“เราเข้าใจความเจ็บปวด” ครูประทีป มอบถุงยังชีพ ช่วยชาวชุมชนตึกร้างบางพลัด

ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป ได้ลงพื้นที่ชุมชนตึกร้างบางพลัด และได้มอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวชุมชน โดยครูประทีป ได้กล่าวถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ รวมถึงข้อเสนอแนะในการช่วยเหลือชาวชุมชนในระยะยาว ดังต่อไปนี้

เราเข้าใจความเจ็บปวดของประชาชน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกล่าสุด นับเป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว ที่ส่งผลกระทบให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก ทางมูลนิธิดวงประทีป จึงได้มีการลงพื้นที่ เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับชุมชนต่างๆ ร่วมถึงชุมชนตึกร้างบางพลัด         

“ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โควิดระบาด (ระลอก 3) ตั้งแต่เดือนเมษายน รวมแล้วก็ 7 เดือนกว่า ได้ทำร้ายผู้คนจำนวนมาก ทั้งเจ็บป่วย รวมทั้งสูญเสียชีวิต มีคนเดือดร้อนมากมาย ทั้งตกงาน ทั้งมีโรคร้าย ต้องระมัดระวังตัว เด็กไม่ได้ไปโรงเรียน เรียนออนไลน์ก็ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ

“เราเข้าใจความเจ็บปวดของประชาชน มันหนักหนาสาหัส จึงบอกไปยังผู้ที่มีจิตเมตตาว่า ในยามวิกฤต เราจะช่วยอะไรกันได้บ้าง ก็เริ่มต้นที่คลองเตย มอบอาหารให้กับผู้กักตัว ผู้ป่วย แล้วตอนนี้ก็มีโรงพยาบาลสนาม (ที่คลองเตย) คืออะไรที่เราจะทำให้ความทุกข์ยากของประชาชนลดลงเนี่ย เราก็อยากทำ

“แล้วพอมีผู้ที่มีจิตเมตตาให้ของมา เราก็มาจัดใส่ถุงมามอบให้ผู้คนในชุมชนต่างๆ ถึงแม้จะไม่ได้มากมายอะไร แต่ว่ามันเป็นการแสดงน้ำใจของผู้คนในสังคมว่า ยามวิกฤตเหล่านี้เนี่ย มันต้องร่วมมือช่วยกัน แล้วเราก็ทำให้หลายครอบครัว ซึ่งเขาไม่มีรายได้ อย่างน้อยๆ เขาก็มีอาหารรับประทาน อย่างน้อยๆ ก็เกือบสัปดาห์หนึ่ง ที่เขาสามารถยังชีพ ลดความเดือนร้อน ประทังความหิวไปได้”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ แสงที่ส่องสว่างในชุมชนคลองเตยมากว่า 50 ปี

• เปิดใจ ครูประทีป เร่งฉีดวัคซีนโควิด แก้วิกฤต “คลัสเตอร์คลองเตย”

• "ครัวปันอิ่ม" ซีพีผนึกกำลัง 100 องค์กรพันธมิตร แจกอาหาร 2 ล้านกล่อง ฝ่าโควิด

การช่วยเหลือชุมชนตึกร้างบางพลัด ในระยะยาว

ครูประทีป ได้แสดงความคิดเห็น ในส่วนของการช่วยเหลือชาวชุมชนตึกร้างบางพลัด ในระยะยาว หรือเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ดังต่อไปนี้    

“ราคาที่ดินจาก 30-40 ปีมาเนี่ย ราคาที่ดินก็ขึ้นสูงมาก ตอนที่ธนาคารยึดมา ก็คงจะเป็นอีกราคาหนึ่ง แต่ราคาปัจจุบันก็จะเป็นอีกราคาหนึ่ง ซึ่งจะสูงกว่าเดิมมาก

“ดังนั้นการที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ หรือลดความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยให้คนยากคนจนได้มีที่อยู่เนี่ย ไม่ต้องไปเร่ร่อนนอนข้างถนน ดิฉันคิดว่าน่าจะแบ่งพื้นที่บางส่วน แล้วก็ปลูกเป็นอาคารแฟลตซะ มันก็จะทำให้เจ้าของที่ดิน หรือธนาคาร ได้นำที่ดินเอาไปทำประโยชน์

“แล้วส่วนหนึ่งประชาชนที่เดือดร้อนก็ได้มีที่อยู่อาศัย แล้วเขาก็จะเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ ที่มีความสุข ได้กลับมาเป็นแรงงานให้กับภาคธุรกิจ แล้วสังคมเราก็เป็นสุข มันต้องอาศัยการจัดการเข้าไป อย่าง กรมการพัฒนาชุมชน การเคหะฯ ควรจะเข้ามา หรือกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ก็ควรจะเข้ามาช่วยกันดูแล

“ธนาคาร หรือแหล่งทุน (เจ้าของที่ดิน) เราก็ต้องเห็นใจ แต่ว่าเราก็ต้องเห็นใจคนที่กำลังลำบากด้วย เราต้องไปด้วยกัน แล้วต้องแบ่งปันทรัพยากร ทรัพยากรที่มีอยู่อันจำกัด ให้กับทุกคนในสังคมได้รับประโยชน์ แล้วก็ขับเคลื่อนสังคมไปด้วยกัน”

ข้อเสนอแนะ ถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง

สุดท้ายนี้ ครูประทีปได้ให้ข้อเสนอแนะว่า จะต้องมีการปรึกษาหาทางออกร่วมกัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทุกฝ่าย

“ในช่วง 2 ปีนี้ เราก็ต้องเข้าใจนะ เพราะว่าแต่ละหน่วยราชการก็ต้องไปดูแลเรื่องพิษภัยของโควิด แต่ก่อนหน้านี้เราก็ไม่ทราบ แต่ว่าในระยะ 2 ปีนี้ เราก็จะไปกล่าวอะไรที่ทำให้เขาเสียใจก็คงไม่ใช่ แต่ว่าหลังจากนี้ไปเรื่องของการฟื้นฟูขับเคลื่อนประเทศเนี่ย มันก็ควรจะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามา มาประชุมกับชาวบ้าน มาประชุมกับหน่วยงาน กับประชาชนในพื้นที่ชุมชนตึกร้างบางพลัด เข้ามาคุยกัน

“เอาผังที่ดินทั้งหมดมาดูกัน แล้วก็จัดบริหารจัดการร่วมกันกับธนาคาร (เจ้าของพื้นที่) ด้วย ทุกฝ่ายมีส่วนรวม แล้วทุกฝ่ายได้ประโยชน์ทุกส่วน เรียกว่า Win Win

“จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน ไม่ต้องฟ้องร้อง เพราะว่าใช้กฎหมาย ใช้อะไรต่างๆ ใช้เวลายาวนาน ฟ้องร้องขับไล่ชาวบ้าน เราคิดว่าให้เป็นการประชุมปรึกษาหารือกัน แล้วตกลงกันอย่างสันติวิธี ก็จะทำให้แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว

“เพราะครูประทีป ตลอดชีวิตอยู่กับเรื่องของการไล่ที่ เรื่องของอะไรต่างๆ มีประสบการณ์มากมาย การที่เราหันหน้าเข้าคุยกัน หาทางที่จะประนีประนอมกัน แบ่งปันกันเนี่ย เป็นโซลูชั่นที่ดีที่สุด”