"โม อมีนา" เตรียมขออนุญาตคุณแม่ ทำสารคดีชีวิต "แตงโม นิดา" เพราะไม่อยากให้คนลืมพี่สาวสุดที่รัก คาดเผยแพร่ครบรอบ 1 ปีที่จากไป ยอมรับรู้สึกเฉยๆ หลัง "นิก คุณาธิป" แถลง
ครบรอบ 2 เดือนแล้ว สำหรับการจากไปของนางเอกสาว "แตงโม นิดา" ที่เกิดเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตนั้นยังคงเป็นที่สนใจของสังคม โดยความคืบหน้าล่าสุดทางตำรวจจะแถลงปิดคดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 เม.ย.นี้
ล่าสุดทางด้านนักแสดงสาว "โม อมีนา" รุ่นน้องคนสนิทของแตงโม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เตรียมขออนุญาต "คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน" อย่างเป็นทางการ เพื่อจัดทำสารคดีชีวิตแตงโม เพราะไม่อยากให้ทุกคนลืมพี่สาวสุดที่รัก ซึ่งกลุ่มแก๊งเพื่อนจะเป็นคนควักเงินลงทุนเองทั้งหมด
โดยคาดว่าสารคดีชีวิตแตงโม จะเผยแพร่ให้ได้ชมในวันครบรอบ 1 ปีที่พี่จากไป นอกจากนี้สาวโมยังแสดงความคิดเห็น หลัง "นิก คุณาธิป" ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว เนื่องจากถูกพุ่งเป้าว่าเป็นแฟนเก่าที่เคยทำร้ายร่างกายแตงโม
เตรียมจัดทำสารคดีแตงโม?
"คือมันเป็นการพูดคุย โดยแม่แอนนาเป็นคนเสนอไอเดีย ว่าเธอฉันอยากทำสารคดีผู้หญิงที่ชื่อแตงโม ซึ่งถามว่าเราเห็นด้วยไหม เราเห็นด้วย เราก็เลยมีพล็อตตัวอย่าง ซึ่งเราก็จะมีทีมขึ้นมาเลยแหละ มันไม่ใช่งานง่าย มันคืองานใหญ่มากๆ เลย ต้องใช้ระยะเวลาในการทำ มันยากตรงที่ว่าเราจะต้องรวมฟุตของพี่แตงโมตั้งแต่เด็กจนโต ตั้งแต่ทำงานแล้วพี่ก็ทำงานมาค่อนข้างเยอะ ออกงานมาก็บ่อย ชีวิตพี่มีเรื่องราวอะไรหลายๆ อย่างที่คนอื่นยังไม่เคยรู้
เช่น เวลาที่โมทำเอ็มวีออกมา เวลาที่เรามีภาพวิดีโออะไรที่คนอื่นยังไม่ค่อยเห็นแล้วมองว่าอ๋อพี่เขาก็มีมุมน่ารัก ก็มีมุมแบบนี้อย่างนี้ที่เขาก็ไม่เคยเปิดเผยกับคนอื่น แล้วพอเราเสนอในมุมพี่เราน่ารักแบบนี้ เชื่อว่าทุกคนรักเขาแล้วก็อยากให้ทุกคนที่ดูสารคดีของพี่แล้ว รู้สึกว่านี่แหละคือ แตงโม นิดา หรือ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โม อมีนา เล่าคอยซัพพอร์ต แตงโม นิดา ยอมรับถึงสนิท แต่เคยโดนด่าเพราะขัดพี่
นิก คุณาธิป พร้อมแก๊งเพื่อน ฟาดกลับ โม อมีนา หลังออกมาแฉเคยทำร้าย แตงโม นิดา
โม อมีนา เสียใจดราม่าดูแล เบิร์ด แฟนแตงโม เกินหน้าที่ ลั่นถามจริงคิดได้ไง!
ใครเป็นคนลงทุนในการทำ?
"เราค่ะ โมไม่ได้ขอสปอนเซอร์จากใครเลย เราทำด้วยใจของเราจริงๆ เราอยากทำเพราะเรานึกถึงพี่เรา อยากทำเพื่อเก็บไว้ ไม่อยากให้คนลืมชื่อพี่โม ถามว่าถ้ามีคนที่รักพี่ อยากร่วมทุนด้วย เราก็ไม่ได้ขัดอะไรนะคะ เพราะมันเป็นการร่วมกันระหว่างโมกับแม่แอนนา แต่ถ้าใครยินดีจะช่วยเหลือเรา เราก็ขอบคุณ และที่คาดการณ์ไว้อยากจะให้เผยแพร่หรือว่าออนแอร์ วันครบรอบหนึ่งปี ถ้าทันนะคะ แต่ว่าสโคปงานมันใหญ่มากจริงๆ"
ต้องขออนุญาตคุณแม่ไหม?
"คุณแม่ก็ต้องมีการพูดคุย เป็นการขอแบบกิจจะลักษณะ ยังไงก็ต้องขอ ให้คุณแม่อนุญาตด้วย เพราะคุณแม่ก็คือส่วนที่สำคัญเหมือนกัน ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยค่ะ มันเป็นแค่ไอเดียที่พวกเราคิดกันไว้ ถ้าเสร็จงานพี่ทุกอย่าง 100% ก็คงเข้าไปคุยกับคุณแม่ อย่างที่เราบอกว่า มันคือโปรเจ็กต์ที่เราอยากจะทำเพื่อระลึกถึงพี่ มันไม่น่าจะมีอะไรที่เสียหาย คงไม่มีผลต่อเรื่องอะไรต่างๆ"
26 เม.ย.นี้ ตำรวจจะแถลงปิดคดีแล้ว เรามีความคิดเห็นยังไง?
"หนูพูดมาตั้งแต่แรกว่าหนูยังเชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงจะดีหรือไม่ดี เราจะไม่คอมเมนต์ เราถือว่าตอนนี้ตำรวจทำหน้าที่ของเขาได้เต็มที่แล้ว และสุดความสามารถแล้วจริงๆ หลังจากนั้นก็ขอให้เป็นเรื่องของอัยการต่อไป"
มันจะแบ่งเป็นสองฝั่งว่าเป็นอุบัติเหตุและไม่ใช่อุบัติเหตุ ส่วนตัวเรามองยังไง?
"โมมองในภาพที่มันเป็นไปได้ เช่น พยานหลักฐานมีอะไรบ้าง ข้อเท็จจริงเป็นยังไง อะไรที่มันจับต้องได้และเราจับต้องได้ด้วยตัวของเราเอง ด้วยตาของเรา โดยที่ไม่ได้มีการคิด อ๋อ..ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ ทุกอย่างที่โมเชื่อมันต้องผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ความคิดของคนอื่นๆ จะเป็นยังไง โมไม่ก้าวล่วงเขาก็แล้วกัน หนูบอกเลยว่าสองเดือนที่ผ่านมา ต่อให้มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หนูเหนื่อยแต่หนูเต็มใจทำ หนูไม่เคยหยุดหาความยุติธรรมให้พี่ ไม่ได้กลัวอะไรต่างๆ คือเรารักตัวเองนะ แต่ว่าเราก็รักพี่ด้วย"
เรื่องระหว่างเรากับ นิก คุณาธิป ได้เคลียร์กันหรือยัง?
"ไม่ได้คุยกันเลยค่ะ เราแค่พูดในรายการ ซึ่งถามว่าพี่เคยพูดไหม พี่เองก็เคยพูด ไปย้อนดูตามคลิปต่างๆ ได้ พี่ไม่ได้เล่าให้โมฟังคนเดียว โมว่าพี่เล่าให้ทุกคนฟัง บอกก่อนนะคะว่าไม่ได้อยากจะพูดถึง แต่เป็นการอธิบายเผื่อว่าใครที่ยังเข้าใจโมผิดๆ อยู่ ก็คือมันเป็นการพูดคุยกันในรายการตามที่ทุกคนเห็น หลักฐานทุกอย่างมีหมด มันก็เป็นการเล่า ซึ่งพี่ก็ไม่ได้เล่าให้เราฟังคนเดียว เรื่องนี้หลายๆ คนก็รู้ อันนี้คือข้อแรก
ข้อที่สองเรื่องที่น้องพูดว่าพี่โมยิ้ม พี่โมต้อนรับอย่างดี พี่โมมาพูดคุยด้วย มันไม่จริง เพราะโมบอกก่อนว่าโมใส่มาสก์ 2 ชั้น น้องไม่น่าจะเห็นว่าเรายิ้ม ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นก็เป็นข่าว คือวันที่พี่เต้ (ผู้จัดการพิ้งกี้ สาวิกา) ไปจิ้มหัว ก็คือวันเดียวกัน ซึ่งโมได้รับวอร์เข้ามาว่าน้องมา แต่เราเห็นว่าน้องนั่งฝั่งแฟนคลับ ซึ่งเรารู้สึกว่าน้องเขาเป็นเซเลบดาราก็ควรมานั่งฝั่งวีไอพี และโมก็เลยบอกให้คนไปพาเขามานั่งฝั่งวีไอพี เราก็ยืนรอเขาอยู่ตรงนั้น ก็ให้คนไปเชิญน้องมา เพราะหนูไม่รู้จักน้อง หนูก็ไม่รู้จะไปเชิญน้องมาด้วยตัวเองอย่างไร
พอน้องมา เราก็ชี้ไปที่เก้าอี้ว่าให้นั่งตรงนี้ อย่าไปนั่งตรงโน้นเท่านี้เลย ไม่ได้มีการชี้หน้าอะไรใดๆ แล้วหนูก็เดินไปรับเซเลบคนอื่น เพื่อให้เข้ามานั่งในงาน เพราะฉะนั้นหนูไม่ได้มีการพูดคุยกับน้องใดๆ นอกเหนือจากนี้แน่นอน และหนูก็บอกน้องที่เดินตามหลังน้องเขามา ว่าฝากดูแลด้วยนะ อันนี้คือคำพูดจากโม นอกเหนือจากนั้นที่ใครพูดอะไรก็แล้วแต่ ไม่ใช่ความจริงค่ะ"
เขาบอกว่าจะถีบมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่ว่าเขาจะถีบแตงโม ตรงนี้อาจจะเข้าใจผิดกันหรือเปล่า?
"เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เราไม่รู้หรอกค่ะ แต่ว่าสิ่งที่เรารับรู้มา คือคำพูดจากพี่ เพราะฉะนั้นทางเขาก็ไม่น่าจะมาโทษโมได้นะ เราไม่ได้นึกเองแล้วเอามาพูด แต่เราฟังมาจากพี่ เราก็รับรู้ตามที่เรารับรู้"
วันที่เขาแถลงข่าว เรามีอะไรติดใจไหม?
"เฉยๆ ค่ะ ปล่อยให้น้องพูด เราแค่มองว่าเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องของเขา เราไม่ยุ่งก็แล้วกัน แต่เรื่องอะไรที่มันไม่ใช่ความจริงโมจะพูด ไม่ได้ติดใจ เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้สนิทหรือไม่ได้รู้จักกับน้อง"
"ส่วนเรื่องป้าแตง ก็เอ็นดูนางกันเถอะนะคะ คือตั้งแต่ตอนที่คุณพ่อป่วย ถามว่าโมไปเยี่ยมมั้ย โมก็ไปเยี่ยม แล้ววันรับปริญญาพี่ ถามว่าโมเจอป้าแตงมั้ยก็เจอ ก็เห็นยืนเต้นกับพี่อยู่ จะบอกว่าไม่เคยเจอก็แปลกๆ เนอะ แต่เขาอาจจะไม่อยากจำเราก็ไม่เป็นไร"
"โมเคยพูดแล้วว่าโมจะอยู่ในวันที่พี่เขาโทรมาหาเรา วันที่เขาต้องการเรา เราถึงจะไปหา ที่เหลือเป็นชีวิตของเขา เขาเป็นพี่หนู ฉะนั้นอะไรที่เขาเคลียร์ได้ เราให้สิทธิเขา จะผิดจะถูกเราเข้าข้างเขา เราซัพพอร์ตเขา แต่วันใดที่เขารู้สึกว่าเราแก้ปัญหาให้เขาได้ เขาสะกิดเรามา เมื่อนั้นเราถึงจะไป"
เขาบอกว่าเขาไม่ใช่แม่บ้าน ไม่ใช่คนใช้?
"ผู้จัดการบ้าน หน้าที่คืออะไร ก็แม่บ้านไง"
เรื่องเงินเดือน เราก็ได้ยินแบบนั้นใช่ไหม?
"ใช่ ฮิปโปกับแอนนาพูดมั้ยล่ะ เขาแค่ไม่ชอบคำว่าแม่บ้านเท่านั้นแหละ"
ตอนที่ได้ฟังเขาแถลง เรารู้สึกยังไงบ้าง?
"ก็คิดว่าอู้หูแถลงข่าวเลย แต่หนูก็เฉยๆ ไม่ได้อะไร ฟังแล้วก็ไม่ได้โกรธ เฉยๆ"
ไม่มีอะไรจะโต้แย้งใช่ไหม?
"หนูไม่เคยโต้แย้งเขาเลย และเราก็ไม่เคยพูดชื่อใครตั้งแต่แรก ถ้าโมไปพาดพิงตั้งแต่แรกก็ว่ากันไป เราเล่าแค่ของเราก็น่าจะจบ ไม่น่าจะมีอะไร แต่เขาน่าจะเก็บทุกอย่างไว้ในหัวสมองและในหัวใจของเขา แต่เราพูดแล้วเราจบ"