เมดพาร์ค-เนชั่น เปิดโครงการ อาสาดูแลหัวใจหมอ รับสมัครหมอทั่วประเทศ

โรงพยาบาลเมดพาร์ค ร่วมกับ บริษัทเนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป และเครือข่ายพันธมิตร เปิดตัว ‘โครงการอาสาดูแลหัวใจหมอ’ เพื่อช่วยชีวิตบุคลากรทางการแพทย์ ให้สามารถไปช่วยเหลือชีวิตประชาชนได้อีกนับหมื่นคน ซึ่งโครงการนี้จัดขึ้น เพราะเล็งเห็นถึงความสำคัญความสำคัญของสุขภาพและเล็งเห็นถึงการรักษาชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งแม้จะอยู่ในวงการสุขภาพแต่ด้วยภาระงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ ปริมาณงานที่ต้องแบกรับ ความไม่พร้อมของเทคโนโลยีในโรงพยาบาลชุมชน และสถานการณ์อื่นที่มีผลต่อปัจจัยการดูแลสุขภาพ อาจจะทำให้ละเลยการดูแลตัวเอง หรือขาดการตรวจสุขภาพทางหัวใจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จึงได้เปิดรับสมัครโครงการ เพื่อให้แพทย์ทั่วประเทศที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้รับการตรวจวินิจฉัยเพื่อค้นหาภาวะหัวใจตีบและเข้ารักษาอย่างทันท่วงที เพื่อให้แพทย์ที่โรงพยาบาลเมดพาร์คดูแลรักษาหัวใจของหมอ เพื่อให้สามารถดูแลประชาชนต่อไปได้อีกในระยะยาว

โดยนายแพทย์พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลเมดพาร์ค บอกถึงที่มาที่ไปของโครงการว่า โครงการนี้ริเริ่มมาจากการที่มีเพื่อนคุณหมอเป็นโรคหัวใจ จึงมองว่าคุณหมอเองก็ไม่ได้แข็งแรง จึงนำไปสู่การค้นคว้าหาข้อมูลและพบว่า สัดส่วนประชากรหมอต่ำกว่าประเทศอื่น ดังนั้นการสูญเสียหมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ และจากสถิติพบว่า คุณหมอ300คนเสียชีวิต 10% และเป็นการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ และหาสสเหตุไม่ได้ ซึ่งการเสียชีวิตด้วยวัยไม่มาก ดังนั้นจึงมองว่าน่าจะเป็นปัญหาที่คุณหมอเสียชีวิตด้วยโรคที่หาวาเหตุไม่ได้ จึงควรมาวิธีป้องกันรักษาเพื่อรักษาชีวิตหมอไว้ และด้วยโรงพยาบาลเมดพาร์คพึ่งเปิดดำเนินการ และยังมีทีมแพทย์อยู่บ้าง จึงได้เป็นที่มาของการทำการกุศล เพื่อรักษาชีวิตคุณหมอที่มีอัตราส่วนไม่เพียงพอเมื่อเทียบเท่ากับจำนวนประชากร จากนั้นจึงได้หารือกับพันธมิตร ทำให้มีหลายบริษัทและแพทย์พร้อมใจกันเข้ามาสนับสนุนโครงการ เพื่อเป็นการเซฟด็อกเตอร์ เซฟพีเพิล เซฟไทยแลนด์ ประเทศจะแข็งแรงได่ประชาชนต้องแข็งแรง ประชาชนจะแข็งแรงได้ หมอต้องแข็งแรง

ทั้งนี้มองว่า การทำโครงการครั้งนี้ อาจจะไม่สามารถดูแลหมอของประเทศได้ทั้งหมด5-6หมื่นคน แต่หวังว่าจะเป็นการจุดประการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและภาครัฐ ให้ความใส่ใจในบุคลากรในจำนวนที่มีน้อยให้เกิดความแข็งแรง พิจารณาใส่ใจการมอบหมายงาน และใส่ใจให้หมอที่มีสุขภาพดี มีวันเวลาวันหยุด และวันเวลาการตรวจสุขภาพที่ต้องมีความแน่นอน ซึ่งระบบใหญ่ต้องดูแลให้จำนวนแพทย์เพียงพอกับงานด้วย เพราะหากสามารถทำให้เป็นวัฒนธรรมของการดูแลหมอระดับประเทศได้ ก็จะเป็นความสำเร็จที่อยากเห็นในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ซึ่งส่วนของโครงการนี้อาจจะดูแลหมอได้1000คนแต่ก็จะถือว่าเป็นตัวอย่างในการดูแลทรัพยากรที่มีจำนวนน้อยของประเทศ จึงต้องให้ความสำคัญเขามากๆ หากเราดูแลหมอได้ดี หมอก็จะดูแลคนไข้ได้ดี รวมถึงอยากให้สังคมให้คุณค่าและใส่ใจกับอาชีพแพทย์ให้มากขึ้นด้วย

 

ด้านนพ.ประดิษฐ์ชัย ชัยเสรี ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านหัวใจและทรวงอก เปิดเผยด้วยว่า การดูแลแพทย์ที่เข้ามาในโครงการนี้จะเริ่มต้นเน้นการตรวจพื้นฐาน เอ็กสเรย์หัวใจ และตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจคอมพิวเตอร์หัวใจ แต่ถ้าหากพบความผิดปกติก็จะฉีดสี สวนหัวใจ ทำบอลลูน และขั้นสูงสุดคือ ผ่าตัวดูแลหัวใจตามลำดับการรักษา ส่วนแผนการดูแล จะมีการแนะนำวิธีให้ถูกต้องว่าจะต้องเช็คอะไรตรวจอะไร เพราะหมอทุกคนไม่ได้รู้เรื่องโรคหัวใจทั้งหมด ซึ่งก็จะเน้นให้คำแนะนำการดูแลตัวเอง รับประทานอาหารและการทานยา และที่ผ่านมาคุณหมอหลายเปอร์เซ็นต์ไม่อยากตรวจโรคหัวใจ แต่หากมีโครงการนี้ก็มองว่า อาจจจะทำให้เป็นจุดเริ่มต้นให้คุณหมอได้ตระหนักถึงการเข้ามาตรวจโรคหัวใจและเป็นส่วนกระตุ้นในการมาเช็คร่างกายตัวเอง เพื่อจะได้นำไปสู่การป้องกันรักษาได้ถูกทาง

ทั้งนี้หากจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น อ้วน เบาหวาน ไม่ออกกำลังกาย พ่อแม่พี่น้องเป็นโรคหัวใจก็ควรจะมาเช็ค หรือมีอาการข้องใจว่าเป็นโรคหัวใจหรือไม่ ก็ควรเข้ามาตรวจ เช่น ลักษณะจุกท้องเหมือนโรคกระเพาะแต่รักษาไม่หายก็ควรเข้ามาตรวจเช็คเพื่อให้เกิดการระมัดระวังตัวและการปฏิบัติตัวมากขึ้น

 

ขณะที่ คุณฉาย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ในฐานะสื่อเครือเนชั่น มองว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีที่ตะทำให้เราได่ช่วยเหลือสังคมและบุคลากรทางการแพทย์ และโครงการอาสาดูแลหัวใจหมอ เป็นโครงการที่จะช่วยเติมเต็มให้หมอและบุคลากรทางการแพทย์ได้ดูแลสุขภาพได้อย่างเต็มที่ และหมอก็จะไปช่วยเหลือประชาชนให้มีชีวิตยืนยาวได้อีกต่อไป

โดยในวันนี้ คุณวีระศักดิ์ พงษ์อักษร บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น เป็นผู้แทนเครือเนชั่น ร่วมเปิดโครงการและให้ความมั่นใจว่า เครือเนชั้นหลังจากนี้ก็พร้อมสนับสนุนและเผยแพร่โครงการนี้อย่างทั่วถึง

สำหรับโครงการนี้จะเปิดรับสมัครแพทย์อายุ 35-70ปี เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโรงหัวใจ และตะได้รับการรักษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ (14ก.พ.) -12ส.ค. เป็นระยะเวลา 6เดือน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 1,000 คน