"เปิ้ล นาคร" นักธุรกิจผู้สู้ไม่ถอย! กับมาตรการที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอด แม้จะเจอโควิด-19 เล่นงานทุกรอบ พร้อมเผยเตรียมรับมือโอไมครอนระบาด หวังอย่ามีสายพันธุ์ใหม่เข้ามาอีก
ที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย สร้างความเดือดร้อนหนัก หลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก ต้องปิดตัวลงอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ยังมีเจ้าของธุรกิจหลายรายที่สู้ไม่ถอย แม้จะต้องกุมขมับกับภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแล เพื่อประคองให้ธุรกิจไม่ต้องปิดตัวลง
เหมือนอย่างเช่นคุณพ่อลูก 4 "เปิ้ล นาคร" ที่มีธุรกิจในมือเยอะ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด เจอผลกระทบจากโควิดแทบทุกรอบ แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยทิ้งลูกน้อง ยังกอดคอสู้ไปด้วยกัน
ล่าสุด เปิ้ล นาคร ได้เปิดใจหลังสถานการณ์โควิด-19 กลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง สายพันธุ์โอไมครอนระบาดในหลายพื้นที่ ซึ่งเจ้าตัวได้เผยมาตรการเข้มงวด ถึงกับสั่งพนักงานห้ามปาร์ตี้ เพราะความปลอดภัยของพนักงานคือความปลอดภัยของลูกค้าทุกคน รวมถึงการรับมือกับการระบาดรอบล่าสุดนี้ไว้ว่า
ธุรกิจเป็นอย่างไรบ้าง?
"ล่าสุดตอนที่เขาบอกให้ปิดร้านก่อน ปลายปีที่แล้ว ก็กระทบนิดหน่อย ไม่ได้เยอะ แต่คิดว่าคนอื่นน่าจะหนักกว่าเราเยอะ แต่โชคดีที่เรายังรักษาพนักงานกว่าร้อยชีวิตเอาไว้ได้ ทันทีที่เขาเปิดร้านอาหารได้ปกติ พนักงานร้อยชีวิตก็ยังอยู่กับเราได้ แต่ในมาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิมหลายร้อยเท่า"
"คือถ้าเป็นพนักงานเราแล้ว ต้องดูแลตัวเอง แทบจะขังคุกเลย ห้ามออกไปปาร์ตี้ที่อื่น ห้ามกลับบ้าน ห้ามทั้งสิ้น เพราะว่าความปลอดภัยของพนักงาน คือความปลอดภัยของลูกค้าเราทุกคน สิ่งนี้คือสิ่งที่เราต้องซีเรียส แล้วร้านเรามันเป็นร้านที่เปิดโล่ง มันไม่ได้เป็นที่ปิด ลูกค้าจะให้ความไว้วางใจ ฉะนั้นเศรษฐกิจของร้านเริ่มกลับมาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนะ"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิ้ล นาคร-จูน กษมา ขี่เจ็ตสกีลุยน้ำท่วมช่วยสาวท้องแก่ส่งโรงพยาบาล
เปิ้ล นาคร ไม่ท้อ! โดนล็อกดาวน์รอบ 3 ประกาศไม่ทิ้งลูกน้อง กอดคอสู้ไปด้วยกัน
เปิ้ล นาคร โควิดกระทบหนัก ค่าเช่าที่ร้านอาหารหลักล้าน แต่ยอดขายหลักพัน
เตรียมตัวกับการระบาดระลอกใหม่อย่างไร?
"สำหรับโควิดระลอกใหม่ที่กำลังจะกลับมา เราก็ภาวนาขอให้เป็นแค่โอไมครอน อย่ามีสายพันธุ์ใหม่เข้ามาอีก แต่เราก็ห้ามไม่ได้นะ ถ้ามีเข้า มา ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนมีมาตรการป้องกันอยู่แล้ว วัคซีนต่างๆ ก็ได้รับกันมากมายพอสมควรอยู่แล้ว"
"ที่สำคัญคือทุกคนค่อนข้างจะระวังตัวเอง อย่างเคาท์ดาวน์ที่ร้านอาหารที่ตัวเองทำ แปลกกว่าปีอื่นๆมาก อย่างนับถอยหลังเคาท์ดาวน์ พอพลุขึ้นมา ทุกคนไม่เฮ นั่งอยู่บนโต๊ะแล้วก็ปรบมือ เป็นการเคาท์ดาวน์ที่น่ารักมาก สงบเสงี่ยม ทุกคนก็ยังใส่แมสก์ ถือว่าคนไทยเริ่มซีเรียสกับเรื่องนี้ด้วย"