สรุปดราม่าร้อน ทำชาวเน็ตเสียงแตก หลัง บิวตี้บล็อกเกอร์ โพสต์ข้อความตัดพ้อ สภากาชาดไม่ยอมรับบริจาคเลือดจาก LGBT จนทำเอาเพจหมอออกมาโต้ข้อเท็จจริงเดือด!
อีกหนึ่งดราม่าร้อนแรงอยู่ในโลกออนไลน์ หลังจากที่ มาดามแพม ช่างแต่งหน้าและบิวตี้บล็อกเกอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้านคน ได้ออกมาโพสต์ระบุว่า “ช่วงนี้ สภากาชาดขาดเลือด ผมกับเมียตั้งใจไปบริจาคเลือด แล้วทำคลิปช่วยประชาสัมพันธ์ แล้วถึงได้รู้ว่า LGBT อย่าได้ริอ่านไปบริจาคเลือดเชียว เพราะสภากาชาด ยังมีนโยบาย “ไม่รับเลือดจากรักร่วมเพศ”
เพราะมองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นพาหนะนำโรค นี่มันโลกยุคไหนแล้วครับ” เสียความรู้สึกเลยครับ ขอบใจมาก ผมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับสภากาชาติตลอดไป งานอะไรก็ไม่ต้องมาให้ช่วยโปรโมต ถ้าในอนาคตผมต้องการเลือด ผมก็จะหาซื้อเอง ไม่อยากเชื่อ ว่าองค์กรที่ต้องการเลือดเพื่อช่วยคน ดันทำลายคนบริจาคเลือดด้วยการ เหยียดเพศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คิดให้ดี! ถุงคลุมรถกันน้ำท่วม สุดท้ายเชื้อราขึ้นรถ แนะวิธีปลอดภัยที่สุด
สำนักงานรัฐมนตรี ศธ. แจงภาพ รมช.ศึกษาฯ ลงพื้นที่น้ำท่วม เจอแซวยับ "ขาลอย"
โซเชียลถึงกับตะลึง นักเรียนกลับบ้านด้วยลังโฟม พายกลับอย่างผู้เชี่ยวชาญ
มิสแกรนด์สุโขทัย แจงดราม่า ใส่มงกุฎจัดเต็ม ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม
เมียผมน้องเดินร้องไห้กลับบ้านทั้ง ๆ ที่อยู่หน้าห้องบริจาค เพราะอะไร เพราะความผิดที่ไม่ได้ก่อเหรอ ผมไม่เข้าใจ การรับเลือดของเพศเดียวกันทันคือตราบาปอะไร ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สภากาชาดยังเคยขอให้เมียผมช่วยโปรโมตโครงการบริจาคเลือดอยู่เลย ย้อนแย้งสุด ๆ”
โดยภายหลัง ทางด้าน เพจ “หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor” ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องราวดราม่าดังกล่าวเอาไว้ว่า “ก็เป็นกฎสากล นะ ทำความดีอย่างอื่นก็ได้”
ก่อนที่ภายหลังเจ้าตัวจะออกมาแก้ไขโพสต์เดิม และเพิ่มเติมข้อความใหม่เข้าไปว่า “จากที่ได้ข้อมูลมาทั้งหมดทั้งคอมเม้นต์และเสาะหาเพิ่มเติม ถึงได้รู้ว่ากดการไม่รับเลือดจากรักร่วมเพศ มิได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยประเทศเดียว แต่เป็นกฎสากลที่ทั้งโลกใช้ร่วมกันครับ
ซึ่งเรามั่นใจว่าเลือดของเราปลอดภัย เรามองแต่ตัวเอง แต่ไม่ได้มองความลำบากใจของทางสภากาชาดไทย จึงทำให้รู้ว่า ทางหน่วยงานไม่ได้เหยียดเพศ แต่มันเป็นกฎ ที่เขาต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดครับ
ถึงแม้จะมีบางประเทศที่เลิกใช้ความเป็นรักร่วมเพศคัดคุณภาพเลือดแล้ว
ผมหวังว่าสักวันนึงประเทศไทย ไม่ใช่สิ สภากาชาดไทยจะมองว่า ทุกเพศก็มีความเสี่ยงเท่าเทียมกันหมด และ หาวิธีให้กลุ่มแอลจีบีทีได้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการเลือดเทียบเท่ากับชายจริงหญิงแท้
ดังนั้นถ้าใครมีกำลังและอยากบริจาคเลือด หากไม่มีความเสี่ยง ไม่มีโรคประจำตัวและไม่ได้เป็นรักร่วมเพศ ก็ไปบริจาคเลือดเถอะครับ เพราะก็มีหลายเคสที่รอดชีวิตได้เนื่องจากได้รับเลือดบริจาคครับ
ส่วนโพสต์ที่ผมพิมพ์ด้วยอารมณ์ ผมจะไม่ลบหรือแก้ไขใดใดทั้งสิ้น เพื่อเตือนตนให้เป็นบทเรียนว่าอย่าเอาอารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง และเผื่อเวลาไว้สำหรับรับฟังเหตุผลของผู้อื่นครับ ขอบคุณทุกๆท่านมากๆครับ”
ทั้งนี้ในเว็บไซต์ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้มีการระบุคุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต ในข้อ 11 มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ท่านเป็นเพศชายที่เคยมีเพศกับเพศชายสัมพันธ์ ซึ่งอัตราการติดเชื้อเอชไอวี ของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายสูงกว่าประชากรทั่วไปมาก และโอกาสที่จะมีผู้ที่อยู่ในระยะ window period ของการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มนี้สูงกว่าประชากรทั่วไป
window period คือ ระยะเวลาที่เพิ่งเริ่มติดเชื้อ ในร่างกายยังมีเชื้อจำนวนน้อย ไม่สามารถตรวจพบร่องรอยการติดเชื้อได้ด้วยวิธีทางห้องปฏิบัติการแต่สามารถถ่ายทอดไปยังผู้รับโลหิตได้ ข้อนี้จึงยังเป็นข้อกำหนดไม่รับบริจาคโลหิตอย่างถาวร