3 ดารา-ยูทูบเบอร์ดัง กับมุมมองชวนคิด ปมดราม่า คิวเทโอปป้า

กำลังเป็นประเด็นร้อนที่สังคมพูดถึงกันอย่างมาก โดยเฉพาะแฟนๆ ในโลกออนไลน์ สำหรับกรณียูทูบเบอร์สายฮาชื่อดัง "คิวเทโอปป้า" หรือ "คิวเท ซิม" เจ้าของช่อง "Kyutae oppa" ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 7.85 ล้านคน

ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาโพสต์คลิประบายความอัดอั้น หลังโดนอดีตทีมงานทั้ง 4 คนที่ไว้ใจและรักเหมือนครอบครัวหักหลัง พวกเขาเรียกร้องขอวันหยุดและขอขึ้นเงินเดือน ทั้งที่ให้เดือนละ 3 หมื่นบาท ก่อนจะเจอหลักฐานบางอย่างที่ทำให้รู้ความจริงว่ามีการขโมยของแบรนด์เนม และมีการขายข้อมูลบริษัท  

จากประเด็นดราม่าดังกล่าว ส่งผลให้แฮชแท็ก #kyutaeoppa ยังคงเป็นกระแสร้อนแรงจนถึงวันนี้ มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นมากมาย หนึ่งในนั้นมี 3 ยูทูบเบอร์ชื่อดังที่ได้ออกมาแชร์มุมมองถึงดราม่าดังกล่าว ดังนี้

กอล์ฟ พิชญะ

เริ่มกันที่นักร้อง-นักแสดงหนุ่ม "กอล์ฟ พิชญะ" ที่ผันตัวไปทำช่องยูทูบ จนกลายเป็นยูทูบเบอร์ที่มีชื่อเสียง ด้วยความที่หนุ่มกอล์ฟรู้จักกับคิวเท จึงได้ออกมาโพสต์ถึงดราม่าที่เกิดขึ้น ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนจะเล่าถึงมุมน่ารักของคิวเทที่หลายคนไม่เคยรู้ ซึ่งอีกฝ่ายรู้สึกแย่มากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่คาดคิดว่าจะเจอกับเรื่องแย่ๆ แบบนี้

นอกจากนี้ หนุ่มกอล์ฟ ยังบอกด้วยว่าสิ่งที่ยูทูบเบอร์คนดังพูดไปนั้น ยังเป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น เพราะเรื่องจริงที่เขาเจอมาหนักมาก มีการลามไปถึงชีวิตส่วนตัว ก่อนจะฝากถึงองค์กรต่างๆ อย่ารับคนพวกนี้เข้างาน จะได้รู้ถึงคุณค่าของเงิน 3 หมื่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ต้นหอม ศกุนตลา ตั้งคำถามชวนคิด ปมดราม่า คิวเทโอปป้า

• คิวเทโอปป้า ดราม่าทีมงานขโมยของ ขายข้อมูลบริษัท กดดันขึ้นเงินเดือน

• เนียร์ ทีมงานคิวเท ออกโรงชี้แจง ยันไม่มีส่วน ลาออกก่อนมีปัญหา

โดยข้อความระบุว่า "วันหนึ่งผมโทรไปหาซิม แล้วบอกรีแอคชั่นเอมวีให้หน่อย น้องตอบรับว่ามาเลยๆ ผมก็ไปหาน้องที่สตู ไปถึงก็เห็นเดินหง๋อยแล้วบ้านเงียบมาก แล้วน้องเลยบอกว่า ทีมงานออกหมดเลย และเล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด คือ มันมากกว่าที่น้องได้พูดออกไปในคลิป เพราะสิ่งที่ผมรับรู้ คือมันปั่นมากกว่าแค่คนในทีมงาน แต่ลามไปถึงชีวิตส่วนตัวของน้อง

ผมนั่งคิดอยู่ว่า ถ้าเป็นผมเองผมจะทำไงวะ คงเสียใจและผิดหวัง และคงไม่กล้าให้ใจใครอีก แล้วตรรกะอะไรของคุณว่า 'เหนกำไรเจ้าของช่องได้เท่านี่ ทำไมเราได้แค่นี้ มันไม่แฟร์' เขาต้องแบกค่าใช้จ่าย ต้องจ่ายทีมงานอีกกี่คน ไหนจะต้นทุนการผลิต คอนเท้นต์ ของใช้สิ่งของต่างๆที่ทำให้เกิดคอนเทนต์ดีดีให้คนดู

แต่นี่มาขโมยของเขาบนความเชื่อใจ เขาเลยวางตรงนั้นที ตรงนี้ที แล้วเขาเลยโทษตัวเองมาตลอด ว่าคงหายเพราะไม่ได้ดูแลเอง ซิมเจอขนาดนี้ แต่วันนั้นที่เจอผมยังยิ้มได้คุยนั้นนี่กับผม แต่รับรู้ได้จากสายตาน้องมันเลยว่ามัน hurt หนักมาก

'คนใจดีด้วย อย่าเอาเปรียบเขา ควรจะเกรงใจเขานะ' ฝากถึงองค์กรใดๆ อย่ารับคนพวกนี้เข้างานจะได้รู้ว่า 3 หมื่นนี่ไม่ใช่ง่ายๆนะในเวลานี้ฝากถึงคนไปกดติดตามไอคนทำผิดพวกนี้ (ไปให้แสงพวกเขาทำไม) ว่าคนที่ไปกดตามอ่ะ เป็นคนไม่มีคุณภาพ เป็นแค่คนขี้เสือกแบบไร้ประสิทธิภาพ อย่าสร้างสังคมที่ว่า การทำผิด=การดังขึ้นfollowerจะเยอะขึ้น สู้ๆนะซิม"

โอ๊ต ปราโมทย์

มาต่อที่ "โอ๊ต ปราโมทย์" นักร้องหนุ่มที่ผันตัวมาทำรายการและสร้างยูทูบแชนแนลของตัวเอง ภายใต้ชื่อ "โคตรคูล" จนประสบความสำเร็จเป็นคนแรกๆ มีผู้ติดตามจำนวนมาก และยังติดโพล 1 ใน 50 สุดยอดองค์กรในฝันของคนรุ่นใหม่ที่อยากทำงานด้วย

โดยเหตุการณ์ดราม่าดังกล่าว หนุ่มโอ๊ตได้โพสต์ข้อความว่า "เห็นข่าววันนี้แล้ว รู้สึกว่าน้องๆ ในออฟฟิศกูน่ารักที่สุดแล้ว โคตรคูล" ก่อนที่จะเขียนข้อความเล่าถึงมุมมองส่วนตัวในฐานะเป็นเจ้าของบริษัทที่ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนี้

"การเป็นเจ้านายมันไม่ง่ายเลยละเอาจริง เราเป็นพนักงานมาก่อนก็พยายามเข้าใจมุมมองของน้องๆ ที่อยากได้เจ้านายในแบบที่หวัง เราเองก็พยายามเป็นเจ้านายในแบบที่เราคิดว่าคงจะดีเท่าที่เราทำได้ ดีบ้างดุบ้างว่ากันไปตามสถานการณ์

แต่ทำทุกอย่างด้วยความเข้าใจและความรักเสมอ และพร้อมยินดีที่พวกเอ็งจะเติบโตในแบบที่หวังกันไว้ น้องๆทุกคนก็เลือกบริษัทที่ให้เหมาะกับเราเพราะทุกที่มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป อยู่แล้วสบายใจทำงานให้สนุกได้เพื่อนร่วมงานที่ดีเจ้านายที่น่ารัก เป็นกำลังให้ทั้งเจ้านายและลูกน้องทุกคนนะครับ"

เอก Epic Time

ปิดท้ายกันที่ "เอก Epic Time" ยูทูบเบอร์ดังที่มีคนติดตามช่องกว่า 5 ล้านราย ได้โพสต์ความในใจ หลังรู้ข่าวดราม่าของเพื่อนสนิท ทำเอาเจ้าตัวช็อกมาก จนต้องออกมาเล่านิสัยที่แท้จริงของ คิวเทโอปป้า จากการที่เคยร่วมงานอยู่บ่อยครั้ง 

ซึ่งหนุ่มเอกเผยว่าไม่มีเลยสักครั้ง ที่คิวเทจะพูดถึงทีมงานในทางที่ไม่ดีหรือในแง่ลบ มีแต่ชื่นชมแม้ทีมงานจะทำงานพลาดก็ตาม อย่างวันเกิดของทีมงาน คิวเทก็ทักมาหาตน เพื่อให้ช่วยเลือกซื้อแบรนด์เนมให้ เพราะอยากเซอร์ไพรส์ทีมงาน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้คิวเทเครียดและเศร้ามาก

"ผมได้ยินเรื่องที่เกิดมาสักพักแล้วครับ ครั้งแรกที่ผมได้ยิน ผมก็ช็อกมากเช่นกันครับ เพราะผมได้ร่วมงานกับทีมซิมบ่อยๆ ช่วงที่เกิดเรื่องผมเห็นซิมเครียดและเศร้ามาก มันเหมือนเขาไม่เหลือใครแล้ว ผมเลยพยายามชวนออกมาหาอะไรทำ เพราะรู้เลยว่าถ้าอยู่คนเดียวก็คงจะคิดวนไปมาแน่นอน

ผมบอกเลยว่าซิมเป็นคนที่ให้ใจทีมงานมากจริงๆ วันเกิดทีมงานแต่ละคนก็ทักมาให้ผมช่วยหาซื้อแบรนด์เนมให้เป็นของขวัญทีมงานตลอด และผมยืนยันได้อีกเสียงว่าซิมไม่เคยพูดถึงทีมงานในทางที่ไม่ดีให้ผมฟังเลยจริงๆครับ แม้จะสนิทกันขนาดไหน ผมก็ไม่เคยได้ยินแม้แต่ครั้งเดียว มีแต่มาชมให้ผมฟังตลอด ผมรู้เลยว่ากว่าซิมจะผ่านเรื่องนี้มาได้ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่ยังไงก็จะบอกไว้ว่า กูคอยซัพพอร์ตมึงเสมอนะซิม มีอะไรให้ช่วยขอให้บอก"