กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น รายงานพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอน สายพันธุ์ลูกผสม XE รายแรกของประเทศ เดินทางมาจากสหรัฐฯ
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ของประเทศญี่ปุ่น ยืนยัน พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เอ็กซ์อี (Omicron XE) หรือ โควิดโอไมครอน สายพันธุ์ลูกผสม XE รายแรกของประเทศเป็นผู้หญิงวัย 30 ปี ที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา มาถึงสนามบินนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport) ขอไม่เปิดเผยสัญชาติ
ผู้หญิงคนดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบสองเข็ม และไม่มีการแสดงอาการป่วย ได้เดินทางมาถึงญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. และได้ผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ทว่าเพิ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นโควิดโอไมครอน XE โดยทางสถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติ (National Institute of Infectious Diseases)
ตอนนี้เธอได้รับการรักษาที่สถานพยาบาลสำหรับผู้ติดเชื้อก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลากักกัน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
โควิดโอไมครอน XE กล่าวกันว่าการรวมตัวของสายพันธุ์สองชนิดย่อย BA.1 และ BA.2 ของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน มีรายงานฉบับหนึ่งระบุว่าอัตราการติดเชื้อของโควิดโอไมครอน XE ง่ายกว่า โควิดโอไมครอน BA.2 ถึง 12.6% แม้ว่าจะไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับความรุนแรงของโรคก็ตาม
คุณสมบัติพื้นฐานของสายพันธุ์ย่อยและประสิทธิภาพของยาและวัคซีนต้านจะถือว่าเหมือนกับชนิด BA.2
สถาบันฯ กล่าวว่า ตัวอย่างอีก 2 ตัวอย่างที่นำมาจากสนามบินที่ถูกกักกันนั้น ดูเหมือนจะเป็นส่วนผสมของสารพันธุกรรมโควิดโอไมครอน แต่ไม่สามารถระบุชนิดของพวกมันได้
สถาบันฯ ระบุ ณ วันที่ 5 เม.ย. พบว่ามีผู้ป่วยโควิดโอไมครอน XE ราว 1,100 รายที่ได้รับการยืนยันในสหราชอาณาจักรแล้ว ถึงแม้ว่าผู้ป่วยเหล่านี้จะมีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของการติดเชื้อในประเทศก็ตาม
คาซึชิ โมโตมูระ (Kazushi Motomura) ผู้อำนวยการแผนกสาธารณสุขของสถาบันสาธารณสุขโอซาก้า (Osaka Institute of Public Health) กล่าวว่า "โรคนี้ไม่ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหราชอาณาจักร ซึ่งตรวจพบก่อนหน้านี้ และไม่น่าจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในญี่ปุ่น ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกลัวมากเกินไป เราต้องใช้มาตรการพื้นฐานต่อไปเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เช่น การส่งเสริมการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม"