30 ปีที่รอคอย! "ฮาย อาภาพร" เป็นปลื้ม คว้าปริญญาตรีใบแรกในชีวิต พร้อมเผยในอนาคตอาจลงการเมือง อยากแก้ปัญหาชาวรากหญ้า
เรียกว่าเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ในชีวิตของนักร้องลูกทุ่งตัวแม่เชฟบ๊ะ "ฮาย อาภาพร" ที่ล่าสุดได้เข้ารับปริญญาตรีใบแรกในวัย 53ปี ซึ่งเธอสำเร็จการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ท่ามกลางความยินดีของแฟนๆ ที่ส่งให้อย่างท่วมท้น
ล่าสุด ฮาย อาภาพร ได้เปิดใจถึงเรื่องราวอันน่ายินดีดังกล่าวผ่านรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" กับพิธีกรชื่อดัง "หนูแหม่ม สุริวิภา" พร้อมเผยในอนาคตอาจลงเล่นการเมือง ซึ่งนโยบายที่อยากทำและสนใจ คือให้ความช่วยเหลือปัญหาชาวรากหญ้า
วินาทีที่เอาใบปริญญาไปฝากคุณแม่?
"แม่ดีใจมาก เอาใบไปให้แม่ ก็บอกว่าแม่ไม่ส่งหนูเรียนตอนเด็ก แม่บอกว่าเพราะแม่ไม่มีตังค์ จะกินยังไม่มีเลยนางพูด ก็เลยดีใจ แล้วตอนดึกน้องสาวไอ้แหวดมาอีก ก็เลยถ่ายรูปรวมกันกัน3คน ไอ้แหวดก็รับด้วยปริญญาโท"
ย้อนเล่าตอนเด็ก ทำไมถึงไม่มีโอกาสได้เรียน?
"ไม่มีเงินเรียน จริงๆตอนเด็ก โรงเรียนเขามีชุดนักเรียนให้นะต่อ ม.1 ตอนจบป.6 เราจะเข้าม.1 ที่นี้มันต้องเดินทางด้วยการใช้เงิน ต้องนั่งรถไปอำเภอ หนูอยู่ตำบล มันไกลซักประมาณ 18 กิโล ซึ่งเราต้องใช้เงินเดินทาง ที่นี้แม่ไม่มีตังค์ ต้องมีค่ารถ ค่ากิน แม่พูดเลยว่าอย่าเรียนเลย ช่วยกันทำงานเถอะ เรารู้สึกเสียใจมากตอนนั้นมันอยู่ในใจเราตลอดเลย เราเลยรู้สึกว่าพอถึงเวลา และมีคำพูดว่าไม่มีใครแก่เกินเรียน ตรงนี้มันยังใช้ได้ตลอดเวลา"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แพนเค้ก เขมนิจ จับมือ สารวัตรหมี คว้าปริญญาเอกสำเร็จ ขึ้นแท่นด็อกเตอร์
เบิร์ด ธงไชย เปิดใจหลังคว้าปริญญาเอก จากนี้ให้เรียก ด็อกเตอร์แดนซ์
เรียนต่อปริญญาตรี ใช้วุฒิอะไร?
"เราไปเรียนต่อศึกษาผู้ใหญ่ ตอนโตตอนหาเงินได้แล้ว เรียนเมื่อประมาณ10ปี เราวางแผนจะเรียนปริญญาตรี ก็เรียนให้จบ ม.3 และ ม.6 และก็เอาวุฒิไปต่อปริญญาตรีได้เลย ทุกคนสามารถทำได้นะ มันไม่ได้ยุ่งยากเลย อย่างคนทำงานแล้ว เราสามารถจัดสรรได้ดี แค่เสียเวลาอาทิตย์ละวัน แค่นั้นเอง"
จัดสรรเวลาให้เรื่องเรียนอย่างไร ทั้งทีงานเยอะมาก?
"ก็คือต้องบอกเลยว่าทุกวันอาทิตย์เราต้องเข้าห้องเรียน วันเสาร์เราต้องจัดตารางของเราให้เรียบร้อย อย่างถ้ามีงานเย็น ตอนเช้าจะขอเข้าห้องเรียน ก็จะไปคุยกับอาจารย์ คุยกับคนที่ดูแลคลาส เอาคลาสมาให้หนูก่อน บ้างทีทำไม่ทันก็จะเอามาทำงานที่บ้าน ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อย แต่มันอยู่ที่ใจ ถ้าใจคุณไปแล้วครึ่งนึงแล้ว อะไรก็ทำได้ ก็เรียนตามกำหนดเลย ตรีก็4ปี โทก็2ปีกว่า จนจบแล้ว ได้กำลังใจดีมาก เป็นอะไรที่วิเศษมาก"
ช่วงที่เรียน มีเรื่องกังวลหรือหนักใจอะไรไหม?
"ตอนที่หนูเข้าไปเรียน ตอนนั้นอายุ 46 เราต้องไปเรียนกับเด็กที่จบมา ก็ 20 ต้นๆ ที่จะต้องเรียนกับเรา ฉันต้องไปเจอเด็กน้อยหรอ แล้วมันจะคุยกันภาษาเดียวกันหรือเปล่า ก็คุยกับอาจารย์ แต่ตอนที่เรียนก็มีรุ่นเจ้าสัว รุ่นเจ้าของกิจการ หลายสาขาอาชีพ ก็มีคนที่รุ่นๆเดียวกับเราด้วยไม่มีความแตกต่าง ได้เพื่อนได้คอนเนคชั่น ได้งานมาเพียบ"
บางคนถือคติรวยแล้ว ไม่ต้องเรียน?
"ไม่ได้..เราต้องเรียน บางอย่างถ้าเราไม่เรียนมา เราจะไม่มีความรู้ ที่เขาบอกเรียน ไปนั่งเรียนได้อะไร จะบอกว่าได้อะไรเยอะมาก สมมุติว่าเรามีเงินแล้วเนี้ย เราจะจ้างศาสตราจารย์คนนี้มาสอน เราจ้างมาเลย 1 ชั่วโมง จ่าย 30,000มาสอน เขาไม่มานะ ในขณะเดียวกันเราไปเรียน เราได้เรียนต่อหนึ่งวัน เราได้ศาสตราจารย์มาสอน 4 คน เราได้อะไรจากการเรียนเยอะมาก สิ่งที่เราไม่ได้รู้อีกมุมหนึ่ง เราได้รู้ มีความสุขมาก ได้ครอบครัว ตอนนี้จะไปไหนนะก็จะมีกลุ่มในการเรียนจะเอื้อกัน"
สาเหตุที่เลือกเรียนสายการเมืองการปกครอง
"อนาคตอย่าพูดเลย มันอยู่ไกลตัว แต่ว่าเราก็ต้องเรียนรู้ (ลงผู้ว่าฯกทม.ไหม) ก็ไม่รู้อนาคตตัวเองเหมือนกัน สมมุติถ้าจะให้ลง นโยบายของเราอยากให้ประชาชนหรือชาวบ้าน คือเราเกิดมาจากต่างจังหวัด รากหญ้าเราจะรู้ เราจนมาก่อน เราจะรู้เลยว่าชาวสวน ชาวไร่ เขาต้องการอะไร เป้าหมายเขาคืออะไรเรารู้จุดตรงนี้ เรารู้ หนูว่าหนูคิดหนูทำได้"