"ซิลวี่ ภาวิดา" นักร้องสาวพลัสไซส์ที่มีศักภาพกับผลงานเพลง "XL" และ "Queen" ภายใต้สังกัดใหม่ Warner Music Asia ซิลวี่ได้รับคำชื่นชมกับการเป็นผู้หญิงที่มีแนวคิดรักตัวเองไม่ว่ารูปปร่างจะไซส์ไหน ก็สามารถเติมเต็มพลังบวกและสร้างแรงบันดาลใจได้เช่นกัน
เรียนรู้ ยอมรับ "รักตัวเอง"
"มันเกิดจากการที่หนูพยายามในการที่จะเป็นแบบที่คนอื่นคาดหวัง แต่มันไม่พออยู่ดี หนูก็เลยมาคิดได้กับความคิดนึงว่านี่ไงกูกำลังพยายามเพื่อคนอื่นอยู่แล้วสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีพอล่ะคืออะไร หนูถึงค่อยสร้างมาตรฐานจากตัวเองว่าถ้าฉันพอใจในแบบนี้ เสียงคนรอบข้างมันจะไม่ดังกว่าเสียงที่มีอยู่ในหัวของตัวเองเลย พอวันนึงที่มันคิดได้มันก็จะรู้สึกรู้ว่าความคิดนี้มีค่าและมันก็จะมั่นใจเองค่ะ
หนูลองมาหมดแล้ว ลองเป็น ลองทำ ลองเป็นสาวหวาน ลองผมยาว ลองเรียบร้อย ลองใส่ส้นสูง ลองเป็นดีว่า หนูทำให้หมดแล้วไม่มีความสุข และก็อยู่ไหนอ่ะไม่เห็นไปไหนสักที่ อยู่ที่เดิม และก็ไม่มีความสุขหลักๆ เลยเราไม่มีความสุข มันอยู่ที่นี่หมดเลยมันอยู่ที่คุณต้องรู้ก่อนว่าตัวเองมีความสุขและพอใจแบบไหน ยอมรับข้อดีข้อเสียของตัวเองให้ได้ก่อนว่านี่คือดี นี่คือรูปร่างของฉัน
หนูไม่ได้ชอบมันทั้งหมดนะพี่ ทุกวันนี้บางทีหนูก็มองกระจกแล้วก็แบบว่ายังติตัวเองอยู่ก็มี แต่แค่หนูยอมรับมันได้ หนูยอมรับในข้อเสียและข้อดีและหนูก็แค่ใส่ใจรายละเอียดตรงข้อดีมีข้อดีปุ๊บดันตัวเองด้วยข้อดี ข้อเสียช่างมัน อย่าไปใส่ใจแล้วก็ Input สิ่งดีๆ ในหัวตัวเองย้ำยิ่งดีๆ ก็พออย่าไป Pick up สิ่งแย่ๆ ที่เกิดขึ้น"
ทลายกำแพงนิยาม "หุ่นพิมพ์นิยม"
"คำที่หนูเจอที่หนักที่สุดมันไม่ใช่คำหยาบเลยค่ะ แต่ว่ามันเป็นคำว่าต้องผอมแค่นี้เลย สำหรับหนูมันคือคำกดดัน มันคือคำว่าต้องผอมเท่านั้น ถึงจะอะไรสักอย่าง เราเลยรู้สึกว่าเราหล่อหลอมตัวเองเรื่องผอมเรื่องอ้วนเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับเรามาก กลัวชิบหายว่าน้ำหนักจะขึ้นไหม ณ วันนั้นหนูรู้สึกกดดันมากๆ แล้วหนูก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ในการที่จะอ้วนหรือจะผอมมันไปหนักหัวคนอื่น
อ้วนขึ้นหรือเปล่า ผอมลงหรือเปล่า หรือว่าแบบไปทำอะไรมาดำขึ้น อะไรอย่างเนี่ย หนูว่ามันเป็นคำทักทายที่แบบไม่จำเป็น ถ้าห่วงใยสบายดีไหมพอไม่ต้องแบบว่าอ้วนขึ้นผอมลง คำตอบมันชัดอยู่แล้วว่าอ้วนขึ้นหรือเปล่าใช่อาจจะกินเยอะ นึกออกใช่ไหม ดำขึ้นหรือเปล่าอาจจะไปทะเลมา มันไม่จำเป็นต้องไปจี้เขาหรือไปทำให้เขารู้สึกไม่ดี
ถ้าพูดอะไรแล้วทำให้ใครรู้สึกไม่ดีอย่าทำ คิดก่อนพูดเสมอเพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าอิมแพ็คจากคำพูดเรามันสมารถทำร้ายจิตใจคนได้มากแค่ไหน อย่างคำว่าอ้วนขึ้นหรือเปล่าเนี่ย มันแน่นอนอยู่แล้วว่าคนๆ นึงคงจะไม่ได้อยากให้ใครมาทักว่าเราอ้วนขึ้นหรือเปล่า คือถ้าอยากทักก็ทักทายกันด้วยคำว่าสบายดีไหมช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง กินข้าวหรือยัง ถามด้วยความห่วงใยไม่ใช่ถามเพื่อที่จะติ อย่างอ้วนขึ้นหรือเปล่ามันดูเหมือนเราจะติเขามันดูเหมือนเราเสือกพูดง่ายๆ เราไปยุ่งอะไรกับเขามันคือรูปร่างของแต่ละคนที่เขาจะเป็นจะทำเพราะฉะนั้นก็อย่าไปยุ่ง"
สร้าง "พลังบวก" ผ่านผลงาน
"ก่อนหน้านี้ตั้งแต่หนูอยู่มายากไปหมด จะโตก็ยาก จะให้คนชอบก็ยาก วันเนี่ยไม่ต้องทำอะไรเลยง่ายๆ ชิบหาย เพราะว่าเรามีความมั่นใจในตัวเองเพราะว่าเราหาตัวเองเจอแล้วก็ค่อนข้างชัดเจนในแนวทางของเราเพราะฉะนั้นสิ่งนึงที่หนูเรียนรู้คือจงมั่นใจในตัวเองจงเป็นตัวเองมันมีพลังแล้วเราจะสามารถสร้างพลังให้กับคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน รู้ไหมว่าเพลง Queen วันที่ถ่ายหนูรู้สึกกลัวนะ หนูกลัวกระแส หนูกลัวคนว่าสังคมคนไทยว่าเขาจะว่าหนู
แต่หนูไม่มีอะไรจะเสียหนูรู้สึกว่าอย่างน้อยโดนด่าที่ตัวเองสบายใจยังดีกว่าโดนด่าทั้งที่พยายามเป็นคนอื่นมันเหนื่อยจะพยายามแล้วยังเหนื่อยโดนด่าอีก วันนี้เราอาจจะเหนื่อยแค่การโดนด่าเฉยๆ ไม่เป็นไรอย่างน้อยเราสบายใจที่จะทำแล้วอีกอย่างเรารู้เป้าหมายของเรา เป้าหมายของเราคือการทำให้คนมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเขาเห็นเราซิลวี่มันกล้า อะไรอย่างเนี่ยแล้วเขาก็อาจจะเอา Pick Up ตรงนี้แล้วก็แบบช่างมันฉันจะเป็นเหมือนซิลวี่
หนูก็รู้สึกว่ามันเป็นพลังงานดีๆ มีพลังเดียวเลยที่มีค่าที่สุดคือพลังของตัวเอง ถ้าคุณไม่เห็นคนอื่นไม่เห็น เราต้องเห็นตัวเราเองก่อนเพราะฉะนั้นการที่ถ้าเรามัวแต่รู้สึกว่าฉันไม่มีค่าแย่แน่ๆ ไม่มีวันๆ ลุกขึ้นมาไม่มีวันมีค่าแน่นอน แต่ถ้าวันนึงเรารู้สึกว่า เรารู้แล้วทำไมฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าไม่ได้นะฉันต้องสู้เอาไฟตรงเนี่ยกลับมาแล้วก็ให้มันนำพาตัวเอง ลุกขึ้นไปทำอะไรซักอย่างที่ทำให้เรามีความสุข ไปทำอะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกทำแล้วรู้สึกเสริมสร้างความมั่นใจไปทำ แล้วถ้าวันนึงเราเห็นคนอื่นๆ ก็จะเห็นทำเพราะว่าเราอยากทำให้ตัวเองทำเพื่อตัวเองก่อนแล้ววันนึงมันจะมีแต่ความรักดีๆ รอบตัวเรา"