Apple รับมือเหนื่อย สหภาพยุโรปออกกฎเปลี่ยนที่ชาร์จทั้งหมดเป็น USB-C

สหภาพยุโรป เสนอกฎใหม่ที่จะทำให้พอร์ต USB-C เป็นมาตรฐานสำหรับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้อง โทรศัพท์ ลำโพงพกพา และระบบวิดีโอเกมแบบพกพา

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับ Apple เนื่องจากที่ผ่านมา iPhone รุ่นต่างๆ ตั้งแต่ iPhone 5 ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2012 จนถึง iPhone 13 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ต่างใช้พอร์ตชาร์จ "ไลท์นิ่ง" (Lighting) มาโดยตลอด ของตัวเองบน iPhone แม้ว่าข้อบังคับใหม่จะมีผลบังคับใช้อีกหลายปี แต่ Apple อาจถูกบังคับให้ทำการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์

"ผู้บริโภคชาวยุโรปรู้สึกหงุดหงิดใจมานานพอควรกับการที่ต้องมีเครื่องชาร์จ สายชาร์จรูปแบบต่างๆ มากมายอยู่ในลิ้นชัก ที่ผ่านมาเราให้เวลากับอุตสาหกรรมในค้นหาทางแก้ปัญหามาโดยตลอด ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้าทางกฎหมายให้เครื่องชาร์จเหมือนกันทั้งหมดเสียที" มาร์เกร็ตต้า เวสเทเจอร์ หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของสหภาพยุโรป ระบุในแถลงการณ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• iPhone 13 เปิดตัว ในงาน Apple Event ราคาเท่าไหร่ไปดูกัน
• iPhone อยู่กับหัวชาร์จ Lightning มานานแค่ไหนแล้ว ?
• 13 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ “iPhone” จากยุคบุกเบิก สู่ยุคต่อยอด

"นี่เป็นชัยชนะที่สำคัญสำหรับฝั่งผู้บริโภค และเพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม" เวสเทเจอร์ กล่าวเสริม

พลเมืองของสหภาพยุโรปมีที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือโดยเฉลี่ยสามเครื่อง อ้างอิงจากคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของกลุ่ม แต่ 38% ของผู้บริโภคไม่สามารถชาร์จโทรศัพท์ได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งเพราะไม่มีที่ชาร์จที่ถูกต้อง

คณะกรรมาธิการระบุว่ามีการใช้เครื่องชาร์จแบบสแตนด์อโลนประมาณ 2.4 พันล้านยูโร (9.4 หมื่นล้านบาท) ต่อปีซึ่งไม่ได้มาพร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

เจ้าหน้าที่ของยุโรปได้ผลักดันให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสร้างมาตรฐานเครื่องชาร์จมานานกว่าทศวรรษ ในช่วงเวลาดังกล่าว จำนวนพอร์ตชาร์จโทรศัพท์มือถือมีราว 30 พอร์ต จนลดลงเหลือ 3 พอร์ต

Apple กล่าวว่า จะยังคง "มีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อช่วยค้นหาทางออกที่ปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภค"

"เรายังคงกังวลว่ากฎระเบียบที่เข้มงวดซึ่งกำหนดให้ตัวเชื่อมต่อเพียงประเภทเดียวยับยั้งนวัตกรรมมากกว่าที่จะส่งเสริม ซึ่งจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคในยุโรปและทั่วโลก" Apple ระบุในแถลงการณ์