“จุรินทร์” แจงคดี “ปริญญ์” พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ปกป้อง และไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ส่วนความเห็นคนในพรรคเป็นเรื่องปกติ เพราะสุดท้าย คนในพรรคจะได้ข้อยุติร่วมกัน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน และมอบถุงน้ำใจ บรรเทาทุกข์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิด -19 ที่ตำบลเวียงสระ อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อกรณีที่เกี่ยวข้องกับ คดีของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์
นายจุรินทร์ ระบุว่า เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม เพราะตรงนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดในการที่จะให้ได้เป็นผู้พิสูจน์ เพราะถ้าคนนอกไปพิสูจน์ก็อาจจะมีคำถามเรื่องความยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรม แต่ถ้าให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้พิสูจน์แล้ว ทุกฝ่ายก็ยอมรับได้ เพราะจากตำรวจไปอัยการ อัยการไปศาล หรือเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการที่มีการกำหนดไว้ชัดเจนแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ผมก็ย้ำสิ่งที่ได้พูดไปแล้วว่า เราไม่เข้าไปปกป้องใครก็ตามที่กระทำความผิด และพรรคก็จะไม่เข้าไปแทรกแซงในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมใดๆ ทั้งสิ้น” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนที่สื่อมวลชนถามว่าหลังจากนี้จะไม่มีการแสดงความเห็นจากลูกพรรคอีกใช่หรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของพรรค เพราะในพรรคก็มีการแสดงความเห็นในทุกกรณี ในทุกเรื่องตลอดระยะเวลาอยู่แล้ว มันเป็นวิถีทางที่เราทำงานร่วมกันอย่างนี้ แต่เมื่อสุดท้ายพรรคมีความเห็นอย่างไรที่เป็นความเห็นพรรค ก็ยอมรับกัน ก็เหมือนกับความเห็นที่ ดร.รัชดา ธนาดิเรก ได้ออกมาแถลง อันนั้นก็เป็นความเห็นของพรรค ซึ่งก็เป็นข้อยุติตรงนั้น
พรรคประชาธิปัตย์ยัน! ไม่แทรกแซงแม้เคยเป็นคนในพรรค ถ้าผิดจริง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 65 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 65 ว่า ต่อกรณีข้อกล่าวหาคดีคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์เข้าใจในความรู้สึกทั้งของผู้เสียหายและสังคม ทั้งนี้พรรคสนับสนุนให้ผู้เสียหายจากการถูกคุกคามหรือล่วงละเมิด ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมได้เดินหน้าโดยเร็ว อีกทั้งขอยืนยันว่าพรรคจะไม่แทรกแซงหรือดำเนินการใดที่เป็นการปกป้องคนผิดอย่างแน่อน
"พรรคยังคงยึดมั่นในจุดยืนเรื่องการต่อต้านการคุกคาม/ล่วงละเมิดทางเพศความรุนแรงในครอบครัว การเลือกปฏิบัติ โดยพร้อมรับฟังข้อมูล ความคิดเห็น และข้อเสนอจากประชาชน อีกทั้งมีทีมนักการเมืองหญิงที่ได้ทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมอย่างเข้มแข็งมาอย่างยาวนาน ให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายในทุกกรณี โดยเฉพาะด้านกฏหมาย เพื่อร่วมกันเป็นกลไกในการยุติปัญหาสังคมดังกล่าว"