ออสเตรเลีย สั่งคว่ำบาตร มหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่เชื่อว่า มีส่วนสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และมีความใกล้ชิดกับวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยมีมหาเศรษฐีโอลิกาช ถูกคว่ำบาตรครั้งนี้ 33 คน รวมทั้ง โรมัน อบราโมวิชด้วย
ออสเตรเลีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มี มาตรการ สั่งคว่ำบาตรเศรษฐีรัสเซียที่เชื่อว่า มีส่วนสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และมีความใกล้ชิดกับวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยมีมหาเศรษฐีโอลิกาช ถูกคว่ำบาตรครั้งนี้ 33 คน รวมทั้ง โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรเชลซี ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่เพิ่งถูกอังกฤษ และสหรัฐฯ คว่ำบาตรด้วย
รัฐบาลออสเตรเลีย ภายใต้การนำของสกอตต์ มอร์ริสัน เพิ่งจะ ประกาศคว่ำบาตรมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย 33 คนที่เชื่อว่าร่ำรวยมาได้จากยุคอดีตสหภาพโซเวียตล่มสลาย และมีความใกล้ชิดกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย หรือ มหาเศรษฐีโอลิกาช โดยออสเตรเลียไม่ใช่ประเทศแรกที่ออกมาตรการนี้ เพราะก่อนหน้านี้มีทั้งสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ที่เดินตามนโยบายนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อีลอน มัสก์ ทวิตข้อความ ท้าใส่เดี่ยววลาดิเมียร์ ปูติน มียูเครนเป็นเดิมพัน
Brent Renaud นักข่าวชาวอเมริกันคนแรกที่เสียชีวิตในสงครามรัสเซีย-ยูเครน
คลิปไวรัล บรรณาธิการสาว ชูป้ายประท้วงสงครามรัสเซีย - ยูเครน กลางรายการสด
โดย ในการประกาศคว่ำบาตรนั้น มีชื่อมหาเศรษฐีคนดังของโลก อย่าง โรมัน อบราโมวิช "เสี่ยหมี" มหาเศรษฐีเจ้าของทีมเชลซี ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่เชื่อว่ามีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ซึ่งเขาปฏิเสธมาตลอด
ทั้งนี้ "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิชเพิ่งถูกสหรัฐฯ และ อังกฤษคว่ำบาตรอายัดทรัพย์สินมาแล้วก่อนหน้านี้ มาตรการคว่ำบาตรของออสเตรเลียยังครอบคลุมสมาชิกครอบครัวของมหาเศรษฐีชาวรัสเซียทั้ง 33 คนด้วย
รัฐบาลออสเตรเลีย แถลงว่า การคว่ำบาตรเศรษฐีรัสเซีย ได้แสดงให้เห็นถึงคำมั่นของออสเตรเลียเพื่อคว่ำบาตรกลุ่มบุคคลที่ใช้สมบัติส่วนตัว และช่วยเหลือทั้งด้านเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ต่อรัสเซีย ออสเตรเลียยังเน้นย้ำให้การสนับสนุนอธิปไตย และความเป็นเอกภาพทางดินแดนของยูเครนรวมทั้งสนับสนุนชาวยูเครน
ขณะที่มหาเศรษฐีคนอื่น ๆ ที่ถูกออสเตรเลียคว่ำบาตร รวมทั้งนายอเล็กเซ มิลเลอร์, ดมิทรี เลเบเดฟ, เซอร์เก เชเมเซอฟ ผู้ก่อตั้งอัลฟ่า กรุ๊ป, นิโคลาย โทคาเรฟ ประธานสนามบินนานาชาติ เชเรเมตเยโว ในมอสโก , อิกอร์ ชูวารอฟ และคิริล ดมิเทรียฟ ผู้อำนวยการกองทุนรัสเซีย เป็นต้น