กรมชลประทานเตรียมรับมือ ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นในช่วงวันที่ 22 – 29 เมษายน 65 เนื่องจาสถานีเขื่อนจิ่งหง ประเทศจีน มีการระบายน้ำ พร้อมสั่งการ สำนักงานชลประทานในพื้นที่ให้เตรียมความพร้อม และเตือน ปชช. ริมฝั่งโขงให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 9/2565 เรื่อง “แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น” เนื่องจากระดับน้ำที่สถานีเขื่อนจิ่งหง ประเทศจีน มีระดับเพิ่มขึ้นสะสมอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่วันที่ 18 - 21 เมษายน 2565 ประมาณ 2 เมตร หรืออัตราการระบายน้ำสะสม 1,590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทำให้มีการระบายน้ำเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีปริมาณฝนตกบริเวณท้ายเขื่อนจิ่งหง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 22 – 29 เมษายน 2565 ดังนี้
1. ช่วงเหนือเขื่อนไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บริเวณสถานีเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมระดับน้ำเพิ่มขึ้นสะสมในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 1.90 – 2 เมตร
2. ช่วงท้ายเขื่อนไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บริเวณตั้งแต่สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย ลงมาถึงสถานีโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มากกว่า 0.50 เมตร โดยขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนไซยะบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รถไฟจีน-ลาวเติบโตต่อเนื่องเดือนเดียวขนส่งสินค้าทะลุ 1 พันล้านหยวน
ผู้เชี่ยวชาญ เตือนรับมือ พายุไลออนร็อค จ่อเข้าไทย 11 ตุลาคมนี้
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อพื้นที่ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน รองอธิบดีกรมชลประทานจึงได้สั่งการไปยังสำนักงานชลประทานที่ 2,5,7 ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงและสำนักเครื่องจักรกล ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนและเกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขงในช่วงเวลาดังกล่าวเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ พร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำและการระบายน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์และระดับน้ำในแม่น้ำโขง
รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปยังสำนักงานชลประทานในพื้นที่หรือโทร 1460 สายด่วน กรมชลประทาน