svasdssvasds

สรุปให้ รัสเซีย​ -​ ยูเครน สถานการณ์ความตึงเครียดแนวชายแดนที่ทั่วโลกจับตา

สรุปให้ รัสเซีย​ -​ ยูเครน สถานการณ์ความตึงเครียดแนวชายแดนที่ทั่วโลกจับตา

รัสเซีย​ -​ ยูเครน สถานการณ์ความตึงเครียดแนวชายแดนที่ทั่วโลกกำลังจับตา หลังจากที่ วลาดิมีร์ ปูติน ลงนามในกฤษฎีกาเพื่อรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระและความเป็นเอกราชของทั้ง 2 แคว้น พร้อมสั่งกองกำลังทหารรัสเซียเข้าประจำการในโดเนตสก์และลูฮันสก์

ทั่วโลกร่วมจับตาความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย - ยูเครน สถานการณ์ความตึงเครียดแนวชายแดนระหว่างประเทศ หลังจากที่ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย สั่งการให้กองกำลังทหารรัสเซียเข้าประจำการในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ หลังลงนามในกฤษฎีกาเพื่อรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระและความเป็นเอกราชของทั้ง 2 แคว้นได้ไม่นาน

 ยูเครนเป็นหนึ่งในประเทศที่แยกตัวออกมาจากอดีตสหภาพโซเวียต เมื่อปี ค.ศ.1991 ซึ่งตั้งแต่ประกาศเอกราชจนถึงปัจจุบัน ทั้งรัฐบาลและประชาชนชาวยูเครน ก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและคัดค้านการเป็นพันธมิตรกับประเทศรัสเซีย จนมีเหตุการณ์ไม่สงบอยู่เรื่อยๆ 

 สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์ ตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน และเป็นพื้นที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ฝักใฝ่รัสเซีย โดยการที่ประธานาธิบดีปูตินลงนามรับรองความเป็นเอกราชของทั้ง 2 แคว้นนี้อาจกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งครั้งใหม่ต่อวิกฤตการณ์ในยูเครน เนื่องจากถือเป็นการฉีกข้อตกลงมินสก์ ซึ่งมีเป้าหมายในการยุติสงครามแบ่งแยกดินแดนในดอนบาส หลังจากที่ได้คร่าชีวิตของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและกองกำลังยูเครนถึง 15,000 คน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ด่วน! ยูเครน ระอุ ปูติน รับรองสถานะภาพรัฐอิสระ ทั่วโลกหวั่นเกิดสงคราม

• EU ขู่รัสเซีย โดนคว่ำบาตรแน่หากบุกยูเครน

• 'โจ ไบเดน' ต่อสายตรงเตือน 'ปูติน' หากรัสเซียบุกยูเครน จะถูกตอบโต้

 ในระหว่างการแถลงเพื่อประกาศเอกราชของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์ ประธานาธิบดีของรัสเซียได้กล่าวตำหนิสหรัฐ และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่แสดงท่าที่อันเป็นปรปักษ์ต่อรัสเซีย ด้วยการกล่าวหาว่ารัสเซียมีแผนที่จะยกพลบุกโจมตียูเครน โดยปูตินมองว่าหากนาโตยอมรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก ก็จะนำไปสู่การจัดตั้งกองกำลังในเขตแดนของยูเครน ซึ่งจะเป็นภัยต่อรัสเซียในวันข้างหน้า

 ด้าน โจ ไบเดน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันทำการค้าและการลงทุนกับสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน และยังห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันทำธุรกรรมด้านการบริการ, การซื้อขายสินค้าและเทคโนโลยี ทั้งทางตรงและทางอ้อมกับสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์

 ล่าสุด บลิงเกน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มีคำสั่งอพยพนักการทูตและบุคลากรของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐทั้งหมดในยูเครน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเมืองลวิลย้ายไปยังโปแลนด์ชั่วคราว หลังหวั่นวิตกเรื่องความปลอดภัย จากกรณีรัสเซียสั่งระดมกำลังทหารเข้าสู่แคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ของยูเครน

 ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส รวมถึงชาติตะวันตกอื่นๆ ออกแถลงการณ์ประณามการดำเนินการของรัฐเซียแต่ยังไม่ชัดเจนว่ารัสเซียจะสั่งให้กองกำลังบุกเข้าไปในยูเครนตะวันออก เพื่อปฎิบัติการธำรงรักษาสันติภาพตามที่ปูตินระบุเมื่อใด

 การลงนามรับรองอิสรภาพของดินแดนโดเนตสค์และลูฮานสค์โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ทำให้ "เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ลีเยน" ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป และนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานรัฐสภายุโรป ระบุว่า การกระทำของปูตินถือเป็นการละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน และสหภาพยุโรป (อียู) จะตอบโต้ด้วยการคว่ำบาตร

 นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าสหรัฐและชาติพันธมิตรได้ขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เรียกประชุมฉุกเฉินในช่วงค่ำวันจันทร์นี้ตามเวลาในสหรัฐ หรือช่วงเช้าวันอังคารที่ 22 ก.พ. ตามเวลาในไทย

 การประกาศรับรองเอกราชของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนดังกล่าวเท่ากับปูตินทำลายข้อตกลงสันติภาพมินสค์ ที่มีการลงนามไว้ในปี 2558 ซึ่งกำหนดให้ทางการยูเครนต้องให้อำนาจปกครองตนเองในวงกว้างแก่กลุ่มกบฏในภูมิภาค ซึ่งทำให้ชาวยูเครนจำนวนมากไม่พอใจเพราะมองว่าเป็นการยอมจำนนต่อรัสเซียและยังส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของยูเครน

 หากเกิดการุกรานของรัสเซียต่อยูเครนจริง พันธมิตรโลกตะวันตกจะต้องประสานความเเตกต่างเรื่องมาตรการลงโทษที่รุนเเรงต่อรัสเซีย

related