แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน ถูกตำรวจพาไปจำลองเหตุการณ์ แตงโม นิดา ตกเรือกลางแม่น้ำ คนแรก โดยให้ทำท่านอนเหมือนจริง โดยมีสแตนอินนั่งยองปัสสาวะ ซึ่งจะมีการจำลองทั้งหมด5ครั้ง ครั้งละ 1คน เพื่อดูพฤติการณ์แต่ละคนบนเรือ ว่าเป็นไปตามคำให้การก่อนหน้านี้หรือไม่
ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา วันที่ 28 ก.พ. 65 ช่วงเวลา 21.00น. ตำรวจชุดคลี่คลายคดีของคุณ แตงโม นิดา นักแสดงสาวที่พลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต ได้มาเตรียมความพร้อมกันที่ท่าน้ำนนทบุรี เพื่อทำการจำลองเหตุการณ์ ในวันที่เกิดเหตุคุณแตงโม ตกเรือลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีทั้ง ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานต่างๆมาเตรียมความพร้อม พร้อมกับนำเรือ สปีดโบ๊ท 2 ลำ ในขนาด 25 ฟุต เท่ากับเรือลำเกิดเหตุ และสแตนอินที่เป็นคุณแตงโม มาเตรียมในการจำลองเหตุการณ์ด้วย ซึ่งเรือลำหนึ่งจะมีพยานนั่งไปด้วย และเรืออีกลำ จะไปบันทึกภาพตามคำให้การ
จากนั้นเวลา 21.58น. หนึ่งใน พยาน คือ แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ เดินทางมาถึงที่ท่าน้ำนนทบุรี เพื่อเป็นพยานคนแรกในการจำลองเหตุการณ์ และเมื่อมาถึงมนักข่าวได้ถามว่า รู้สึกกลัวหรือกังวลหรือไม่ที่หลับมานั่งเรืออีกครั้ง แซน ตอบว่า ไม่กังวล และพร้อมให้การทุกอย่าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เจาะธุรกิจ "โรเบิร์ต ไพบูลย์-จ๊อบ นิทัศน์" ตัวละครสำคัญบนเรือ "แตงโม นิดา"
ตรวจซ้ำไขกังขา! รองผบ.ตร. ตรวจเรือสปีดโบ๊ทคันที่ “แตงโม นิดา” ตำน้ำ
แซน วิศาพัช เพื่อนคนสุดท้ายที่เจอ แตงโม นิดา ไลฟ์สไตล์หรูหรา คฤหาสน์ใหญ่โต
เจ้าหน้าที่ตำรวจพา แซน เดินไปที่เรือ และให้ใส่ชูชีพ จากนั้นพาขึ้นเรือ ออกจากท่าน้ำนนทบุรี เวลาประมาณ 22.02น.เพื่อไปจำลองเหตุการณ์ ในเวลาใกล้เคียงกับเวลาจริงที่เกิดเหตุ โดยเรือแล่นไปทางทิศใต้ของแม่น้ำเจ้าพระยา มุ่งหน้าไปยังจุดที่จะจำลองเหตุการณ์ ผ่านท่าเรือพิบูลสงคราม1 หยุดตรงนี้ประมาณไม่ถึง 5 นาที ก่อนมุ่งหน้าไปต่อที่สะพานพระราม 8 ซึ่งตามคำให้การคือไปทำการถ่ายรูปเพราะมีรูปภาพปรากฎตามพยานหลักฐาน ก่อนที่จะแล่นเรือกลับมาด้วยความเร็วที่ทำให้น้ำมีลูกคลื่นได้ แล้วมาชะลอเรือใกล้กับบริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม1 อีกครั้ง เพราะตามคำให้การของพยาน ระบุว่า จุดที่คุณแตงโมนั่งปัสสาวะแล้วพลัดตกเรือเป็นบริเวณกลางแม่น้ำ ที่มองเห็น โรงไฟฟ้า กฟผ.บางกรวย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ให้ แซน มาทำท่านอนชันเข่าที่ท้ายเรือ ตามคำให้การ และให้สแตนอินแทนคุณแตงโม มานั่งทำท่าปัสสาวะท้ายเรือ แต่ในขณะที่จำลองเหตุการณ์ มีทั้งแบบที่เรือจอดนิ่งไหลไปตามกระแสน้ำ ซึ่งกระแสน้ำในช่วงจำลองเหตุการณ์เรือจะไหลไปทางทิศใต้ของแม่น้ำเจ้าพระยา(ก็คือไหลกลับไปสะพานพระราม7เป็นหลัก) รวมถึงจำลองตอนเรือวิ่ง ซึ่งทุกคนบนเรือที่จำลองเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ให้สวมใส่เสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัยทุกคน จากนั้นเมื่อจำลองเหตุการณ์เสร็จสิ้นก็เดินทางกลับมาที่ท่าเรือนนทบุรีทันที
สำหรับการจำลองเหตุการณ์ในครั้งนี้ จะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดและจะมีการจำลองทั้งหมด 5 ครั้ง ครั้งละ1คน เพื่อจะพิสูจน์ทราบว่า เมื่อมาจำลองแล้วใครมีพฤติการณ์อย่างไรบนเรือ และจะเป็นไปตามคำให้การของทั้ง 5 คนที่เคยให้การไว้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ทั้ง5คนให้การสอดคล้องกัน
โดย พลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยไว้ว่า การจำลองเหตุการณ์จะทำให้รู้ว่าตามที่พยานพูดว่าจะนั่งได้นั้นทำได้หรือไม่ ในขณะที่เรือวิ่ง และมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นได้บนเรือ ในน้ำมีคลื่นกับไม่มีคลื่นอาการเรือเป็นอย่างไร
ขณะที่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บะญขาการตำรวจแห่งชาติ ย้ำว่า จะต้องทำการจำลองให้เหมือนจริงทั้งหมด รวมถึงจะดูตามหลักฐานที่เขาแจ้งมาว่า วันเกิดเหตุเป็นอย่างไร ประกอบกับสภาพความเป็นจริงว่าเป็นไปได้หรือไม่ โดยจะดูทั้งหมดตามข้อมูลที่ได้รับ ว่าเป็นไปได้ตามหลักฐานที่พบเห็นและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือไม่อย่างไร