กรมควบคุมโรค จับตาเฝ้าระวัง สายพันธุ์ "โอไมครอน" หลังอังกฤษพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ไทย ยังไม่ปรับมาตรการเพิ่ม แต่ยังคุมเข้มผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทุกคน หากพบติดเชื้อจับตรวจสายพันธุ์ทันที
จากกรณี ประเทศอังกฤษพบผู้ติดเชื้อโอไมครอน เสียชีวิต 1 ราย นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดข้อมูลของผู้เสียชีวิต 1 รายจากประเทศอังกฤษ ว่ามีปัจจัยอื่นร่วมด้วยหรือไม่ เช่น โรคประจำตัว หรือการรับวัคซีนโควิด หากประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิดอะไรเลย เมื่อติดเชื้อโควิด ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหน โอกาสที่จะมีอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต สามารถเกิดขึ้นได้
ผอ.กองระบาดวิทยา ย้ำ สายพันธุ์โอไมครอน ก็คือเชื้อไวรัสโควิดเหมือนสายพันธุ์เดลต้า อัลฟ่า ที่อาจมีอาการเจ็บป่วยหนัก และเสียชีวิตได้ ซึ่งสัดสวนในกลุ่มนี้ ข้อมูลอาจยังไม่มากพอ เนื่องจากสายพันธุ์โอไมครอน พึ่งเริ่มมีการระบาด เพียงแต่ว่าจะมีการแพร่ระบาดที่เร็วกว่า หรือเสียชีวิตมากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้หรือไม่ ยังคงต้องติดตามต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ด่วน! ไทยพบโควิด "โอไมครอน" แล้ว 11 ราย ยืนยันผล 8 ราย เข้าข่ายรอผลอีก 3 ราย
• "หมอยง" แจง "โอไมครอน" แบ่งเป็น 2 สายพันธุ์ BA1 กับ BA2 ในไทยพบเป็นสายพันธุ์ BA1
• ซีดีซี เผยคนติดโอไมครอน ส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนครบแล้ว อังกฤษชี้ควรฉีดเข็ม 3 สกัด
ซึ่งประเทศไทยมีการติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว หากพบข้อมูลว่า สายพันธุ์โอไมครอน อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงและก่อให้เกิดความรุนแรงของโรค ทางไทยก็พร้อมที่จะมีการปรับมาตรการเข้ม
ส่วนกรณีที่อังกฤษมีการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นจำนวนมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว นายแพทย์ จักรรัฐ มองว่า อาจจะมาจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆในประเทศ และประชาชนอังกฤษ เริ่มผ่อนคลายในการไม่ใส่หน้ากากอนามัยมากขึ้น เมื่อออกนอกบ้าน มีการเดินทางเป็นเยอะขึ้น คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนอาจจะติดเชื้อและเสียชีวิตได้ ซึ่งตอนนี้ทางรัฐบาลอังกฤษได้มีการรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เนื่องจากส่วนใหญ่รับวัคซีนโควิดครบ 2 เข็มแล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ภูมิคุ้มกันอาจจะตกลง จึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ไทยยังคงมาตรการเดิมในการเฝ้าระวังสายพันธุ์โอไมครอนที่เข้มงวดอยู่แล้ว ในการป้องกันการแพร่ระบาด คือผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านระบบทุกคน หากพบว่าติดเชื้อก็จะต้องตรวจหาสายพันธุ์ทันที รวมถึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และภาคีเครือข่าย ได้มีการเฝ้าระวังสุ่มการตรวจหาสายพันธุ์ด้วย
ปัจจุบันไทยกำลังดำเนินการ ฉีดวัคซีนโควิดกระตุ้นเข็ม 3 ให้กับประชาชนที่รับวัคซีน 2 เข็มไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ขณะเดียวกันยังพบว่ามีประชาชนที่ยังไม่รับวัคซีนโควิดเข็มที่ 1 ประมาณ 2 ล้านคน ในจำนวนนี้คือกลุ่มที่ มีโรคประจำตัวด้วย และผู้สูงอายุ และอีกจำนวนหนึ่ง คือ กลุ่มไม่เอาวัคซีน สอดคล้องกับอัตราการเสียชีวิตของคนไทยจากการติดเชื้อโควิดที่ร้อยละ 80 - 90 ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุกับกลุ่มที่มีโรคประจำตัว