บริษัท ไฟเซอร์ อิงค์ เผยผลการทดลองระยะที่ 3 ของ "ยาแพ็กซ์โลวิด" สามารถลดความเสี่ยงผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัว หรือเสียชีวิตได้ถึง 89 เปอร์เซนต์ และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจามอบช่วงสิทธิบัตร ให้ประเทศต่างๆ เพื่อให้กลุ่มประเทศยากจนสามารถเข้าถึงยาได้
6 พ.ย.64 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า หลังจากที่ บริษัท ไฟเซอร์ อิงค์ เผยรายงานเบื้องต้นของการทดสอบประสิทธิภาพ ยารักษาโควิดแบบรับประทาน “แพกซ์โลวิด” (Paxlovid) สามารถช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้อาการรุนแรงจนถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือเสียชีวิตได้ถึง 89% ล่าสุดมีข่าวดีอย่างต่อเนื่องเมื่อ ไฟเซอร์ พร้อมมอบสูตรผลิตยารักษาโควิด ให้แก่ประเทศต่างๆ ตามรอย “เมอร์ค”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยาโมลนูพิราเวียร์ ยาต้านโควิด-19 ผ่านการอนุมัติจากสหราชอาณาจักร
เมอร์ค Merck จะอนุญาตให้ 105 ประเทศ ผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ต้านโควิด-19
องค์กรสิทธิบัตรยาร่วม (MPP) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยต่อรอยเตอร์ ระบุว่า ผลการทดลองระยะที่ 3 ของ ยาแพ็กซ์โลวิด พบว่า สามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือเสียชีวิตได้ถึง 89% โดยสูงกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งมีประสิทธิภาพเพียง 50%
การดำเนินการมอบช่วงสิทธิบัตรของ ไฟเซอร์ สอดคล้องกับที่ เมอร์ค เจรจากับ MPP ก่อนหน้านี้ โดยเมอร์คได้มอบช่วงสิทธิบัตรผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 ให้แก่ประเทศในกลุ่มรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางจำนวน 105 ประเทศทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชียและแอฟริกา
ทั้งนี้ บริษัทที่ต้องการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ สามารถยื่นเรื่องต่อ MPP เพื่อขอการอนุมัติ โดย MPP จะมอบช่วงสิทธิบัตรให้แก่บริษัทที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานสาธารณสุขภายในประเทศในการผลิตยาดังกล่าว
ขณะนี้มีบริษัทกว่า 50 แห่งที่ได้ยื่นเรื่องขอรับช่วงสิทธิบัตรในการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์แล้ว ซึ่ง บริษัทเมอร์ค และบริษัทริดจ์แบ็คจะไม่เรียกเก็บค่ารอยัลตี หรือค่าตอบแทนใดๆจากบริษัทที่ผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ตราบใดที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังคงจัดอันดับโควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ
คาดว่าการมอบช่วงสิทธิบัตรการผลิตยาดังกล่าว จะทำให้ยาโมลนูพิราเวียร์มีราคาถูกลงเหลือเพียงคอร์สละ 20 ดอลลาร์ หรือราว 650 บาท ขณะที่รัฐบาลสหรัฐซื้อยาดังกล่าวจากเมอร์คในราคาคอร์สละ 700 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 23,000 บาท