โดนใจกันไหม? 10 ฉายาคนบันเทิง ประจำปี 2564

ถือเป็นธรรมเนียมประจำทุกปีที่ในช่วงสิ้นปีจะมีการตั้ง "ฉายา" ให้แก่บุคคลในแวดวงบันเทิง ซึ่งปี 2564 "สมาคมนักข่าวบันเทิง" ได้เชิญชวนนักข่าวจากหลากหลายสำนักข่าว ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์ ร่วมมอบฉายาให้กับคนบันเทิงที่มีบทบาทโดดเด่นกับกระแสสังคมปีนี้ จำนวน 10 ฉายาดารา ซึ่งงานนี้จะมีดาราคนไหนที่เป็นข่าวทอล์คออฟเดอะทาวน์ ในรอบปีที่ผ่านมาบ้าง ตาม "สปริงบันเทิง" ไปดูกันเลย

ลิซ่า BLACKPINK ฉายา "เทพธิดาลูกชิ้นยืนกิน 300 ล้านวิว"

เริ่มต้นกันที่ศิลปินชื่อดังระดับโลก "ลิซ่า BLACKPINK" หรือ "ลลิษา มโนบาล" ที่ทำลายสถิติวงการ K-POP ด้วยเพลง Lalisa ยอดวิวทะลุ 300 กว่าล้านวิว และเพลง Money มียอดวิวถึง 300 กว่าล้านวิวเช่นกัน เรียกว่าสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการเพลงเกาหลีใต้เลยจริงๆ

และหากย้อนไปก่อนหน้านี้ "ลิซ่า BLACKPINK" เคยพูดผ่านรายการ "วู้ดดี้โชว์" ถึงอาหารโปรดของเธอ นั่นคือ "ลูกชิ้นยืนกิน" ที่มีน้ำจิ้มพริกเผารสเด็ด ตั้งอยู่แถวๆสถานีรถไฟบุรีรัมย์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และแน่นอนว่าพอรายการออนแอร์ไปเพียงแค่ข้ามคืน ร้านลูกชิ้นยืนกินที่ลิซ่าพูดถึง ก็ขายดิบขายดีคนต่อแถวซื้อเยอะมาก พรีออเดอร์กันข้ามจังหวัดเลยทีเดียว กลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดบุรีรัมย์ จึงเป็นที่มาของฉายา "ลิซ่าเทพธิดาลูกชิ้นยืนกิน 300 ล้านวิว"

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ตามรอยพ่อแม่! "ซุปตาร์ตัวน้อย" ฉายแววแจ้งเกิดในวงการบันเทิง

• เก่งจนต้องยกนิ้วให้! "นักแสดงชายไทย" ผลงานไม่แพ้ชาติใดในโลก

• ทริปนี้แสนสุข! "คนบันเทิง" หนีโควิดเมืองไทย บินลัดฟ้าเที่ยวต่างประเทศ

 

เวียร์ ศุกลวัฒน์- เบลล่า ราณี ฉายา "ปิดตำนานคู่รักข้ามช่อง"

กลายเป็นข่าวคราวช็อกวงการบันเทิงเลยทีเดียว สำหรับ "เวียร์ ศุกลวัฒน์" และ "เบลล่า ราณี" ที่เป็นคู่รักข้ามช่อง คบหาดูใจมานานกว่า 9 ปี ซึ่งอีกไม่กี่วันก็จะครบรอบ 10 ปีแล้ว แต่จู่ๆสาวเบลล่าก็ได้ออกมายอมรับว่าเลิกรากับฝ่ายชายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลดสถานะเหลือเพียงพี่น้อง ไม่มีปัญหาเรื่องมือที่สาม

ในขณะทางฝั่งหนุ่มเวียร์ ได้ออกมายืนยันเช่นกันว่าเลิกกันจริง เป็นการตัดสินใจร่วมกัน ทั้งสองโอเคในสถานะพี่น้อง ก่อนจะบอกว่า Move On โสดแล้วทำอะไรก็ได้ ยอมรับมีสาวคุยๆ บ้างแล้ว เป็นคนนอกวงการ งานนี้เลยทำให้ได้รับฉายา "ปิดตำนานคู่รักข้ามช่อง"

หนุ่ม กรรชัย ฉายา "หนุ่มโหน กัด เสียว"

ถือเป็นคนบันเทิงที่มีประชาชนรักทั่วประเทศ สำหรับ "หนุ่ม กรรชัย" นักแสดงชื่อดังที่ผันตัวเองมาเป็นพิธีกรและผู้ประกาศข่าว เรียกว่าประสบความสำเร็จมาก โดยเฉพาะรายการ "โหนกระแส" ที่มีเรตติ้งจำนวนคนดูถล่มทลาย

ด้วยความที่ "หนุ่ม กรรชัย" เป็นคนพูดตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าไปตามผิด อาจจะมีจิกกัดบ้าง แต่ยังช่วยทั้งสองฝ่ายประนีประนอมกัน ซึ่งแขกรับเชิญในกระแสมาออกรายการ เป็นเหตุให้เสียว เพราะเป็นรายการสด ที่ผ่านมามักมีแขกบางคนใช้คำพูดที่ไม่สุภาพกลางรายการ อย่างเช่นวลีฮิตว่า "ป้าพูดได้มั้ย" ทำให้ช่วงหลังๆพี่หนุ่มและคนดูต้องลุ้นแบบเสียวๆ ว่าจะมีคำที่ไม่สุภาพจากแขกรับเชิญออกมาไหม นั่นจึงเป็นที่มาของฉายา "หนุ่มโหน กัด เสียว"

ใหม่ ดาวิกา ฉายา "วันทองครองใจ"

ในส่วนของละครฟอร์มยักษ์แห่งปีที่หลายคนพูดถึงอย่างมาก สำหรับเรื่อง "วันทอง" ที่ออกอากาศเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เรตติ้งถล่มทลาย จนเกิดกระแส "วันทอง ครองใจคนดูทั่วประเทศ" แถมเวอร์ชั่นนี้ยังสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ เนื่องจากบทบาทในเรื่องโดนใจคนดู เพราะ "วันทอง" ไม่ใช่หญิงสองใจ และที่สำคัญ "วันทอง" ยังสวยทะลุจอ ส่งผลให้ "ใหม่ ดาวิกา" ที่รับบทเป็นแม่วันทองคนงาม ครองใจประชาชนทั้งประเทศ ยอดติดตามในอินสตาแกรมของเธอพุ่งปรี๊ดเลยทีเดียว เรียกว่าเหมาะสมจริงๆ ที่ได้รับฉายา "วันทองครองใจ"

แต้ว ณฐพร ฉายา "เจ้าแม่กักตัว แต่ไม่กักหัวใจ"

ในช่วงโควิดที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์ในประเทศไทยค่อนข้างยากลำบาก หากใครมีความเสี่ยงสูงใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ จะต้องเข้ากระบวนการกักตัว ซึ่งทางฝั่งคนบันเทิงอย่าง "แต้ว ณฐพร" ก็ขึ้นชื่อเรื่องการตรวจโควิดและกักตัวตลอดแทบทุกซีซั่น

แต่ถึงอย่างไรสาวแต้วก็รอดทุกๆครั้ง โควิดไม่สามารถทำอะไรเธอได้ จนหลายคนแซวว่าเป็นเจ้าแม่นาคี วีรสตรีต้านโควิดกันเลยทีเดียว พร้อมทั้งยังมีความรักครั้งใหม่ในช่วงโควิด จึงได้ฉายา "เจ้าแม่กักตัว แต่ไม่กักหัวใจ"

จั๊กจั่น อคัมย์สิริ ฉายา "เจ้าสาวมือปราบ"

เรียกว่าเป็นข่าวใหญ่ของวงการบันเทิงไปเลย สำหรับนางเอกสาว "จั๊กจั่น อคัมย์สิริ" ที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตผู้จัดการส่วนตัวที่เคยร่วมงานกันมากว่า 15ปี เหตุเพราะสร้างข่าวโลกใบที่ 1 และโลกใบที่ 2 ทำให้ตัวเองและแฟนหนุ่ม รวมถึงครอบครัวเสียหาย

ลามไปถึงดำเนินคดีกับเพื่อนรักในวงการ ซึ่งตอนนี้คดีอยู่ในชั้นศาล จนกลายเป็นฉายา "เจ้าสาวมือปราบ" นั่นเอง และเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา จั๊กจั่น ก็ได้ควงเจ้าบ่าว "เค วัฒนา" เข้าพิธีวิวาห์อย่างชื่นมื่น ท่ามกลางความยินดีของคนทั้งประเทศ

โบว์-อาเล็ก ฉายา "มนต์รักบางกระเจ้า"

มาต่อกันที่คู่พระนางสุดหวาน "อาเล็ก ธีรเดช" และ "โบว์ เมลดา" ที่โดนจับตาเรื่องความสัมพันธ์มาตลอด แถมยังหลุดปากเรียกแฟนอยู่บ่อยๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้ควงกันไปเที่ยวบางกระเจ้า เพื่อถ่ายรายการยูทูบของอาเล็ก ได้กลิ่นอายฟีลลิ่งอย่างกับคู่รักมาเดตกัน หน่ำซ้ำทั้งคู่ยังโพสต์ภาพหวานๆ ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว ทำให้เกิดกระแสคู่รัก มีคอมเมนต์จากแฟนๆกันกระจาย สมกับได้รับฉายา "มนต์รักบางกระเจ้า" เลยจริงๆ

แพท ณปภา ฉายา "แม่นางสับขาหลอก"

ทำเอาแฟนๆ งงกันไปทั้งบาง สำหรับพิธีกรและนักแสดงสาว "แพท ณปภา" หลังจากประกาศเลิกรากับแฟนหนุ่มรุ่นน้อง ก็ครองตัวเป็นโสดมาได้สักพัก จนกระทั่งมาเป็นข่าวกุ๊กกิ๊กกับนักร้องหนุ่ม "ปอ อรรณพ" ที่ทำพิธีกรร่วมกัน ซึ่งก็มีแฟนๆ หลายคนเชียร์ให้ทั้งคู่คบกันจริงๆ เพราะมีเคมีเข้ากันมาก 

แต่เรื่องราวกลับตาลปัตร เพราะในคืนวันลอยกระทง คุณแม่ลูกหนึ่งสุดแซ่บได้เปิดตัวคนรู้ใจใหม่ดีกรีตำรวจหนุ่ม "นาย ณภัทร" แม้ตอนแรกจะมีการงอนกันนิดหน่อย แต่ตำรวจหนุ่มก็หอบดอกไม้ช่อใหญ่ตามง้อสำเร็จ จนทุกวันนี้เป็นแฟนกันเรียบร้อยแล้ว ทำให้ได้รับฉายา "แม่นางสับขาหลอก" ไปโดยทันที

ดิว อริสรา ฉายา "คู่รักพลุแตกผิดเวลาหมากระเจิง"

ในช่วงที่ผ่านมามีดราม่ามากมาย หนึ่งในนั้นมีประเด็นดราม่าของนางร้ายสายแซ่บ "ดิว อริสรา" หลังถูกแฟนหนุ่มนักธุรกิจ "เซบาสเตียน ลี" ทำเซอร์ไพรส์วันเกิดด้วยการจุดพลุฉลอง บริเวณริมน้ำโรงแรมในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

ทำเอาชาวบ้านและสุนัขละแวกนั้น ตกอกตกใจกับเสียงพลุที่ดังสนั่นหวั่นไหวในช่วงเวลากลางดึก ซึ่งเรื่องนี้ทำให้สาวดิว ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก่อนจะออกมาขอโทษในภายหลัง ดังนั้นจึงเป็นที่มาของฉายา "คู่รักพลุแตกผิดเวลาหมากระเจิง"

ครูไพบูลย์-เอ๋ มิรา ฉายา "ศึกจ้วดจ้าดฟาดไม่ยั้ง"

ปิดท้ายกันที่ดราม่าร้อนแรงที่ยังโดนวิพากษ์วิจารณ์สนั่นจนถึงทุกวันนี้ สำหรับมหากาพย์ดราม่าที่ชาวเน็ตให้ความสนใจ กับกรณีของนักร้องสาว "กระต่าย พรรณนิภา" ที่ออกมายอมรับว่ากำลังตั้งท้องกับ "ครูไพบูลย์ แสงเดือน" เจ้าของค่ายเพลง "จ้วดจ้าด สตูดิโอ"

ขณะทางด้านอดีตภรรยาสาว "เอ๋ มิรา" ได้ไปออกรายการ "โหนกระแส" และมีการพูดพาดพิงอดีตสามี จนครูไพบูลย์ฟ้องหมิ่นประมาท เรียกเงิน 1 ล้านบาท แต่ทางฝั่งเอ๋ก็ฟ้องกลับข้อหาพรากผู้เยาว์ และแบ่งสมบัติอีก 20 ล้าน ซึ่งตอนนี้คดีก็ยังคาราคาซังอยู่ในชั้นศาล จึงเป็นเหตุให้ได้รับฉายา "ศึกจ้วดจ้าดฟาดไม่ยั้ง"