เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 เปิดเผยเรื่องราวร้องทุกข์ ระบุว่า รพ.แห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ คัดกรอง คัดแยกผู้ป่วยโควิดผิดพลาดหรืออย่างไร จึงปล่อยให้ผู้ป่วยโควิด-19 ร่วมห้องกับผู้ป่วยรวม ทำเอาญาติและผู้ป่วยคนอื่นสัมผัสเสี่ยงสูง
31 ต.ค.64 กรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 เปิดเผยเรื่องราวของลูกผู้ป่วยที่เปิดเผยถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จังหวัดเพชรบูรณ์ คัดกรอง คัดแยก ผู้ป่วยโควิดพลาด หรืออย่างไร ทำให้แม่ของตนและผู้ป่วยรายอื่นที่เข้ารักษาต้องกลายมาเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคโควิด-19
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลูกค้าแฉ! พลูวิลล่าแห่งหนึ่งหัวหิน ประตูตกใส่ แก๊สระเบิด ไร้เงาคนรับผิดชอบ
งามหน้า! ชาวเน็ตแฉภาพข้าราชการตั้งวงสังสรรค์ภายใน สนง.ราชการ จ.จันทบุรี
ฉาวโซเชียล ครูสุดอัดอั้น แฉ ผอ.ใกล้เกษียณผุดงานก่อสร้าง ยักยอกเงินโรงเรียน
โดยเจ้าของเรื่องราวระบุว่า "อยากขอความช่วยเหลือ คือพาแม่มารักษาตัวใน โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดจนใกล้หายดีและเกือบจะได้กลับบ้านแล้ว แต่จู่ๆคืนนึงมีการรับผู้ป่วยใหม่เข้ามากลางดึกด้วยอาการไอ ท้องเสีย หายใจเองลำบากต้องใส่อ๊อกซิเจนช่วยตลอด ก็ไม่คิดอะไร คิดว่ามีการผ่านมาตรการตรวจคัดกรองโควิดมาแล้ว เพราะแม่ที่ป่วยมีอาการไอบ้างเล็กน้อยยังต้องตรวจก่อนเลย
จนผ่านไปสัก2-3ชม. มีการย้ายผู้ป่วยคนนี้ออกไปห้องแยก และมาแจ้งญาติกับผู้ป่วยทุกคนในห้องว่า เมียคนที่เพิ่งเข้ามาเป็นโควิด ขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งไปไหน รอผลตรวจโควิดของผู้ป่วยคนเมื่อคืนออกก่อน ประเด็นคือ ลุงไม่ได้ใส่แมสเพราะต้องใส่อ๊อกซิเจนและมีการไอค่อนข้างมากตลอดเวลาที่อยู่ในห้องพักรวม เตียงที่นอนถูกจัดเบียดชิดใกล้กันมากจนไม่นึกถึงความปลอดภัย
และสุดท้ายผลตรวจของลุงออกมาว่าเป็น พร้อมกับการเสียชีวิตของลุง ลุงป่วยเป็นโควิดพวกเราทุกคนในห้องกลายเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูงทันที ทั้งคนแก่เด็กเล็ก คำถามคือกรณีนี้ โรงพยาบาลปล่อยผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงขนาดนี้หลุดมาได้อย่างไร มาตรฐานการตรวจคัดกรองอยู่ตรงไหน หากมีอะไรรุนแรงมากกว่านี้ ใครเป็นคนรับผิดชอบ มีคำถามมากมายที่ไม่สามารถพิมพ์หรืออธิบายออกมาได้ มันแน่น จุกจนพูดไม่ออก เหตุการณ์นี้ไม่มีการขอโทษใดๆจากการผิดพลาดครั้งนี้ ได้แต่บอกให้พวกเรารออย่างเดียว"
ทั้งนี้ประเด็นนี้ถูกวิพากษ์ วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล ซึ่งทางโรงพยาบาลที่ถูกร้องเรียนก็ไม่ได้มีการออกมาชี้แจงประเด็นที่ถูกกล่าวถึงแต่อย่างใด ซึ่งอย่างไรก็ตามก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ทางโรงพยาบาลจะออกมารับผิดชอบหรือชี้แจงประเด็นที่ถูกร้องเรียนขึ้นหรือไม่