svasdssvasds

ระวัง! 6 ข้ออ้าง สายเรียกเข้าจากมิจฉาชีพ พร้อมแนะ 3 วิธีตรวจสอบ E-mail Scam

ระวัง! 6 ข้ออ้าง สายเรียกเข้าจากมิจฉาชีพ พร้อมแนะ 3 วิธีตรวจสอบ E-mail Scam

เตือนภัย! 6 ข้ออ้าง สายเรียกเข้าจากมิจฉาชีพที่มักใช้จะหลอกเหยื่อ ​​​​​​​​​​ลักษณะกลโกง พร้อม 3 วิธีตรวจสอบ E-mail Scam ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

 อาจเป็นเพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้หลายอาชีพต้องตกงานและหาทางกู้ยืมเงิน ซึ่งอาจทำให้หลายๆ คนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่โทรเข้ามาเสนอทางเลือก เชื่อว่าใครหลายคนจะเคยเจอกันมาบ้าง มีเบอร์โทรแปลกโทรเข้ามาพอรับสายบอกเราเป็นผู้โชคดี ได้รับรางวัลเป็นเงินสด ของสมนาคุณต่างๆ ให้คุณโอนเงินค่าจัดส่ง ค่ามัดจำ หรือขอหมายเลขบัญชีต่างๆ อย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด เพราะคุณอาจเป็นหนึ่งคนที่โดนมิจฉาชีพหลอกได้

 เพจเฟซบุ๊ก "ตำรวจสอบสวนกลาง" ได้แจ้งข้อมูลว่า สายเรียกเข้าที่ท่านกำลังคุยอยู่ตอนนี้ อาจจะเป็นมิจฉาชีพโทรมาคุยกับท่านก็เป็นได้ โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะสุ่มเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อหาเหยื่อ หลังจากนั้นจะพูดคุยโน้มน้าว หรือข่มขู่ให้เหยื่อตกใจ หลงเชื่อ และโอนเงินให้มิจฉาชีพ 

​​​ลักษณะกลโกง

มิจฉาชีพจะสุ่มเบอร์เพื่อโทรศัพท์ไปหาเหยื่อ และใช้ข้อความอัตโนมัติสร้างความตื่นเต้นหรือตกใจให้กับเหยื่อ บางครั้งก็แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ หลอกให้เหยื่อทำรายการที่ตู้เอทีเอ็มเป็นเมนูภาษาอังกฤษโดยแจ้งว่าทำเพื่อล้างรายการหนี้สิน หรืออาจหลอกให้เหยื่อไปโอนเงินให้หน่วยงานภาครัฐเพื่อตรวจสอบ ซึ่งมิจฉาชีพเหล่านี้จะอาศัยความกลัว ความโลภ และความรู้ไม่เท่าทันของเหยื่อ โดยข้ออ้างที่มิจฉาชีพมักใช้หลอกเหยื่อมีดังนี้

 

  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 6 กลโกงมิจฉาชีพยอดฮิตที่มักแอบอ้างใช้ช่องทางไปรษณีย์ไทย

• How to ตรวจเบอร์แปลก เช็กเบอร์โทรศัพท์ เผื่อเป็นมิจฉาชีพ

• สรุปให้...DHL คืออะไร? หลังกลายเป็นบริษัทโปรดที่มิจฉาชีพลวงเหยื่อ

• บัญชีเงินฝากถูกอายัด/หนี้บัตรเครดิต

 ข้ออ้างที่มิจฉาชีพนิยมใช้มากที่สุด คือหลอกว่าเหยื่อถูกอายัดบัญชีเงินฝากและเป็นหนี้บัตรเครดิต เพราะเป็นเรื่องที่สามารถสร้างความตกใจแ ละง่ายต่อการชักจูงเหยื่อให้โอนเงิน โดยมิจฉาชีพจะใช้ระบบตอบรับอัตโนมัติแจ้งเหยื่อว่าจะอายัดบัญชีเงินฝากเนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น เป็นหนี้บัตรเครดิตหรือกระทำการผิดกฎหมาย โดยอาจมีเสียงอัตโนมัติ เช่น “คุณเป็นหนี้บัตรเครดิตกับทางธนาคาร กด 0 เพื่อติดต่อพนักงาน” เมื่อเหยื่อตกใจ ก็จะรีบต่อสายคุยกับมิจฉาชีพทันที หลังจากนั้นมิจฉาชีพจะหลอกถามฐานะทางการเงินของเหยื่อ หากเหยื่อมีเงินจำนวนไม่มากนัก มิจฉาชีพจะหลอกให้เหยื่อโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม แต่หากเหยื่อมีเงินค่อนข้างมากจะหลอกให้ฝากเงินผ่านเครื่องฝากถอนอัตโนมัติ 

• บัญชีเงินฝากพัวพันกับการค้ายาเสพติดหรือการฟอกเงิน

 เมื่อมิจฉาชีพหลอกถามข้อมูลจากเหยื่อแล้วพบว่าเหยื่อมีเงินในบัญชีเป็นจำนวนมาก จะหลอกเหยื่อต่อว่าบัญชีนั้นๆ พัวพันกับการค้ายาเสพติดหรือติดปัญหาการฟอกเงิน จึงขอให้เหยื่อโอนเงินทั้งหมดมาตรวจสอบ

เงินคืนภาษี

 ข้ออ้างคืนเงินภาษีจะถูกใช้ในช่วงที่มีการยื่นภาษีและมีการขอคืน โดยมิจฉาชีพจะแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากรแจ้งว่า เหยื่อได้รับภาษีคืนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะต้องยืนยันรายการและทำตามคำบอกที่ตู้เอทีเอ็ม แต่แท้จริงแล้วขั้นตอนที่มิจฉาชีพให้เหยื่อทำนั้นเป็นการโอนเงินให้กับมิจฉาชีพ 

 

 

โชคดีรับรางวัลใหญ่

 มิจฉาชีพจะอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทหรือตัวแทนองค์กรต่างๆ แจ้งข่าวดีแก่เหยื่อว่า เหยื่อได้รับเงินรางวัลหรือของรางวัลที่มีมูลค่าสูง เมื่อเหยื่อหลงเชื่อจะหลอกเหยื่อให้โอนเงินค่าภาษีให้

ข้อมูลส่วนตัวหาย

ข้อมูลส่วนตัวหายเป็นข้ออ้างที่มิจฉาชีพใช้เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ โดยจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน เล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ข้อมูลของลูกค้าสูญหาย เช่น เหตุการณ์น้ำท่วม จึงขอให้เหยื่อแจ้งข้อมูลส่วนตัว เช่น วัน/เดือน/ปีเกิด เลขที่บัตรประชาชน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการใช้บริการของเหยื่อ แต่แท้จริงแล้ว มิจฉาชีพจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการปลอมแปลงหรือใช้บริการทางการเงินในนามของเหยื่อ

โอนเงินผิด

 ​มิจฉาชีพจะใช้ข้ออ้างนี้เมื่อมีข้อมูลของเหยื่อค่อนข้างมากแล้ว โดยจะเริ่มจากโทรศัพท์ไปยังสถาบันการเงินที่เหยื่อใช้บริการ เพื่อเปิดใช้บริการขอสินเชื่อผ่านทางโทรศัพท์ เมื่อได้รับอนุมัติสินเชื่อ สถาบันการเงินจะโอนเงินสินเชื่อนั้นเข้าบัญชีเงินฝากของเหยื่อ หลังจากนั้นมิจฉาชีพจะโทรศัพท์ไปหาเหยื่ออ้างว่า ได้โอนเงินผิดเข้าบัญชีของเหยื่อ ขอให้โอนเงินคืน เมื่อเหยื่อตรวจสอบยอดเงินและพบว่ามีเงินโอนเข้ามาจริง จึงรีบโอนเงินนั้นไปให้มิจฉาชีพ โดยที่ไม่รู้ว่าเงินนั้นเป็นเงินสินเชื่อที่มิจฉาชีพโทรไปขอในนามของเหยื่อ ​

4 วิธีการเช็กเบอร์แปลก

• Google เช็กประวัติเบอร์เผื่อมีคนเคยแจ้งความข้อหาฉ้อโกง

นำเบอร์โทร. ที่โทรเข้ามา พิมพ์หมายเลขค้นหาใน Google เพื่อตรวจสอบประวัติเบอร์ผู้ใช้หมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวที่โทร.เข้ามาหา

• Facebook เช็กประวัติเผื่อเบอร์ดังกล่าวเชื่อมต่อทิ้งไว้และมีคนโพสต์เตือน

นำเบอร์โทร. ที่โทรเข้ามา พิมพ์หมายเลขค้นหาใน Facebook เพื่อตรวจสอบประวัติเบอร์ผู้ใช้หมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าว ซึ่งหากเบอร์โทรนั้น เคยผูกไว้กับบัญชีในเฟซบุ๊ก ก็มีสิทธิ์จะพบเบอร์โทร.เช่นกัน

• Line เช็กเผื่อเจอบัญชีจริง หากเบอร์ดังกล่าวเป็นตัวจริงไม่ใช่อวตาร

ค้นหาในไลน์ Line ทำตามขั้นตอนดังนี้ กดช่อง "เพิ่มเพื่อน" จากนั้นเลือก "หมายเลขโทรศัพท์" ถ้าหมายเลขนั้นผูกเบอร์โทรศัพท์ไว้กับไลน์ ก็มีสิทธิ์พบเบอร์โทรเช่นกัน

• WHOSCALL เช็กเบอร์มิจฉาชีพผ่านแอป แค่โหลดติดสมาร์ทโฟน

ใช้แอปพลิเคชัน WHOSCALL เพื่อค้นหาตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ ที่โทร.เข้ามาหา โดยแอปพลิเคชันนี้ จะบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของที่เราเมมเบอร์มิจฉาชีพไว้ หากมิจฉาชีพนั้น ใช้เบอร์โทรศัพท์มาหาก็จะทราบทันที แอปพลิเคชัน WHOSCALL สามารถโหลดใช้งานได้ทั้ง App Store และ Google Play

16 หมายเลขอันตราย ที่คาดว่าจะเป็นมิจฉาชีพ

• 093-509-7725

• 093-507-3541

• 093-079-2746

• 082-993-0738

• 082-993-1072

• 082-993-0515

• 082-993-0865

• 08-299-3292

• 082-993-0906

• 082-993-1058

• 093-572-4217

• 093-075-8402

• 093-507-3541

• 062-307-6192

• 084-787-6012

• 094-951-3183

ข้อสังเกตว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ

• มิจฉาชีพจะหลอกถามข้อมูลจากเหยื่อ แล้วหลอกให้เหยื่อทำรายการผ่านตู้เอทีเอ็มโดยให้เลือกทำรายการเป็นภาษาอังกฤษ

• มิจฉาชีพจะใช้ข้ออ้างต่างๆ เร่งให้เหยื่อทำรายการ เพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบหรือสอบถามบุคคลอื่น

• มิจฉาชีพจะโน้มน้าวให้เหยื่อโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มหรือเครื่องฝากเงินอัตโนมัติ ตามภาพประกอบด้านล่าง

วิธีป้องกันภัยจากมิจฉาชีพ

• หากได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่ไม่รู้จัก ควรทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ามีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

• ไม่โลภอยากได้เงินรางวัลที่ไม่มีที่มา

• ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินแก่บุคคลอื่น ถึงแม้ผู้ติดต่อจะอ้างตัวเป็นส่วนราชการหรือสถาบันการเงิน เพราะส่วนราชการและสถาบันการเงินไม่มีนโยบายสอบถามข้อมูลวนตัวลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์

• ไม่ทำรายการที่ตู้เอทีเอ็ม หรือเครื่องฝากเงินอัตโนมัติตามคำบอกของผู้ที่ติดต่อมา

• ควรสอบถามข้อเท็จจริงกับสถาบันการเงินที่ถูกอ้างถึงหรือใช้บริการ โดยติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า (Call Center)

• หากได้รับแจ้งว่ามีผู้โอนเงินผิดเข้าบัญชี ควรสอบถามสถาบันการเงินถึงที่มาของเงินดังกล่าว หากเป็นเงินที่มีการโอนผิดเข้ามาจริง จะต้องให้สถาบันการเงินเป็นผู้ดำเนินการโอนเงินคืนเท่านั้น​

สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อตกเป็นเหยื่อ​มิจฉาชีพ

• รวบรวมหลักฐานและข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง

• ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของสถาบันการเงินเพื่อระงับการโอนและการถอนเงิน

• หากไม่สามารถระงับการโอนเงินได้ ให้รวบรวมหลักฐานและข้อมูลต่างๆ แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งลงบันทึกประจำวัน ณ ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการระงับการถอนเงินออกจากบัญชีที่โอนไป

• แจ้งระงับการถอนเงินออกจากบัญชีที่โอนไปกับสถาบันการเงินที่ใช้บริการ โดยสถาบันการเงินจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน จึงจะสามารถคืนเงินได้

• แจ้งเบาะแสไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)​

• ทำใจ... เมื่อมิจฉาชีพได้รับเงินโอน จะรีบกดเงินออกจากบัญชีทันที ทำให้โอกาสที่จะได้เงินคืนนั้นน้อยมาก

ในปัจจุบันมิจฉาชีพได้ใช้วิธีการการส่งอีเมลปลอม หรือ แฮกอีเมล โดยแจ้งว่าสินค้างวดต่อไปให้ชำระที่บัญชีใหม่ (บัญชีที่คนร้ายเตรียมไว้เพื่อหลอกลวงผู้เสียหาย) หากผู้เสียหายไม่ได้ตรวจสอบโดยละเอียดอาจหลงกลโอนชำระค่าสินค้าไปยังบัญชีปลอม

 ดังนั้นเมื่อบริษัท หรือพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการเงินได้รับแจ้งทางอีเมลว่ามีการเปลี่ยนบัญชีการชำระค่าสินค้าให้ทำการตรวจสอบรายละเอียด ดังนี้

• ตรวจสอบไปยังผู้เกี่ยวข้อง เช่น โทรศัพท์, วีดีโอคอล โดยสอบถามให้ชัดเจนว่ามีการเปลี่ยนบัญชีหรือช่องทางชำระเงินจริงหรือไม่

• ตรวจสอบชื่อ Email Address โดยละเอียดทุกตัวอักษรทุกครั้ง ว่าตรงกับบัญชีอีเมลที่ต้องการติดต่อด้วยหรือไม่

• ตรวจสอบเนื้อหาของอีเมล ในส่วนนี้อาจจะพิจารณาตามเนื้อหา โดยเนื้อหาจะต้องไม่เป็นการพยายามล้วงเอาข้อมูลผู้ใช้งาน หรือมีลิงก์ให้กดเพื่อเข้าไปกรอกข้อมูล หรือยอมรับให้เชื่อมต่อกับบัญชีของเรา ทั้งนี้อาจจะพิจารณาไปถึงไฟล์ที่แนบมาในอีเมลด้วย หากพบไฟล์นามสกุลต้องสงสัย ให้งดการกดดาวน์โหลดหรือพรีวิวไปก่อน แล้วทำการตรวจสอบกับผู้ส่งให้แน่ใจว่าได้ส่งไฟล์ชนิดนั้นมาให้หรือไม่

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย , ตำรวจสอบสวนกลาง

 

 

related