ในรอบ100ปีที่ผ่านมา มีสัตว์สูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 18 สายพันธุ์และคาดว่ากำลังจะสูญพันธุ์อีก 550 สายพันธุ์ หากไม่เริ่มลงมือช่วยกันอนุรักษ์ตอนนี้ ระบบนิเวศน์จะขาดสมดุล และมนุษย์จะอยู่ยากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย
ทำไมการมองว่าสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วหรือสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ถึงมีความสำคัญกับมนุษยชาติ แม้ว่าในความเป็นจริงนั้นมันอาจจะไม่สำคัญโดยตรงขนาดนั้น แต่หากลองมองดูดีๆก็จะพบว่า การเอาตัวรอดในธรรมชาตินั้น มนุษย์เองก็เริ่มมาจากการพึ่งพาสัตว์และพรรณพืช และแน่นอนว่าวงจรของนักล่าเป็นวัฏจักรของการมีอยู่ ศัตรูของมนุษย์บางอย่างก็ต้องพึ่งสัตว์ต่างๆเพื่อให้เปอร์เซ็นการอยู่รอดดำรงต่อไปได้ ยังไม่นับรวมกับความสุนทรียทางธรรมชาติที่เป็นรสนิยมของบางคน เราซื้อตั๋วไปดูสัตว์ในสวนสัตว์กันเพื่ออะไร แม้ว่าส่วนหนึ่งมันจะเป็นผลประโยชน์ของมนุษย์ที่สร้างรายได้จากการทำธุรกิจเหล่านี้ แต่บางครั้งก็มีปัจจัยจำเป็นเช่นการปกป้องพวกมันจากสภาพแวดล้อมที่อันตรายและการเรียนรู้
ในด้านของพืชพรรณไม้ สมุนไพรทำให้มนุษย์มีวิธีเอาตัวรอดจากโรคภัย แม้ว่าความก้าวหน้าในปัจจุบันมนุษย์จะสามารถผลิตยาได้จากสารเคมี แต่มันก็คงไม่ยั่งยืนเท่ากับการมีพืชชนิดอื่นๆคอยซัพพอร์ตนวัตกรรมเหล่านั้น การรักษาลมหายใจของมนุษย์ ด้วยต้นไม้และพืชชนิดต่างๆที่ช่วยซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจน ตามหลักวิทยาศาสตร์อย่างที่เราทราบ แต่หากไม่มีพืชพรรณเหล่านี้ ชีวิตมนุษย์จะยั่งยืนต่อไปได้หรือไม่ และอีกนานเท่าไหร่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึก สืบ นาคะเสถียร 31 ปีผ่านไป ปัญหาสิ่งแวดล้อมไทย เปลี่ยนพอหรือยัง?
เปิดภาพถ่ายสัตว์ป่า ผ่านเข้ารอบ Wildlife Photographer of the Year 2021
บทความข้อมูลจากกรีนพีช (Greenpeace) นำเสนอสารคดีการสูญพันธุ์ (Extinction) ของเดวิด แอทเทนเบอเรอห์ (David Attenborough) ที่ได้เผยในบทความสารคดีของเขาว่า “มนุษย์คือตัวการที่ทำให้พืชและสัตว์อีกหลายสายพันธุ์ต้องสูญพันธุ์” เดวิดได้นำเสนอสัตว์ 18 สายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วใช่ช่วง 100 ปีที่ผ่านมา
นกแก้วสวรรค์ ไม่เคยถูกพบอีกเลยตั้งแต่ปีค.ศ.1928 ที่องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ขึ้นบัญชีแดงนกสายพันธุ์นี้ไว้ ถิ่นฐานเดิมมักพบที่ออสเตรเลียตะวันออก สาเหตุการสูญพันธุ์คาดว่าคือ ภัยแล้ง การกินพืชมากเกินไป และคนตัดต้นยูคาลิปตัสที่เป็นแหล่งอาศัยของมันมากเกินไป
หมาป่าซิซิเลียน หมาป่าแห่งเกาะซิซิลี ที่สูญพันธุ์จากการถูกล่าเพื่อไปเป็นอาหารให้คนพื้นเมืองบนเกาะและขาดแคลนอาหารจากสิ่งแวดล้อมที่ไม่สมดุลบนเกาะ สูญพันธุ์ในปี 1920 จากผลการศึกษาของ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติเวโรนา
เสือทัสมาเนียหรือไทลาซีน แห่งรัฐทัสมาเนีย ออสเตรเลียและนิวกินี ในยุคล่าอาณานิคมของชาวยุโรป พวกเขากลัวพวกมันมากินแกะที่เลี้ยงไว้ พวกเขาจึงล่าและฆ่าพวกมันเพื่อลดจำนวนของเสือ นอกจากนี้มันยังถูกล่าเพื่อไปแสดงในสวนสัตว์จนเป็นตำนานเสือทัสมาเนียตัวสุดท้ายของโลก คาดว่าสูญพันธุ์ในปี 1936
สิงโตทะเลญี่ปุ่น จากชื่อก็รู้ได้เลยว่าถูกพบมากในน่านน้ำประเทศญี่ปุ่น มันสูญพันธุ์จากการล่าเพื่อเอาหนัง หนวดและอวัยวะต่างๆไปขาย รวมไปถึงนำไปแสดงละครสัตว์ พบครั้งสุดท้ายในปี 1950
ผีเสือเซอร์เซสบลู ถิ่นอาศัยหลักคือชายฝั่งทะเลซานฟรานซิสโก เชื่อว่าสูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 1940 จากการรุกล้ำถิ่นที่อยู่และการขยายเมืองในอเมริกา
วอลลาบีเล็บหางเสี้ยว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีกระเป๋าหน้าท้อง ถิ่นอาศัยคือออสเตรเลียตะวันตกเฉียงใต้และภาคกลาง สูญพันธุ์จากการนำเข้าสุนัขจิ้งจอกและแมวในยุคล่าอาณานิคมยุโรปเข้าล่าพวกมัน ทำให้มันสูญพันธุ์ไปในปี 1950
แอนทีโลปสายพันธุ์ Bubal ถิ่นอาศัยคือ บริเวณทุ่งหญ้าในอเมริกาเหนือ พบครั้งสุดท้ายในปี 1950 คาดว่าสูญพันธุ์จากการล่าของมนุษย์ล้วนๆ
แมลงปอ St.Helena Darter เป็นสัตว์หายากพบได้เฉพาะเกาะภูเขาไฟเซนต์เฮเลนาในมหาสมุทรแอตแลนติก ถูกพบครั้งสุดท้ายในปี 1963 จากการลดลงของจำนวนแมงปอ คาดว่าเป็นผลพวงมาจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปหลังการล่าอาณานิคมในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 และการรุกรานของสัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ เช่น กบเล็บแอฟริกัน
นก Kākāwahie พบล่าสุดในปี 1963 ในเขตอนุรักษ์ Kamakou สาเหตุการณ์สูญพันธุ์เกิดจากการทำลายที่อยู่และได้รับเชื้อโรคจากยุงที่ถูกปรับเปลี่ยนสายพันธุ์โดยมนุษย์
จิ้งจอกบินแห่งเกาะกวม สูญพันธุ์ไปเมื่อปี 1960 จากการล่าไปทำอาหารและถูกล่าจากงูต้นไม้สีน้ำตาลที่นำเข้าโดยมนุษย์ โดยกลุ่มสุดท้ายถูกยิงโดยนักล่า
เสือโคร่งเปอร์เซีย พบครั้งสุดท้ายในปี 1970 จากการถูกล่าโดยทหารอาณานิคมของรัสเซีย และถิ่นที่อยู่ถูกรุกล้ำเพื่อใช้ทำการเกษตร
ปลาหวีเกศ พบครั้งสุดท้ายประมาณปี1975-1977 จากการสร้างเขื่อน คลอง บ้านเรือนริมฝั่งแม้น้ำ และมลพิษทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา
นิวต์ทะเลสอบยูนนาน อาศัยอยู่บริเวณทพเลสอบคุนหมิง ประเทศจีน สูญพันธุ์จากการนำเข้ปลาและกบจากต่างประเทศ มีการเลี้ยงเป็ดมากขึ้นและการสร้างเมืองในบริเวณนั้น พบครั้งสุดท้ายปี 1979
คางคกสีทอง ถิ่นที่อยู่คือป่าเมฆ คอสตาริกา คาดว่าสูญพันธุ์จากภาวะโลกร้อน โรคติดต่อ และมลพิษทางอากาศ พบครั้งสุดท้ายในปี 1989
หอยทาก Rotund พบครั้งสุดท้ายที่แม่น้ำคูซา รัฐอลาบามา ปี1990 ที่ในขณะนั้นมีการสร้างเขื่อน 7 แห่งและโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า
ไอเบกซ์ พิเรเนียน แพะชนิดนี้อาศัยอยู่บนเทือกเขาพิเรเนียน พบครั้งสุดท้ายในปี 2000 แต่ในปี 2003 ก็พบว่ามันยังไม่สูญพันธุ์แต่มันถูกโคลนไว้ และก็ตายจากการที่ปอดไม่ทำงาน สาเหตุการณ์ลดลงของมันคือถูกล่า และเชื้อโรค
เต่ายักษ์พินตา สายพันธุ์กาลาปากอส ถิ่นกำเนิดคือเกาะพินตา ประเทศเอกวาดอร์ จำนวนลดลงจากการถูกกะลาสีเรือและชาวประมงล่า และการนำแพะมาเลี้ยงบนเต่าจึงทำให้รบกวนที่อยู่อาศัย เต่าตัวสุดท้ายถูกขังไว้ตั้งแต่ปี 1972 และตายลงในปี 2012
แรดดำแอฟริกาตะวันตก ยืนยันว่าสูญพันธุ์ในปี 2011 ถิ่นที่อยู่คือทุ่งหญ้าสะวันนาของแอฟริกา สูญพันธุ์จากกีฬาล่าสัตว์ของมนุษย์และการเกษตรเชิงอุตสาหกรรม
ทั้งหมดนี้คือสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วจากการค้นพบครั้งล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) แม้ว่าจะสายไปแล้วที่จะนำพวกเขากลับมา ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะได้งานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆในการฟื้นฟูพวกเขากลับมาได้ก็เป็นไปได้ แต่จะดีกว่าถ้าพวกมันไม่สูญหายไปเลย และยังคงอยู่รอบตัวของพวกเราในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับพวกมัน
ที่มาข้อมูล Greenpeace