รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจง 3 กรณี ปม"หมอปลา" ถูกตำรวจ-อาสาสมัคร แจ้งความกลับข้อหาหมิ่นประมาท เผย ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายตรงไปตรงมาสามารถตรวจสอบได้
25 ก.ย.64 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี "หมอปลา" ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครแจ้งความดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ โดยเหตุเกิดที่ สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นั้น ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนว่าขอแยกเรื่องนี้เป็น 3 กรณี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คำสั่งด่วน ปิดถาวร ศูนย์บำบัดยาเสพติด "วัดท่าพุ" ฐานทำผิดหลักเกณฑ์
พระมหาไพรวัลย์ เผย ตั้งแต่รู้จักกันมาพึ่งเคยเห็นน้ำตา "หมอปลา"ครั้งแรก
นรกบนดิน หมอปลา-ทนายไพศาล บุกช่วยผู้บำบัดยาฯ วัดดังรีดค่ารักษา 10,000 บาท
กรณีแรก คือ หมอปลาแจ้งข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เกี่ยวข้องอาจได้รับผลประโยชน์จากการส่งผู้ติดยาเสพติดไปเข้ารับการบำบัดที่ศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง จ.กาญจนบุรี ซึ่งในเรื่องนี้ ทั้ง ภ.จว.ร้อยเอ็ด และ ภ.จว.กาฬสินธุ์ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากพบว่ามีข้าราชการตำรวจหรือบุคคลใดกระทำความผิดจะมีการดำเนินการทั้งทางคดีอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดต่อไป
ส่วนกรณีที่สอง เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของ สภ.สุวรรณภูมิ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับหมอปลา ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ เนื่องจากมีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เป็นเหตุให้ตำรวจและอาสาสมัครดังกล่าวได้รับความเสียหายถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวโดยไม่ใช่เรื่องที่หน่วยงานแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด และคดีอยู่ระหว่างการสอบสวน
และกรณีที่สาม หมอปลาพร้อมทนายความและผู้เข้ารับการบำบัดที่ศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง จ.กาญจนบุรี จำนวนหนึ่งเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับศูนย์ฯดังกล่าวในความผิดฐานค้ามนุษย์และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อส่งให้กับพนักงานสอบสวนดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งทั้ง 3 กรณี ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าจะดำเนินการตามหลักนิติธรรมและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา ตรวจสอบได้ ส่วนกรณีที่ประชาชนมีข้อมูลที่อาจสงสัยว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือมีความประสงค์ให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องต่างๆ สามารถทำได้ โดยแจ้งข้อมูลหรือร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจได้หลายช่องทางอยู่แล้ว แต่ขอให้ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็นที่ทำให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นผ่านออนไลน์ ซึ่งบุคคลที่ได้รับความเสียหายอาจใช้สิทธิตามกฎหมายในการดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำให้ตนได้รับความเสียหายได้