สหราชอาณาจักรวิฤกติหนัก ขาดแคลนพลังงานและแรงงานอย่างรุนแรง

จากการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป ทำให้สหราชอาณาจักรเผชิญวิกฤติครั้งสำคัญ ทั้งการขาดแคลนพลังงาน รวมไปถึงการขาดแคลนแรงงานที่นำไปสู่ข้อจำกัดด้านการจัดหาอาหารและเชื้อเพลิง ยังไม่นับถึงการแพร่ระบาดของโควิด19 อีกด้วย

วิกฤตเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรได้จุดประกายการพูดคุยในหนังสือพิมพ์และในหมู่นักการเมืองถึงกรณี "ฤดูหนาวแห่งความไม่พอใจ" เศรษฐกิจที่ซบเซา และอัตราเงินเฟ้อที่สูง ทำให้ภาพบรรยากาศประท้วงในปี 1978-79 อาจหวนกลับมาอีกครั้ง

แม้ว่าปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ความล่าช้าในห่วงโซ่อุปทาน และต้นทุนอาหารและพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแหล่งเศรษฐกิจหลักหลายแห่ง อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน และเยอรมนี ทว่าสหราชอาณาจักรกำลังประสบปัญหานี้มากกว่าส่วนอื่นในโลกเนื่องจากการเบร็กซิท (Brexit)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• คิม โยจอง ขึ้นแท่นคณะปกครองสูงสุดของเกาหลีเหนือ
• จอห์นสัน ชี้ โลกต้องเติบโตแล้วจัดการกับปัญหาภาวะโลกร้อน
• "หุ่นเด็กผู้หญิงกำลังจมน้ำ" ที่สเปน สะท้อนปัญหาสิ่งแวดล้อม หลอนปนสยอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปแบบของ Brexit ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลสหราชอาณาจักร ได้กำหนดโยบายการย้ายถิ่นฐานที่เข้มงวด และนำสหราชอาณาจักรออกจากตลาดสหภาพยุโรปสำหรับสินค้าและพลังงาน ทำให้บริษัทอังกฤษจ้างคนงานชาวยุโรปยากมากยิ่งขึ้น

ในความเป็นจริงแล้วไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนี้ สหราชอาณาจักรมีตัวเลือกอื่นสำหรับความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป ยกตัวอย่างเช่น การขาดแคลนแรงงานไม่ใช่ผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของ Brexit และไม่ได้เกิดขึ้นเพียงลำพังด้วยพลังงาน แต่ในอุดมคติของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ที่รีบเร่งในการ "ทำให้ Brexit เสร็จสิ้น" ท่ามกลางการเจรจาที่เต็มไปด้วยปัญหากับสหภาพยุโรป ข้อตกลงในหลายประเด็นสำคัญ

ในขณะเดียวกัน ระบบการย้ายถิ่นฐานหลัง Brexit ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดจำนวนแรงงานไร้ฝีมือที่เดินทางมาอังกฤษ และยุติสิ่งที่รัฐบาลเรียกว่า "การพึ่งพาแรงงานราคาถูกและฝีมือต่ำ" แม้จะมีอัตราการว่างงานในประเทศใน พื้นที่เพียง 5%

โจ มาร์แชล นักวิจัยอาวุโสของสถาบันเพื่อรัฐบาล หน่วยงานด้านความคิดอิสระ กล่าวว่า "ในที่สุด รัฐบาลได้ตัดสินใจเพื่อทำให้การย้ายถิ่นฐานของผู้ที่มีทักษะต่ำยากขึ้น ปัญหาการขาดแคลนแรงงานอาจรุนแรงน้อยลง หากสหราชอาณาจักรยังคงให้ประชาชนเคลื่อนไหวอย่างเสรีหลัง Brexit"

สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยว่า ปัจจุบันมีตำแหน่งงานว่างกว่า 1 ล้านตำแหน่งในช่วงเดือนเดือน มิ.ย. - ส.ค. อาทิ ร้านอาหาร ผับ และซูเปอร์มาร์เก็ต สถานบริการบางแห่งต้องปิดชั่วคราวเมื่อเดือนที่แล้วเนื่องจากการขาดแคลนแรงงาน หรือเนื่องจากไม่ได้รับสินค้าจากการที่ขาดแคลนคนในการขนส่งสินค้า

แคร์อิงแลนด์ ตัวแทนผู้ให้บริการอิสระ ระบุว่า สหราชอาณาจักรเผชิญกับ "วิกฤตขาดแคลนแรงงาน" และมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการรับสมัครคนงานจากต่างประเทศเพื่อเติมเต็มตำแหน่งงานว่างนับหมื่น