Google Maps ประกาศหยุดให้บริการข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ชั่วคราวในยูเครน เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์จากการโจมตีของ รัสเซีย
การยุติการให้บริการข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ชั่วคราว ของ Google Maps ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถดูข้อมูลได้ว่าจุดไหนมีผู้คนหนาแน่น แต่ยังสามารถใช้นำทางได้ปกติ โดย Google ให้เหตุผลว่า เพื่อความปลอดภัยของประชาชนจากสงครามทางทหาร
การทำงานของ Google Maps เป็นการเก็บข้อมูลแบบไม่ระบุตัวตนจากโทรศัพท์ระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ แล้วนำมาคำนวณเป็นข้อมูลในการประเมินเวลาเดินทางและแสดงผลต่าง ๆ เช่น สถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่นช่วงโควิด
Google Maps เหมือนกันแต่ชายแดนไม่เหมือนกัน
แม้ Google Maps จะมีความแม่นยำสูงในหลายพื้นที่ แต่ Google ยังคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศต่าง ๆ ที่ให้บริการอยู่ หาก Google Maps แสดงผลชายแดนที่มีความขัดแย้งของประเทศนั้น ๆ ผิด อาจนำไปสู่การกีดกั้นจากรัฐบาลประเทศนั้น ๆ ในข้อหาสร้างความแบ่งแยกในประเทศนั้น ๆ ได้
ตัวอย่างที่เห้นได้ชัดคือ พื้นที่ที่มีความขัดแย้งก่อนหน้านี้อย่างแคว้นไครเมียที่เป็นข้อพิพาทระหว่างยูเครนกับรัสเซีย Google Maps เลือกที่จะแสดงเป็น 3 แบบแทน คือ ถ้าเข้าจากยูเครน แผนที่ของไครเมียจะปรากฎเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนหรืออยู่ที่เดิมก่อนที่จะถูกรัสเซียบุก แต่ถ้าเข้าจากรัสเซีย ไครเมียจะอยู่แยกจากยูเครนโดยมีเส้นแบ่งเป็นเส้นหนาทึบ สำหรับคนที่เข้าจากประเทศอื่นๆ จะเห็นแผนที่ของไครเมียมีเส้นประซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเขตแดนที่มีข้อพิพาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนรัสเซียอดดูหนังใหม่! เพราะค่ายยักษ์ใหญ่ต่างหยุดฉายภาพยนตร์ที่รัสเซีย
เทควันโดโลกปลดสายดำ วลาดิเมียร์ ปูติน จากเหตุสงครามรัสเซีย - ยูเครน ล่าสุด
ปูติน เสี้ยมกองทัพยูเครน ชี้ให้เลิกฟัง เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน
นอกจากนี้ เยอรมนี และ ออสเตรีย บริการ Google Street View ของ Google Maps ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากข้อกฎหมายเรื่องสิทธิส่วนบุคคล เพราะถือว่าหน้าตาบ้าน เลขที่บ้าน ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ เราจึงจะเห้นว่าบ้านหลายหลังถูกเบลอออกจาก Street View ทั้งหลัง
ส่วนในเกาหลีใต้ มีการปิดกั้นข้อมูลถนนต่าง ๆ ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคดนดลยีต่างชาติอย่าง Google เพราะต้องการผลักดันให้แอปฯ แผนที่ของเกาหลีเป็นที่นิยมทั้งสำหรับคนในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สามารถใช้ประกอบการทำสงครามได้หรือไม่ ?
แม้ว่าด้านชายแดนจะไม่ได้เหมาะกับการใช้ทำสงคราม แต่ข้อมูลจาก Google Maps สามารถเป็นสารตั้งต้นในการประกอบยุทธวิธีได้ ย้อนกลับไปถึงข้อมูลการจราจรที่มีการยุติการให้บริการ หากนำข้อมูลความผิดปกติของการจราจรในบางพื้นที่และบางช่วงเวลามาวิเคราะห์ อาจอนุมานได้ว่าจุดดังกล่าวเป็นจุดที่มีกำลังทหารอยู่ หรือมีความผิดปกติเกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา นักวิจัยในสหรัฐ นำข้อมูลเดียวกับที่ Google Maps ใช้ในการทำข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์มาประกอบกับแผนที่ดาวเทียม พบว่า มีรถติดช่วง 03.15 น. ในเมืองเบลโกรอด ของรัสเซีย ใกล้ชายแดนยูเครน แม้ข้อมูลนี้จะไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นข้อมูลจากโทรศัพท์ของทหาร แต่นั่นก็แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติบางอย่างได้
สุดท้ายแม้ข้อมูลหลาย ๆ อย่างเมื่อเปิดเผยแล้วอาจเป็นเรื่องที่ดี สร้างความสะดวกสบาย แต่บางครั้งข้อมูลที่ถูกเปิดเผยผิดที่ผิดเวลาอาจเป็นภัยต่อตัวเราได้เช่นกัน
According @googlemaps, there is a "traffic jam" at 3:15 in the morning on the road from Belgorod, Russia to the Ukrainian border. It starts *exactly* where we saw a Russian formation of armor and IFV/APCs show up yesterday.
— Dr. Jeffrey Lewis (@ArmsControlWonk) February 24, 2022
Someone's on the move. pic.twitter.com/BYyc5YZsWL
อ้างอิง