อนาคตของการชำระเงินของโลก ที่ถูกคิดค้นมาตั้งแต่ยุค 1998 กำลังจะเป็นจริงเร็วๆนี้ โดยการฝังชิป NFC ลงบนผิวหนัง ซึ่งอาจจะทำให้เราไม่ต้องพกบัตรเครดิตหรือบัตร ATM กันอีกต่อไป หากทุกอย่างสามารถสแกนจ่ายเงินได้ด้วยมือของเรา
ไมโครชิปถูกฝังครั้งแรกในคนตั้งแต่ปี 1998 ในช่วงที่ผ่านมา ไม่มีการจำหน่ายหรือให้คนทั่วไปใช้กัน แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด19 ทำให้เราต้องลดการสัมผัสกันน้อยลง หลีกเลี่ยงการหยิบจับเงินสด คนทั้งโลกจึงหันมาสแกนจ่ายผ่าน QR หรือใช้บัตรสแกนกันมากยิ่งขึ้น
บริษัทอังกฤษ Walletmor กำลังนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถทำให้คนจ่ายหรือชำระเงินด้วยการฝังชิปขนาดเล็กประมาณเม็ดข้าวสารไปในผิวหนังที่มือ หรือเรียกได้ว่าเป็นการชำระเงินที่ไร้การสัมผัส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ชิปของ Walletmor มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กรัมประกอบด้วยไมโครชิปขนาดเล็กและเสาอากาศที่ห่อหุ้มด้วยพอลิเมอร์ชีวภาพคล้ายกับพลาสติก แต่เป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งตอนนี้ชิปจาก Walletmor ได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบ สามารถใช้งานได้ทันทีหลังจากฝัง และจะคงอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่ต้องกลัวว่าชิปจะไหลไปตามส่วนใดของร่างกาย (ไม่ใช่เหล็กไหล)
Walletmor ใช้ คือรูปแบบการสื่อสารระยะใกล้หรือ NFC ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสที่ปัจจุบันมีอยู่ในในสมาร์ทโฟนหลาย ๆ รุ่น ซึ่งเราอาจคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว
หนึ่งในผู้ที่พิจารณาการฝังชิป บอกว่าการปลูกถ่ายชิปมีเทคโนโลยีแบบเดียวกับที่ผู้คนใช้ในชีวิตประจำวันในอังกฤษ ตั้งแต่พวงกุญแจไปจนถึงปลดล็อกประตู บัตรโดยสารสาธารณะ หรือบัตรธนาคารที่มีฟังก์ชันการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส
ซึ่งหลากหลายคนได้ออกมาพูดถึงปัญหาของชิปดังกล่าว เพราะในอนาคตชิปจะก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่ และจะเต็มไปด้วยข้อมูลส่วนตัวของบุคคลหรือไม่ มันจะปลอดภัยจริงหรือหากฝังไว้ในมือ
แต่ในปัจจุบันยังสามารถฝังชิปได้ที่ประเทศอังกฤษเพียงที่เดียว หากเราต้องการนำกลับมาใช้ที่ไทยคงต้องคำนึงถึงว่า ร้านค้าในประเทศไทยยังมีน้อยมากที่รับการชำระเงินแบบ NFC และยังต้องติดตามว่าหากไปฝังชิปที่อังกฤษ จะสามารถนำกลับมาใช้ที่ประเทศเราได้อย่างไร ข้อมูลจะเชื่อมโยงกับตรงไหน