สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรมากขึ้น สั่งแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โต้เหตุ การรุกรานยูเครน โลกสะเทือนแค่ไหน ? น้ำมันในไทยจะแพงขึ้นอีกไหม ?
สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรมากขึ้น สั่งแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ตอบโต้เหตุ การรุกรานยูเครน โดยทันทีที่ข่าวออกมาทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นไปแตะ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนต่างกังวลต่อปริมาณน้ำมันในตลาดโลก
หากย้อนกลับไปมองความสามารถผลิตน้ำมันของรัสเซีย จะพบว่ารัสเซียอยู่ในอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา และซาอุดีอารเบีย
แต่การแบนของสหรัฐฯกลับส่งผลต่อราคาแค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น เพราะเมื่อราคาสูงขึ้นประเทศผู้ผลิตน้ำมันก็เล็งเห็นโอกาสในการสร้างกำไรจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทั้งจากการเร่งส่งน้ำมันเข้าสู้ตลาดโลก อย่างอิรักที่จะผลิตน้ำมันเข้าสู่ตลาดโลก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยน้ำมันแพงที่สุดจริงหรือ? เทียบอาเซียนประเทศไหนน้ำมันแพงสุด
ประเทศกลุ่มสหภาพโซเวียตเก่ามีดีอะไรบ้าง พลังงาน-แร่ธาตุ มูลค่ามหาศาล
นอกจากนี้หากมองย้อนกลับไปที่ข้อมูลจะพบว่าสหรัฐฯนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพียง 3% เท่านั้น นั่นหมายความว่าหากสหรัฐฯ แบนเพียงชาติเดียว ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดโลกมากนัก แต่หากทั่วโลกคว่ำบาตรไม่รับน้ำมันจากรัสเซียนั่นจะทำให้สัดส่วนการส่งออกน้ำมันของโลกหายไปถึงวันละ 5 ล้านบาร์เรล/วัน และยุโรปซึ่งพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียก็จะประสบปัญหาวิกฤตพลังงานตามมา
สำหรับประเทศไทยเอง การที่ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศสูงขึ้นไปด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันโลกไต่ระดับจากราว 90 ดอลลาร์/บาร์เรล ในวันก่อนการโจมตียูเครน มาอยู่ที่ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล
ซึ่งราคาประเทศไทยในช่วงนั้นก็ขึ้นมาสอดคล้องกับตลาดโลก
ปัจจุบันรัฐบาลมีการสั่งตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับ 30 บาท/ลิตร โดยใช้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จ่ายส่วนต่างให้กับประชาชน จึงทำให้ราคาเบนซินขึ้นไปแตะ 50 บาท/ลิตร
หลังจากนี้เราคงต้องจับตามองกันต่อไปว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะคงที่จนราคาขายปลีกในประเทศลดหรือไม่