เสนอศบค.ชุดใหญ่พิจารณา เคาะลดเวลาเคอร์ฟิวเหลือ 23.00-23.00 น. ปรับลดพื้นที่สีแดงเข้มจาก 29 จังหวัด เหลือ 24 จังหวัด และปรับลดสีอื่นๆตามลำดับ
การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือ ศบค. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธาน มีวาระการประชุมที่ต้องติดตามคือศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) จะเสนอให้ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่พิจารณาการปรับพื้นที่โซนสีควบคุมการระบาดโควิด-19 ใหม่ โดยปรับลดพื้นที่สีแดงเข้มปรับลดจาก 29 จังหวัด เหลือ 24 จังหวัด พื้นที่สีแดงปรับลดจาก 37 จังหวัด เหลือ 29 จังหวัด พื้นที่สีส้มปรับเพิ่มจากจาก 11 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด รวมถึงปรับเวลาการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว จากเดิมเวลา 22.00-04.00 น. เป็นเวลา 23.00-03.00 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ศบค. หวั่น นักเรียนเกิดกล้ามหัวใจอักเสบ หลังมีการระดมฉีดวัคซีนโควิด
ศบศ. ไฟเขียวต่อลมหายใจ จ้างงานเอสเอ็มอี 3 เดือน จ่ายหัวละ 3,000 บาท/เดือน
ศบค. เพิ่มมาตรการเข้ม ขึ้นเครื่องบิน เตือน อย่าการ์ดตก หวั่นติดเชื้อพุ่งอีก
นอกจากนี้ จะเสนอให้ศบค.พิจารณาผ่อนคลายกิจกรรม กิจการเพิ่มเติม โดยพื้นที่สีแดงเข้มสามารถจัดการประชุมสัมมนา รวมถึงงานประเพณี ในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ สถานที่ลักษณะเดียวกับในห้างสรรพสินค้า โรงแรม
ขณะเดียวกันจะมีการเสนอให้ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ปรับจำนวนการรวมกลุ่ม ตามลำดับพื้นที่สี จากสีแดงเข้ม ถึงสีเขียว โดยให้พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า200 คน พื้นที่เฝ้าระวังระวังสูง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 300 คน และพื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน
ทั้งนี้จะมีการเสนอให้เปิดสถานดูแลผู้สูงอายุแบบไป-กลับได้ แต่ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจการกิจกรรมที่จะปรับมาตรการในครั้งนี้ให้เปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.