การทำธุรกิจในยุคนี้ โจทย์หิน คือ ทำยังไงจะอยู่เหนือคู่แข่ง ทำยังไงจะสร้างแบรนด์ให้โดนใจลูกค้า นอกจากสินค้าดี การตลาดดี ช่องทางการขายดี แพ็คเกจจิ้งที่ดึงดูด ก็สำคัญ ? เพราะเหมือนหน้าบ้านที่รับแขก
ทำธุรกิจยุคใหม่ทุกอย่างต้องครบเครื่อง
การทำธุรกิจ ค้าขายในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ หรือออฟไลน์หน้าร้าน การแข่งขันสูงในทุกอุตสาหกรรม ต่างมีผู้เล่นหน้าเก่า หน้าใหม่ตบเท้ามาชิงเค้กก้อนโตกันฝุ่นตลบ เรียกได้ว่าใครที่มีดีครบครัน ทั้งสินค้าคุณภาพดี ตอบโจทย์ปัญหี่ลูกค้าพบเจอ ช่องทางการซื้อขายที่ง่ายสะดวก รวดเร็ว สินค้ามีความหลากหลาย การตลาดดี โปรโมชันดี เล่าเรื่องผ่านสตอรี่ชัด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสังคม ภาพลักษณ์แบรนด์ดี ปัจจัยต่างๆที่กล่าวมานี้หากแบรนด์ไหนมีครบก็อาจมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ แต่เรื่องของแพ็คเกจจิ้ง สินค้าก็สำคัญไม่น้อยเพราะคืออีกหนึ่งจุดดึงดูด
โดยแพ็คเกจจิ้ง เสมือนดั่งคนต้อนรับหน้าบ้านด่านแรกที่จะแนะนำตัวเองว่าสินค้าของเราเป็นใคร จะทำให้ลูกค้าสะดุดตาได้หรือไม่ ? เพราะหากลูกค้าสะดุดตาได้อย่างน้อยๆ ก็ทำให้เขามาดูสินค้าเราต่อ หรืออาจนำไปเป็นข้อมูลในการติดสินใจซื้อในเวลาต่อมา โดยก่อนหน้านี้ Bizongo ซึ่งเป็นที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเพื่อผู้บริโภค ออกมาเปิดเผย ผลการศึกษา ที่พบว่า ลูกค้าประมาณ 63% ได้มีพฤติกรรมเลือกซื้อสินค้าจากแพ็กเกจจิ้งที่น่าดึงดูดก่อนอันดับแรก ดังนั้นจะทำให้เห็นว่าการออกแบบแพ็คเกจจิ้งที่ดี และดึงดูด และตัดสินใจซื้อจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พาท่องส่อง " เทรนด์ธุรกิจปี2565" แบบไหนปังน่าลุงทุน แบบไหนขาลง ไม่น่าลงทุน !
เปิดกลยุทธ์การตลาด เทรนด์ค้าขายออนไลน์ใหม่ ปั้นแบรนด์ยังไงให้ทรงพลัง
ธุรกิจอาหารปีเสือ ยังเติบโตต่อเนื่อง แบรนด์ไทย แบรนด์นอกต่าง ตบเท้าชิงเค้ก
แพ็คเกจจิ้งก็สำคัญในการสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด
ทั้งนี้จากการที่ #สปริงนิวส์ ได้รวบรวมข้อมูลจากตำราการสื่อสารการตลาดจากหลายที่ที่น่าเชื่อถือ พบว่าแพ็คเกจจิ้ง ที่ดี และน่าดึงดูด ต้องมีองค์ประกอบต่อไปนี้
-ต้องเหมาะกับประเภทสินค้า
-ขนาด สี อักษร ต้องสวยงาม ไปในทิศทางเดียวกัน
-ภาพรวมแพ็คเกจจิ้ง ยิ่งสวยเท่าไหร่ ยิ่งดึงดูดสายตาได้มากขึ้น
นอกจากนี้จากของแบรนด์ หรือผู้ประกอบการรายใหม่จะต้องรู้ด้วยว่าหลัก ๆ ประโยชน์ของแพ็คเกจจิ้ง คืออะไร
-แพ็คเกจจิ้งจะเป็นตัวให้ข้อมูล รายละเอียดสินค้า
-ช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้า
-แพ็คเกจจิ้ง คือ งานสร้างสรรค์ช่วยเพิ่มยอดขาย ได้
-แพ็คเกจจิ้งช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์สินค้าของเรา
-แพ็คเกจจิ้งช่วยส่งเสริมการขายได้ด้วย
อย่างไรก็ตามแพ็คเกจจิ้งอาจจะเป็นกระบวนการที่เจ้าของธุรกิจคิดต่อหลังจากได้ผลิต ทดลองผลิตสินค้า ออกมาแล้ว แต่บางรายก็สินค้าออกมาขายแล้ว แต่แพ็คเกจจิ้งยังไม่ถูกใจ และคิดว่ายังไม่ดึงดูดลูกค้าพอ เจ้าของแบรนด์ก็สามารถปรับแพ็คเกจจิ้งใหม่ได้ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย หรือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงการรีแบรนด์ดิ้งใหม่ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อรับการแข่งขันที่เปลี่ยนไป
เปิดตัวอย่างแบรนด์ที่ปรับแพ็คเกจจิ้งใหม่
ตัวอย่างของการปรับแพ็คเกจจิ้งใหม่ เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์แบรนด์ และการจดจำสินค้าใหม่ๆ คือ แบรนด์เชียร์สที่ได้ดึงนวัตกรรมรุกตลาดพรีเมียร์แบรนด์ปรับดีไซเนอร์ปรับแพ็คเกจจิ้ง พร้อมทั้งออกรสชาติใหม่ ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่สู่ตลาดพรีเมียร์พร้อมได้วางแผนสร้างความต่างดึงดีไซเนอร์ชั้นนำของไทยปรับโฉมแพ็คเกจจิ้ง“เชียร์ส ซีเล็คชั่น สยาม ไวเซ่น” พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วย “เชียร์ส ซีเล็คชั่น สยาม ไวเซ่น สวีท แพชชั่นฟรุต”ครั้งแรกหวังเขย่าวงการคราฟท์ในไทยที่ยังรักษากลิ่นอายความเป็นเอกลักษณ์ไทย โดยคนไทยแต่มีความสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร
โดย ‘กนกวรรณ วัดคำ’ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไทเกอร์และเชียร์ส กลุ่มบริษัท ทีเอพี เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ได้หันมาจับกลุ่มตลาดพรีเมียร์มากขึ้นจึงได้จับมือกับ อิชชู่ แบรนด์ดีไซเนอร์ระดับชั้นนำของไทยเพื่อปรับแพ็คเกจจิ้งโฉมใหม่นับว่าเป็นผู้บุกเบิกเจ้าแรกของวงการคราฟท์ในประเทศไทย ที่ต้องการตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์เครื่องดื่มสัญชาติไทยที่มีคุณภาพการผลิตมาตรฐานระดับโลกที่สร้างสรรค์โดยคนไทย ซึ่งปัจจุบันกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่างต้องการมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ มีความสุขในกับการดื่มด่ำทุกช่วงเวลา จึงนับเป็นหัวใจของแบรนด์เชียร์ส ที่มุ่งเน้นสร้างความสุขในทุกช่วงเวลาของชีวิต ต้องการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตอย่างสนุกอยู่เสมอ ขณะเดียวก็คำนึงถึงรสชาติเครื่องดื่มที่ต้องมีส่วนผสมคงความเป็นเอกลักษณ์ของไทยด้วย
สำหรับแพ็คเกจจิ้งใหม่ในครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรม เจดีย์ กระเบื้องเคลือบโบราณ ลายดอกไม้ เครื่องแต่งกายของยักษ์ มาผสมผสานกับงานวิจิตรศิลป์ และสร้างสรรค์ออกมาเป็นงานศิลปะแบบไทยร่วมสมัย โดยยังคงยึดดีไซน์อันโดดเด่นของหน้ายักษ์ ที่สะท้อนความเป็นไทยสอดคล้องกับชื่อ “สยาม ไวเซ่น” แบบลงตัว ไม่แต่ดีไซน์แพ็คเกจจิ้งใหม่ยังมีการปรับเอกลักษณ์ใหม่ให้แตกต่างในเรื่องของส่วนผสมคุณภาพพรีเมียมจากต่างประเทศ เจาะคนรุ่นใหม่ทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 20-39 ปี ขึ้นไป เจนที่มักมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ