กัญชง กัญชาไทย วันนี้พร้อมแค่ไหนในตลาดโลก

บากบั่น บุญเลิศ ประธานกรรมการ บริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด ระบุในงานสัมมนา CANNABIS WEALTH “สูตร (ลับ) ฉบับ รวยด้วย ...กัญชา” ที่ ห้อง แกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ว่า ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา กัญชา-กัญชง ได้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ การปลดล็อคจากการเป็นสิ่งเสพติด ทำให้อุตสาหกรรมกัญชา เติบโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดในประเทศไทย ถึง 7,000-8,000 ล้านบาท กลายเป็นโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ ได้เติบโตและเฉิดฉายบนเวทีโลก

​​​​​​

กัญชง-กัญชาไทย พร้อมแค่ไหน ?

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “นับถอยหลัง “ปลดล็อกกัญชา-กัญชง” ไทยพร้อมแค่ไหน?” ระบุว่า ที่ผ่านมาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไทยและโลกชะลอตัวลง การแพร่ระบาดที่มีแนวโน้มลดความรุนแรงน้อยลง จะเป็นโอกาสให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัว เพราะการเดินทางที่ง่ายขึ้นของนักลงทุนก็จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น

หลังปลดล็อค แค่ใบอย่างเดียว มีการซื้อขายกว่า 9.5 ตัน

รมว.ช่วย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า สำหรับกัญชง กัญชาเอง เดิมในต่างประเทศมีการพูดถึงโอกาสทางการแพทย์จากกัญชา วันนี้ประเทศไทยเองหลังจากปลดล็อคจากการเป็นสิ่งเสพติด ทำให้กัญชากลายมาเป็นโอกาสให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ของประเทศได้ หลังจากนี้จะมีการนำเสนอร่างกฎหมายปลดล็อคกัญชาเพิ่มเติมมากกว่าการใช้เฉพาะทางการแพทย์ในรัฐสภา ส่วนตัวเชื่อว่า จะผ่านวาระที่ 2 และ 3 ผ่านออกมาใน 6-7 เดือนนี้

ขณะที่กัญชาที่ใช้ทางการแพทย์ ทาง อย. ก็มีการอนุมัติยาตำหรับกัญชากว่า 50 ตำหรับ โดยผลิตแจกจ่ายไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 1.3 ล้านขวด/ซอง และใช้รักษาผู้ป่วยไปแล้วกว่า 1 แสนราย

ไทยเองมีการอนุมัติให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ที่ไม่มีสารเสพติดของกัญชาและกัญชงได้ โดยประเทศไทยมีการผลิตและออกเอกสารในการซื้อขายกัญชาที่ไม่ใช่สารเสพติดจาก อย. ถึง 5,092 ฉบับ ส่วนใหญ่เป็นการซื้อขาย "ใบกัญชา" กว่า 9.5 ตัน โดย 65% ของจำนวนที่มีการซื้อขายเป็นเป็นการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชง กัญชา ที่ได้รับอนุญาตมีอยู่จำนวน 80 รายการส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กาแฟปรุงสำเร็จ อาหารสำเร็จรูปพร้อมบริโภค เป็นต้น

ขณะเดียวกันปัจจุบันมีเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของกัญชง กัญชา และ สารสกัด CBD ที่กระทรวงสาธารณะสุขอนุมัติถึง 754 รายการ ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ทำความสะอาดและขัดผิว

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• 20 เมษายน วันกัญชาโลก แล้ว…การผลักดันกัญชาไทย สู่ธุรกิจ วงการแพทย์ ถึงไหน ?
• นักวิจัยเผย! สารสกัดจากกัญชา CBD อาจยับยั้งการติดเชื้อโควิดได้
• "อนุทิน" ลงนาม ปลดล็อก "กัญชา" จากยาเสพติด ประชาชนปลูกได้ไม่จำกัด

ปลดล็อคแล้วมีการลงทุนเพิ่มอยากเห็นได้ชัด

"จุดมุ่งหมายหนึ่ง ในการปลดล็อกกัญชาคือการลดรายจ่ายแชะเพิ่มรายได้ในครัวเรือนของพี่น้องประชาชน โดยการอนุญาตให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาทางการแพทย์และนำไปขายให้กับ รพสต. ได้" ดร.สาธิต ปิตุเตชะ กล่าว

รมว.ช่วย กระทรวงสาธารณสุข มองว่า หลังจากการปลดล็อคกัญชาไปแล้วก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งด้านอาชีพ รายได้ และการศึกษาของประเทศ ปัจจุบันมีกัญชาในสถาบันศึกษาทั่วประเทศเพื่อใช้ในการวิจัยตามที่ กระทรวงสาธารณสุขอนุญาต และหลังจากนี้ ร่างกฎหมายใหม่ ๆ จะเปิดโอกาสให้กัญชาไทย สามารถออกไปโลดแล่นในต่างประเทศได้ ส่วนตัวได้มีโอกาสเห็นการลงทุนในสถาบันการศึกษา การลงทุนในภาคธุรกิจต่าง ๆ เชื่อว่าหลังจากนี้ กัญชาจะกลายเป็นโอกาสในอนาคตมากขึ้นเรื่อย ๆ

ส่องโอกาส “กัญชา-กัญชง” ไทยบนเวทีโลก

นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดี กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ระบุว่า ในอดีตในการใช้จ่ายในการรักษาในโลกกว่า 4,000 ปี ในไทยเองก็มีการบันทึกในตำหรับยาโบราณ กว่า 300 ปี ซึ่งในปี 2522 สหประชาชาติมีการการนำกัญชาเป็นสารเสพติด ทำให้ประเทศไทยก็ต้องการปฏิบัติตาม จากข้อมูลในไทยมีกัญชาสายพันธุ์ไทยกว่า 50 สายพันธุ์ ซึ่งในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 การปลดล็อกกัญชาเพิ่มเติมจะทำให้สายพันธุ์ต่าง ๆ ขึ้นมาเชิดฉายในเวทีโลกได้

"เดิมในประเทศไทยเองก็มีการสกัดน้ำมันกัญชามาใช้เป็นยาในท้องถิ่น ดังนั้นการะทรวงสาธารณสุข ก็มีการคัดสูตรยาในตำหรับต่าง ๆ มาทำเป็นชุดความรู้ และสกัดเป็นยาแผนไทยที่ใช้ในการเสริมการรักษาโรคต่าง ๆ ควบคู่กับยาแผนปัจจุบันได้" นพ.ขวัญชัย กล่าว

นพ.ขวัญชัย มองว่า กัญชาเองสามารถไปต่อยอดธุรกิจอื่น ๆ ได้ทั้ง อุตสาหกรรมอาหาร , อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง , การทำตำหรับยาแผนไทย และภาคการศึกษา ซึ่งหากทุกภาคส่วนมองเห็นโอกาสทางธุรกิจเหล่านี้ จะกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจได้มหาศาล

"กลับจากการปลดล็อควันที่ 9 มิถุนายนนี้ส่วนตัวมองว่าตัวเองก็จะต้องมีการพูดคุยกันเพื่อทำให้การอนุญาตและการขออนุญาตง่ายมากขึ้น รวมถึงมีการเปิดโอกาสให้ภาคเกษตรกรมีโอกาสได้รับสิ่งสนับสนุนต่าง ๆ ในระดับชุมชนเพื่อให้การปลูกกัญชามีมาตรฐานและคุณภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงภาพวาดเองก็ต้องมีการแบ่งหมวดหมู่ของการปลูกกัญชาให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้ในครัวเรือน การใช้เชิงพาณิชย์ หรือ การใช้ทางการแพทย์" รองอธิบดี กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ระบุ

ดร.ไพศาล การถาง รองคณบดีฝ่ายบริหารและวางแผน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ระบุว่า สถานการณ์การปลูกกัญชายังต้องมาการให้ความรู้อีกมาก หลังจากนี้ในภาคการวิจัย ไทยเองก็ต้องมีการพัฒนาสายพันธุ์ต่าง ๆ ของไทยให้ทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งในไทยเองก็มีวิจัย-พัฒนาโดยทีมที่ผิดกฎหมายและพัฒนาสำเร็จอยู่หลายทีม แต่ภาคการศึกษาเองก็ต้องมีการนำความรู้จากทีมเหล่านั้นมาเข้าระบบให้ถูกกฎหมายและได้มาตรฐาน เพื่อต่อยอดการพัฒนากัญชาสายพันธุ์ไทยให้ต่อยอดในตลาดโลกได้

ดร.ไพศาล มองว่า ในต่างประเทศมีการพัฒนามาตรฐานเพื่อมาพิสูจน์มาตรฐานกลางในการส่งออกกัญชาของโลก ซึ่งหากกัญชาสายพันธุ์ไทย มีการพัฒนาและปลูกอย่างมีมาตรฐานก่อนในประเทศก็จะทำให้เป็นจุดแข็งในตลาดโลกได้

"สำหรับประเทศไทยยังมีหน่วยงานที่ตรวจวัดมาตรฐานกัญชาทั้งปลูกและส่งออกที่น้อยอยู่ หากมีการกำหนดมาตรฐานจุดนี้อาจเป็นข้อด้อยของธุรกิจกัญชาไทยและหากการปลดล็อคในวันที่ 9 มิถุนายนนี้เกิดขึ้นแล้วมีการตรวจมาตรฐานที่ไม่ดีพอก็อาจกลายเป็นปัญหาในอนาคต" ดร.ไพศาล ระบุ

นายพรชัย ปัทมินทร นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดร.ซีบีดี จำกัด ระบุว่า การปลดล็อกกัญชานี้ถือเป็นความรับผิดชอบของคนทั้งประเทศในการสร้างธุรกิจนี้ให้ตั้งโตมากขึ้น ทั้งภาคประชาชนที่ใช้งานและภาคอุตสาหกรรมที่จะนำไปใช้งานอย่างไร เพราะหากใช้ในทางการแพทย์สิ่งที่ถูกนำไปใช้ต่อคือการรักษาคน ส่วนตัวมองว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะมีกัญชาสายพันธุ์ไทยออกมาสู่ท้องตลาด และมองว่ากัญชาไทยเป็นสมบัติของชาติ

"ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายก้าวหน้าที่สุดในโลก โดยทวีปเอเชียเป็นทวีปที่มีผู้บริโภคมากที่สุดในโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นโอกาสให้กับอุตสาหกรรมนี้เป็นอย่างมาก" นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย มอง

นายพรชัย มองต่อว่า ธุรกิจกัญชาและกัญชงในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนตัวเพิ่งค้นพบว่าคนไทยมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ(Sleeping Disorders) แล้วต้องอาศัยตำรับยาตะวันตกถึงเกือบ 20 ล้านคน นั่นจึงกลายเป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์จากกัญชามากขึ้นในประเทศ ปัจจุบันมูลค่าการตลาดกัญชาทางการแพทย์ในปี 2563 ราว 26.3 ล้านบาท มีการคาดการว่า มูลค่าตลาดกัญชาไทยในปี 2567 จะพุ่งขึ้นไปกว่า 21,000 ล้านบาท และความรู้ในปัจจุบันเอง ก็เพิ่งนำความสามารถของกัญชาออกมาใช้ได้เพียง 20% เท่านั้น

โอกาสในการส่งออกกัญชาไทย

นายกฤษณ์ ธีรเกาศัลย์ กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด ระบุว่า ในยุโรปเริ่มมีความต้องการในการใช้ทางการแพทย์มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เรื่องในการเปิดโอกาสให้สามารถใช้กัญชาเพื่อความบันเทิงได้มากยิ่งขึ้นดังนั้นจึงเป็นโอกาสในการส่งออกของประเทศไทยอีกทางหนึ่ง ราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์กัญชาที่ผ่านการแปรรูปแล้วในยุโรปอยู่ที่กรัมละประมาณ 300 บาท ซึ่งหากประเทศไทยต้องการจะส่งออกสิ่งแรกที่จะต้องกลับมามอง คือ การทำให้ได้มาตรฐานเพื่อส่งออก ทั้งมาตรฐานการปลูก และคุณภาพสายพันธุ์ที่ดี

"ขณะที่อีกข้อได้เปรียบของการปลูกกัญชาในประเทศไทย คือ สภาพแวดล้อม ความชื้น และน้ำที่อุดมสมบูรณ์ จึงง่ายต่อการควบคุมคุณภาพและประหยัดพลังงาน" นายกฤษณ์ ระบุ

อร่าม ลิ้มสกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง สมาคมนักปลูกกัญชาอาชีพแห่งประเทศไทย ระบุว่า การมีสายพันธุ์ที่ดี การมีนักปลูกที่ดี จะกลายเป็นฟันเฟืองที่ดีในการพัฒนา จากประสบการณ์ที่เดินทางไปยังต่างประเทศพบว่าต่างชาติที่มีขายกัญชาก็มีส่วนผสมของกัญชาสายพันธุ์ไทย จนได้กลับมาพัฒนาสายพันธุ์ KD จนต่างชาติรู้จัก ซึ่งหากรัฐบาลปลดล็อคการพัฒนาสายพันธุ์ให้ง่ายขึ้นก็จะทำให้กลุ่มนักพัฒนาผิดกฎหมายได้ใช้ประสบการณ์ในการพัฒนาธุรกิจนี้ได้

“สูตร (ลับ) ลงทุน “กัญชา-กัญชง” อย่างไรให้รวย!”

อุนารินทร์ กิจไพบูลทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคนนาบิซ เวย์ จำกัด ระบุว่า ปัจจุบันธุรกิจกัญชาในประเทศไทยเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ในการทำธุรกิจกัญชาในช่วงที่กฎหมายยังไม่นิ่งผู้ลงทุนควรลงทุนในระยะสั้นและลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเร็ว ซึ่งผู้ปลูกเองก็ต้องระมัดระวังในการปลูกทั้งในเรื่องสายพันธุ์และวิธีการปลูกเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการนำไปแปรรูปต่อ

อุนารินทร์ มองว่า การทำธุรกิจกัญชาจำเป็นที่จะต้องมีพันธมิตรทางธุรกิจให้ครบวงจรเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ ทั้ง โรงปลูก โรงสกัด ตัวแทนจำหน่ายและระบบขนส่ง นอกจากนี้การหันมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์กัญชาก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้จะต้องหันมามองด้วย

พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล ที่ปรึกษาทางการแพทย์ บริษัท ธนบุรี คานาบิซ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในส่วนของโรงพยาบาลผู้บริหารก็มองเห็นถึงโอกาสในการใช้กัญชาทางการแพทย์ซึ่งเมื่อรัฐบาลมีการปลดล็อคก็ทำให้เปิดโอกาสการรักษาผู้ป่วยด้วยการแพทย์ทางเลือกได้มากขึ้น

ศิริญา เทพเจริญ กรรมการบริหาร บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด ระบุว่า การเปิดประเทศจะทำให้อุตสาหกรรมกัญชาในประเทศไทยมากยิ่งขึ้นดังนั้นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ที่อยากลงทุนจึงเป็นสิ่งที่บริษัทเล็งเห็นดังนั้นจึงมีการจัดโครงการ "ต้นไม้มหัศจรรย์สู่ความมั่งคั่งสีเขียว" เพื่อให้คนที่เข้าร่วมโครงการสามารถเริ่มปลูกและเติบโตไปพร้อมกับบริษัทได้โดยเริ่มต้นที่คนละ 10,000 บาท ไม่เกิน 100,000 บาท หรือไม่เกินคนละ 10 ต้นซึ่งแต่ละคนจะมีรหัสในการปลูกผ่านระบบ NFT ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้เทคโนโลยีให้ผู้ปลูกสามารถใช้เรียนรู้ที่จะใข้เทคโนโลยีในการซื้อขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อเป็นการพัฒนาและระบบนิเวศทางธุรกิจในธุรกิจนี้