วันนี้จะพาไปรู้จักกับธุรกิจอาหารญี่ปุ่น แบรนด์“มากุโระ” และเปิดมุมมองผู้บริหารคนเก่ง ถึงแนวโน้มตลาดอาหารญี่ปุ่น เกาหลี ในไทย ว่าเป็นอย่างไร พร้อมกลยุทธ์ Social Listening กุญแจธุรกิจดอกสำคัญในการทำธุรกิจของเขา
ต้องยอมรับว่าหนึ่งในอาหารที่ถูกปากคนไทย คือ อาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี จึงทำให้หลายแบรนด์เดินหน้าทั้งพัฒนาสินค้า บริการ กลยุทธ์การตลาดทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ เพื่อช่วงชิงลูกค้าที่ถือว่าเป็นเค้กก้อนโตก็ว่าได้ ที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทต่อปี แม้ว่าจะมีการแข่งขันที่สูง แต่หากแบรนด์ใดสามารถครองใจลูกค้าได้ก่อน ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้มากกว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โออิชิ คิทเช่น แหล่งรวมอาหารญี่ปุ่น จานเด็ดร้านดัง พร้อมส่งตรงถึงบ้าน
“คุณหญิงแม้น” เปิดร้าน “ซูชิ เซกิ” อาหารญี่ปุ่นสดใหม่ เพื่อนดาราร่วมยินดีเพียบ
วันนี้ #สปริงนิวส์ ได้สัมภาษณ์พิเศษ ‘นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร้านอาหารญี่ปุ่นมากุโระ และกลุ่มธุรกิจในเครือมากุโระ กรุ๊ป โดยผู้บริหารคนเก่ง ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น เกาหลี ในไทยมีการแข่งขึ้นสูง จึงทำให้มากุโระให้ความสำคัญในช่องทางการขาย ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์มาใช้ร่วมกัน และได้มีการปรับแผนมาโดยตลอด
สำหรับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์จะเน้นไปยัง Social Listening เพื่อให้สามารถจับกระแสตลาดได้ พร้อมกันนี้มีแผนที่นำระบบใหม่มาใช้ ซึ่งเป็นระบบ CRM คือ การรับฟังความเห็นลูกค้า เสียงตอบรับจากลูกค้าที่เข้ามารับประมานอาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี มาปรับใช้นำเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ต่อในการเจาะอินโซต์ผู้บริโภค พัฒนาแบรนด์ พร้อมกันนี้ยังมีการปรับสินค้า และวิธีการนำเสนอเพื่อให้เหมาะกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้สำหรับกลยุทธ์การตลาด อื่นๆ ที่แบรนด์มากุโระ จะเน้น และให้ความสำคัญไม่แพ้ออนไลน์ คือ
-เน้นการให้ประสบการณ์กับลูกค้าทั้งในรูปแบบ รูป รส กลิ่น เสียง
-จะพิถีพิถัน ใส่ใจคุณภาพอาหารยิ่งขึ้นไป
-เน้นให้ประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับ คือ ความคุ้มค่า ที่ได้รับประทานมากุโระ
อย่างไรก็ตามสำหรับแผนลงทุนใหม่ในปี 2565 ได้เตรียมเงินลงทุนไว้หลายร้อยล้านบาท ขยายสาขาร้านอาหารญี่ปุน อาหารเกาหลี เพิ่มเสริมแกร่งแบรนด์ พร้อมกันนี้ยังจะมีการร่วมทุนกับนักร่วมทุนต่างชาติด้วย เพื่อสร้างรายได้ในปี 2565 ให้ถึง 800 ล้านบาท และในปี 2566 ทะลุถึง 1,000 ล้านบาท สำหรับมุมมองเทรนด์ธุรกิจอาหารในปี 2565 มองว่าเทรนด์อาหารสุขภาพจะมาแรง หลังจากคนได้รับบทเรียนจากโควิด -19 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังจะได่เห็นแต่ละแบรนด์มีวิธีนำเสนอใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มการสั่งอาหารใหม่ ๆ มากขึ้น ดงนั้นแบรนด์จะต้องปรับให้ทันผู้บริโภค