หุ้น Facebook ร่วง สาเหตุหนึ่งมาจากการที่ 3 บริการหลักอย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp ล่ม แต่สาเหตุหลักมาจากการที่อดีตพนักงานเปิดโปงถึงการเห็นผลประกอบการสำคัญความปลอดภัยในสังคม
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ Facebook สูญเงินไปกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ ในเวลาเพียงเกือบ 6 ชั่วโมงที่ Facebook, Instagram และ WhatsApp ล่ม
จากการที่หุ่นร่วงไป 4.89% ปิดตลาดที่ 326.23 ดอลลาร์ ลดลงมา 16.78 ดอลลาร์ เท่ากับที่ผ่านมาตั้งแต่กลางเดือนกันยายน Facebook หุ้นร่วงไปแล้วกว่า 15%
การปรับตัวร่วงอย่างหนักของราคาหุ้น Facebook ทำให้สินทรัพย์ของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ลดลงเหลือ 121,600 ล้านดอลลาร์ ดึงให้มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ร่วงไปอยู่อันดับ 5 ของบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก ตามดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ทำให้มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีสินทรัยพ์ลดลงเกือบ 140,000 ล้านดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สาเหตุหลักจากราคาหุ้นทิ้งดิ่งมาจากอดีตพนักงาน Facebook อย่าง "ฟรานเชส โฮเกน" อดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ Facebook วัย 37 ปี เผยว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียรู้ถึงผลกระทบที่มีต่อผู้ใช้งานอย่างชัดแจ้ง แต่เห็นถึงผลกำไรมากกว่าที่จะขัดขวางการสร้างความเกลียดชังในสังคม การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง (Fake News) และการกลั่นแกล้งเด็กสาววัยทีน
และ ฟรานเชส โฮเกน คือผู้เปิดโปงยักษ์ใหญ่นี้ ด้วยการส่งเอกสารข้อมูลจนนำไปสู่การสืบค้นของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (Wallstreet journal: WSJ) และทำให้เกิดการตรวจสอบถึงอันตรายที่มีต่อเด็กสาวบน Instagram โดยวุฒิสภา
ยังมีการอ้างถึงงานวิจัยของ Facebook เองว่า การใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียปลุกเร้าอารมณ์โกรธของผู้คนได้ง่ายกว่าความรู้สึกอื่นๆ และตระหนักดีว่า หากเปลี่ยนอัลกอริธึมให้การใช้งานมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จะส่งผลให้เกิดการคลิกโฆษณาลดลง และทำให้รายได้ลดลงเช่นกัน
นอกจากนี้ ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปีที่แล้ว (2020) Facebook ได้เปิดระบบรักษาความปลอดภัยของเนื้อหา ที่จะไปกระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังในอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น แต่เมื่อการเลือกตั้งจบลง Facebook ก็ปิดระบบรักษาความปลอดภัยดังกล่าว และหันไปให้ความสำคัญแก่รายได้ตามเดิม