ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำประเทศจีน ให้คำมั่นว่าจะ สร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบาย "ปลอดโควิด/โควิดศูนย์ราย" ที่เข้มงวด ในความพยายามควบคุมโควิด-19
ขณะที่โควิด-19 ในประเทศจีนกำลังเริงร่าอยู่นั้น ตบให้เศรษฐกิจขนาดใหญ่ของประเทศซบเซา ทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำประเทศ ส่งสัญญาณว่า รัฐบาลสนใจที่จะจำกัดวงความเสียหายหลักประกันต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก
"จีนต้องพยายามที่จะบรรลุการป้องกันและควบคุมสูงสุดโดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และลดผลกระทบของโควิด-19 ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม" ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวในวงประชุมของคณะกรรมการประจำพรรค ซึ่งเป็นการตัดสินใจสูงสุดของจีน
ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อาจเป็นการยอมรับโดยปริยายถึงผลกระทบของยุทธศาสตร์ "ปลอดโควิด/โควิดศูนย์ราย" ของจีน
ประเทศจีนกำลังเผชิญกับอัตราการติดโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่การระบาดครั้งใหญ่ครั้งแรกในอู่ฮั่นเมื่อต้นปี 2020 และส่วนใหญ่ยังคงมุ่งเน้นที่การควบคุมโควิด-19 ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ตัดสินใจที่จะอยู่ร่วมกับโควิด-19
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
เจ้าหน้าที่ได้กำหนดมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 เนื่องจากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั่วประเทศเมื่อต้นเดือนนี้ ประชาชนหลายสิบล้านคนถูกล็อกดาวน์ ธุรกิจถูกปิด และจำกัดการเดินทางในพื้นที่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่สำคัญหลายแห่ง
และแน่นอนว่ามาตรการควบคุมสุดเด็ดขาดเหล่านี้แลกมาด้วยราคา
นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะได้รับผลกระทบครั้งใหญ่จากการล็อกดาวน์ในวงกว้าง การปิดเมืองของจีนนานกว่า 4 สัปดาห์มีโอกาส 30% ที่อาจจะทำให้ GDP ลดลงประมาณ 1%
ทางด้าน นักวิเคราะห์ของโนมูระ (Nomura) บริษัททางการเงินของญี่ปุ่น เชื่อว่า กลยุทธ์ "ปลอดโควิด/โควิดศูนย์ราย" จะทำให้รัฐบาลจีนบรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ 5.5% ในปี 2022 ได้ยาก
ความกลัวต่อวิกฤตโควิด-19 เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ได้กระตุ้นให้เกิดการเทขายหุ้นจีนที่แย่ที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ กระตุ้นให้รัฐบาลก้าวเข้ามาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและหยุดยั้งการดิ่งเหวของกระดานหุ้น
ก่อนคำแถลงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีข้อบ่งชี้ว่า รัฐบาลจีนรู้สึกว่าการควบคุมโควิด-19 ไม่คุ้มเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจต้องสูญเสียเสถียรภาพอีกต่อไป
หลิว เหอ (Liu He) รองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาเศรษฐกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวในการประชุมสำคัญของรัฐบาล ว่า การควบคุมโควิด-19 ควรประสานกับการพัฒนาเศรษฐกิจ เขายังให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะ "ให้ความสำคัญกับกระตุ้นเศรษฐกิจ" ให้กลับมามีเสถียรภาพและเติบโตมากยิ่งขึ้น
เซินเจิ้น (Shenzhen) เมืองที่เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและการผลิตทางตอนใต้ของจีน ระบุว่า จะอนุญาตให้บริษัทต่าง ๆ กลับมาทำงานได้อย่าง "มีระเบียบ" ได้ภายใน 3 วัน หลังจากที่กำหนดมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด
Foxconn บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หนึ่งในซัพพลายเออร์หลักของ Apple กล่าวว่า ได้กลับมาดำเนินการผลิตบางส่วนในเซินเจิ้นแล้ว หลังจากหยุดดำเนินการ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนเมืองประกาศล็อกดาวน์เพื่อควบคุมสถานการณ์