาด้า ที่นำเสนอโฆษณาไม่เหมาะสมตามที่เป็นกระแสข่าวอยู่ขณะนี้ว่า ทางกระทรวงฯ ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดซึ่งมีการรวบรวมทั้งพยานและหลักฐานรวมถึงรายละเอียดที่มีการแชร์ออกไปในสังคมออนไลน์ ก็ไม่ยุ่งยากที่จะมีการปิดกั้น
พร้อมแนะผู้ดำเนินการทำโฆษณาต่างๆไม่ควรกระทำอะไรที่กระทบต่อความรู้สึกของคนไทยรวมถึงไม่ละเมิดกฎหมาย แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของสมาคมโฆษณา ที่จะต้องกำกับดูแลให้การนำเสนอโฆษณาอยู่บนพื้นฐานจริยธรรม และควรมีการดำเนินการจัดการกันเองหากพบกรณีการฝ่าฝืนมาตรฐานของการทำโฆษณา ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งผู้จัดทำแพลตฟอร์มโฆษณาจะต้องมีการทบทวนและต้องทำให้เกิดมาตรฐานจริยธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สมาคมโฆษณาฯ เตือนสติทำโฆษณาต้องมาพร้อมจรรยาบรรณ ปมคลิปฉาว แบนลาซาด้า
"ลาซาด้า" แถลงขอโทษลูกค้า ผู้ขาย และพาร์ทเนอร์ ปมคลิปฉาว "นาราเครปกะเทย"
สำหรับพระราชกฤษฎีกา ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับดิจิทัล ได้มีการพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็รอการประกาศใช้ จึงเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไรและจะสามารถดำเนินการบังคับใช้ได้ ส่วนประเด็นที่เป็นปัญหาขณะนี้จะถึงขั้นต้องปิดแพลตฟอร์มลาซาด้า หรือไม่นั้น คงต้องดูหลายองค์ประกอบซึ่งหากพบว่ามีการนำเสนอโฆษณาที่กระทบต่อกฎหมายก็อาจจะสามารถดำเนินการได้แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่การพิจารณาของศาลด้วยเช่นกัน
นายชัยวุฒิ ยังระบุถึงกรณีที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ประกาศจะไม่เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรค ที่มีหนังสือเชิญมาชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ถ้อยคำในวันที่ 11 พ.ค. 2565 ว่า ได้มีการพูดคุยกันภายในพรรค ถ้ามีข้อมูล มีสิ่งที่ไม่ถูกต้องของรัฐมนตรี หรือผู้บริหารพรรค อยากให้เอาข้อเท็จจริงมาชี้แจงให้พรรคได้เข้าใจ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่หากพบข้อสงสัยต้องมีการชี้แจงให้ทราบ เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไข แต่ตนไม่ทราบว่า เหตุใดนายพิเชษฐ จึงไม่เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการฯ ซึ่งตนเองก็เห็นตามข่าวเท่านั้น อาจจะไม่เป็นความจริงทั้งหมด จึงอยากให้นายพิเชษฐ เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงมากกว่า