ศปก.ศบค. เตรียมชง ศบค.ชุดใหญ่ศุกร์นี้เคาะลด-เพิ่ม โซนสีรายจังหวัด

พลเอกสุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 หรือ ศปก.ศบค. กล่าวถึงการเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่า ภาพรวมนั้นเป็นที่น่าพอใจ เป็นไปด้วยดี มีปัญหาบ้างเล็กน้อยส่วนงานที่รับผิดชอบก็ได้มีการแก้ไขปรับปรุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันนี้จะมีการหารือ ถึงผลการดำเนินการที่ผ่านมา ว่าจะต้องมีการปรับจังหวัดพื้นที่ศูนย์สีจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็นควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่ควบคุม โดยจะประเมินจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ และการจัดระเบียบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยจะนำคลัสเตอร์การติดเชื้อในพื้นที่ต่างๆทั้งจากงานบุญมาร่วมพิจารณาด้วยโดยมีสาธารณสุขเป็นผู้ประเมินและนำเข้าที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง 

โดยพลเอกสุพจน์ ยอมรับว่า อาจจะมีปรับความเข้มงวดของมาตรการขึ้นในบางจังหวัดซึ่งหารือกันในช่วงบ่ายวันนี้ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดเช่นเดิม แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อขณะนี้ทรงตัวแล้ว จากการที่พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผอ. ศคบ. ได้ส่งพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ. ศบค. ส่วนหน้าลงไปดูก็ถือว่าประสบความสำเร็จ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• เช็กมาตรการ! ศบค.เคาะแล้ว จัดงานลอยกระทง 2564 ได้ทุกพื้นที่ ต้องทำอะไรบ้าง

• นายกฯ ย้ำไม่อยากให้มีล็อกดาวน์อีก วอนประชาชนปฏิบัติตามมาตรการคุมโควิด

• เปิดประเทศมาแล้ว 5 วัน พาส่องชีพจรธุรกิจ อาการเป็นอย่างไรบ้าง ?

ส่วนที่ประชุมศบค.วันศุกร์นี้จะมีการผ่อนคลายกิจกรรมกิจกรรมหรือไม่นั้น พลเอกสุพจน์ระบุว่า ในที่ประชุมวันศุกร์นี้จะมีการประเมินเป็นรายจังหวัด จังหวัดใดหากประเมินแล้วมีมาตรฐานผ่าน จะถูกขยับมาในระดับที่ดีขึ้น

ส่วนกรณีที่มีแรงงานต่างด้าวทะลักเข้าตามแนวชายแดน พลเอกสุพจน์ ยอมรับว่า เรื่องนี้อยู่ไหนแผนการเปิดประเทศอยู่แล้ว แต่จำเป็นต้องให้หน่วยงานด้านความมั่นคงศปม.ทหารตำรวจที่อยู่ตามแนวชายแดนต้องดูเพิ่มประเมินสถานการณ์ระหว่างการเปิดประเทศ เพราะเกรงว่าหากทำตั้งแต่แรกอาจเกิดความวุ่นวาย จึงต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่ยืนยันว่ามีแผนรองรับไว้แล้ว ซึ่งกระทรวงแรงงานเป็นเจ้าของเรื่องนี้ และมีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการทบทวนในหลายมาตรการแล้ว โดยแผนการที่ได้เตรียมไว้จนมั่นใจว่าแรงงานที่จะเข้ามานั้นปลอดเชื้อและเข้าไปทำงานอยู่ในระบบการควบคุม ถือเป็นการจัดระบบแรงงานที่ดีด้วย โดยกระทรวงแรงงานจะเสนอในที่ประชุมบ่ายวันนี้เช่นกัน

โดยพลเอกสุพจน์ เปิดเผยว่าตัวเลขการลักลอบเข้าใจแดนของแรงงานต่างด้าว เป็นตัวเลขที่พยายามลักลอบเข้ามา ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการกับผู้ที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย มีการดำเนินคดีในหลายคดีมาก ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นภาระของหน่วยงานตามแนวชายแดน ซึ่งทางศปม.ได้มีการปรับกำลังการทำงานเป็นที่น่าพอใจ แต่ยอมรับว่าพื้นที่มีจำนวนมากอาจจะมีเล็ดลอดเข้ามาบ้าง จากชั้นนอก แต่ชั้นในจะมีการสกัดจึงเห็นตัวเลขดังกล่าว

ขณะที่การจัดงานลอยกระทง พลเอกสุพจน์ ระบุว่า ยังมีความเป็นห่วง ไม่ว่าจะเป็นงานประเพณีอะไรที่มีการรวมพลทางกระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามได้มีการดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนและมีการประเมินหลายครั้งโดยให้ทางจังหวัด ซึ่งมีเพียงไม่กี่จังหวัดที่จะจัดงาน โดยมรการเสนอเข้ามายังที่ประชุมศปก.ศบค. ซึ่งที่ประชุมเห็นว่ามีมาตรการที่ค่อนข้างรัดกุม และผู้ว่าราชการจังหวัด ยืนยันว่า ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนภายในจังหวัดเป็นอย่างดี

โดยการจัดงานประเพณีต่างๆในพื้นที่สีแดงเข้มหรือพื้นที่สีต่างๆมีการกำหนดเงื่อนไขชัดเจน พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ซึ่งได้เปิดอนุญาตให้มีการจัดกิจกรรม ซึ่งอนุญาตให้มีการรวมตัวกันเป็นจำนวนมากแต่ต้องย้ำเรื่องมาตรการด้านกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด แต่หากจะทำเกินกว่าที่มีการกำหนดจะต้องขออนุญาตเป็นขั้นตอน พร้อมขออย่ากังวล

พลเอกสุพจน์ ระบุถึง กรณีที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจเปิดประเทศ ปัจจุบันนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยแต่ยังมีบางส่วนที่ยังน่าเป็นห่วง ยังเดินหน้าไม่เต็มที่ แต่ขอให้อดใจรอทางราชการพยายามขับเคลื่อนและทำงานให้ดีที่สุด พร้อมกับยังระบุอีกว่า ที่ประชุมมีความพึงพอใจในตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาภายในประเทศกับอัตราการติดเชื้อที่พบ ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก แต่อย่างไรก็ตาม มาตรการยังคงรัดกุมอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่นายกรัฐมนตรีกังวลและกำชับให้ที่ประชุมศปก.ศบค.แก้ไขคือ ความสะดวก ความรวดเร็วแต่ต้องปลอดภัย ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่

ส่วนการเปิดให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร พลเอกสุพจน์ ระบุว่าสามารถทำได้ในพื้นที่ 4 จังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว เต็มทั้งจังหวัด และอีก 13 จังหวัดเป็นบางพื้นที่บางอำเภอ ซึ่งขึ้นอยู่กับอำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในแต่ละพื้นที่เป็นผู้ประเมิน พฤติกรรมในพื้นที่ตัวเอง และกำหนดกฎเกณฑ์เพิ่มเติม ว่าจะไม่กระทบกับประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการจะแข็งแรงพอ ที่จะสามารถ ดำเนินการได้โดยสั่งไม่ถูกสั่งปิด ควรจะทำความเข้าใจว่ามาตรการที่ห้าม หรือมาตรฐานSHA ไม่ใช่การกีดกัน หรืออยากทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อน แต่ต้องการทำให้เปิดกิจกรรมกิจการได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องเปิดแล้วปิด และจะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ

ขณะที่การลักลอบนำวัคซีน Johnson & Johnson เข้ามาฉีดภายในประเทศ พลเอกสุพจน์ ขอให้รอฟังข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ว่ามีความผิดเช่นไรบ้าง