ศกพ. เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 4-10 ม.ค. 65 ฝุ่นละออง PM2.5 เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น ขอความร่วมมืองดการเผาในที่โล่ง
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 3 ธันวาคม 2564 พบ PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในประเทศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่ ตรวจวัดได้อยู่ในช่วง 10-34 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยส่วนใหญ่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมาก (ระดับสีฟ้า) สรุปดังนี้
-ภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 12 - 24 มคก./ลบ.ม.
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 10 - 22 มคก./ลบ.ม.
-ภาคกลางและตะวันตก ตรวจวัดได้ 12 - 28 มคก./ลบ.ม.
-ภาคตะวันออก ตรวจวัดได้ 14 - 25 มคก./ลบ.ม.
-ภาคใต้ ตรวจวัดได้ 10 - 20 มคก./ลบ.ม.
-กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ตรวจวัดได้ 18 - 34 มคก./ลบ.ม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
PM 2.5 กรุงเทพมหานคร เกินค่ามาตรฐานหลายพื้นที่ พุ่งติดอันดับ 11 ของโลก
ค่าฝุ่น PM2.5 กทม. เช้านี้ เกินมาตรฐาน 69 พื้นที่ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
นายอรรถพล กล่าวว่า ศกพ. คาดการณ์ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 7 วันข้างหน้า จะเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นระหว่างวันที่ 4-10 มกราคม 2565 เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่ง และลมอ่อนในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาเริ่มทำงานของประชาชนหลังจากวันหยุดยาว ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองสะสมสูงขึ้นได้
ดังนั้น เพื่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ศกพ. ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนงดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จำเป็น เฝ้าระวังรักษาสุขภาพอนามัย และตรวจสอบคุณภาพอากาศจาก Air4Thai ก่อนออกจากบ้าน หากท่านอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณ PM2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้ม ให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และหากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
ทั้งนี้ ศกพ.จะติดตามสถานการณ์และประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดฝุ่นละออง PM2.5 อย่างเข้มงวด เพื่อรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองที่อาจเกิดขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงเวลาดังกล่าว