คู่หมั้นของ Jamal Khashoggi นักข่าวที่วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯส่งจดหมายหาจัสติน ขอให้เขาไม่เข้าร่วมงานคอนเสิร์ตที่กำลังจัดขึ้นในวันที่ 5 ธันวาคมนี้เพื่อกู้หน้าราชวงศ์
คู่หมั้นของนายจามาล คาชอกกี (Jamal Khashoggi) นักข่าวของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ที่ถูกลอบสังหารที่ซาอุดิอาราเบียเมื่อปี 2018 คู่หมั้นของเขาได้ออกมาเรียกร้องให้จัสติน บีเบอร์ยกเลิกคอนเสิร์ตที่กำลังจะจัดขึ้นในซาอุดิอาราเบีย วันที่ 5 ธันวาคมที่จะถึงนี้เพราะไม่อยากให้งานนี้เป็นงานกู้หน้าของเมืองที่เธอเชื่อว่าเป็นผู้สั่งฆ่าสามีของเธอ
นักร้องหนุ่มชาวแคนาดา จัสติน บีเบอร์ จะเป็นเซเลบริตี้คนแรกที่ได้ขึ้นแสดงในงาน Formula One Grand Prix แห่งแรกของอาณาจักรในเมืองเจดดาห์ แต่ Hatice Cengiz ภรรยาของจามาลได้เขียนจดหมายถึงจัสติน บีเบอร์เพื่อกระตุ้นให้เขาส่งต่อข้อความอันทรงพลังนี้ออกไป
เนื้อหาช่วงตอนหนึ่งในจดหมายเขียนว่า
“อย่ามาร้องเพลงเพื่อฆาตกรที่ฆ่าจามาลที่รักของฉันนะ”
ข้อความนี้ก็ถูกเผยแพร่บนวอชิงตันโพสต์
เธอกล่าวว่าเธอไม่อยากให้จัสตินขึ้นแสดง เพื่อชื่อเสียงและพรสวรรค์ของเขาจะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูชื่อเสียงของระบอบการปกครองที่ฆ่านักวิจารณ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สหรัฐฯ เล็งคว่ำบาตรโอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่ง 2022 โต้จีน จากปัญหาสิทธิมนุษยชน
เผิง ฉ่วย (Peng Shuai) ปลุกกระแส Metoo เผย "อดีตรองนายกจีน" ล่วงละเมิดทางเพศ
ทนาย หวั่นศาล เพิกถอนประกันตัว 3 แกนนำม็อบ “รุ้ง-ไมค์-แอมมี่”
นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนประท้วงจีนจัดโอลิมปิกฤดูหนาว ในกรุงเอเธนส์
มิสแกรนด์สกอตแลนด์ 2020 โพสต์ภาพชูสามนิ้ว พร้อมส่งเรื่องประเทศไทยถึง UN
ชื่อของจัสติน บีเบอร์ถูกโปรโมทในงานการแข่งขัน F1 ในวันที่ 5 ธันวาคมที่จะถึงนี้ และมีศิลปินชื่อดังท่านอื่นร่วมด้วยเช่น A$AP Rocky, David Guetta and Jason Derulo
องค์กร Human Rights Watch ได้เรียกร้องให้นักร้องอย่างบีเบอร์และนักแสดงคนอื่นๆถอนตัวออกจากคอนเสริร์ต F1 โดยกล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากข่าวฉาวล่าสุดของ มกุฎราชกุมารซาอุดิอาราเบีย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (Mohammed bin Salamn) ที่ได้สั่งฆ่าจามาล จากการที่เขาวิพาร์กวิจารณ์ราชวงศ์
บีเบอร์ไม่ใช่ป๊อปสตาร์คนแรกที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันให้ออกจากคอนเสิร์ตในซาอุฯ ในปี 2019 แร็ปเปอร์สาวอย่าง Nicki Minaj ก็ถูกยกเลิกการแสดงที่จัดขึ้นที่เจดดาห์ โดยเธออ้างว่า เธอสนับสนุนผู้หญิงและสิทธิของ LGBT
การหายตัวไปคาชอกกี
นักข่าววัย 59 ปีรายนี้เคยเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลซาอุดิอาราเบียและใกล้ชิดกับราชวงศ์เสมอมา แต่เขาไม่เคยได้รับความโปรดปรานแม้แต่น้อยและต้องลี้ภัยในสหรัฐฯเมื่อปี 2017
คาชอกกี นักวิจารณ์ประจำซาอุดิอาราเบีย ถูกสังหารที่สถานกงสุลในอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 28 ก.ย. เขาเดินทางเพื่อไปรับเอกสารรับรองว่าเขาหย่าขาดจากภรรยาแล้ว แต่เขาได้รับแจ้งให้กลับมาใหม่
นายคาชอกกีกลับไปที่นั่นอีกในวันที่ 2 ต.ค. เมื่อเวลา 13.14น. ตามเวลาท้องถิ่น เขาไปถึงก่อนเวลานัด 13.30 น.เขานำโทรศัพท์มือถือสองเครื่องของเขาให้กับฮาทีเจอ เจงกิซ คู่หมั่นชาวตุรกีของเขา และบอกเธอว่า ถ้าเขาไม่กลับออกมา ให้โทรหาที่ปรึกษาของประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ภรรยาของเขารอด้านนอกนานกว่า 11 ชั่วโมง แต่เขาไม่ออกมา เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในช่วงเช้าของวันที่ 3 แต่ก็ไม่พบร่องรอยของเขาอีกเลย
รายงานข่าวกรองของสหรัฐฯบ่งชี้ว่า โมฮัมเหม็ด บิน ซัลลาน มกุฎราชกุมารซาอุฯ คือผู้อนุมัติให้สังหารนายจามาล คาซอกกี แต่พระองค์ทรงปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ย้อนกลับไปยังเหตุการณ์การลอบสังหารนายจามาล คาซอกกี (Jamal Khashoggi) นักข่าวของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ แหล่งข่าวระบุว่า รายงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ CIA สรุปคดีดังกล่าวมาให้ว่ามกุฎราชกุมารซาอุฯ ได้ทรงอนุมัติและอาจทรงสั่งการให้สังหารนายคาชอกกี ผู้เขียนบทความวิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯอย่างรุนแรงลงในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์
VOA ประเทศไทยรายงานว่า การเปิดเผยรายงานฉบับนี้คือส่วนหนึ่งของการปรับความสัมพันธ์กับรัฐบาลซาอุฯ ภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯชุดใหม่ให้กลับมาอยู่ในแนวทางเดิม หลังจากมีประวัติด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลซาอุฯ และการแทรกแซงสงครามในเยเมน ถูกเมินเฉยจากรัฐบาลอเมริกันชุดก่อนมาหลายปี
จามาล คาชอกกี ถูกฆาตกรรมเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018 หลังการหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ระหว่างที่เดินทางเข้าไปสถานกงสุลซาอุฯ ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ตุรกีเปิดเผยรายงานที่ระบุว่า นักข่าววัย 59 ปีผู้มักวิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ ผู้นี้ถูกแขวนคอและถูกหั่นศพเป็นชิ้นๆภายในสถานกงสุลซาอุฯแต่ไม่มีใครพบชิ้นส่วนร่างกายของเขา
ในคอลลัมน์แรกของคาชอกกีที่เขียนให้กับวอชิงตันโพสต์ เขาระบุว่า เขากลัวถูกจับเนื่องจากการที่มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯทรงปราบปรามผู้ที่แข็งข้อ นับตั้งแต่พระองค์ทรงขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทลำดับแรก ในการสืบราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน เขาเขียนคอลัมน์นี้เมื่อตอนเขาลี้ภัยในสหรัฐฯเมื่อปี 2017
รายงานจากเจ้าหน้าที่ตุรกีระบุว่า เขาถูกสายลับซาอุฯสังหารที่สถานกงสุลและถูกจัดการศพ แต่ตุรกีไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือในการพิสูจน์ข้อสันนิษฐานนี้ นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ซาบาห์ของตุรกีที่สนับสนุนโดยรัฐบาลรายงานว่า มีทีมสายลับของวาอุฯต้องสงสัย 15 คนที่เดินทางบินเข้าและออกนครอิสตันบูลในวันที่นายคาชอกกีหายตัวไป
ส่วนเรื่องของการสืบสวนและไทม์ไลน์นั้นจะเป็นอย่างไร มีรายละเอียดอะไรบ้าง ลองไปอ่านต่อได้ที่ BBC
ที่มาข้อมูล BBC และ VOA THAILAND