จอห์นสัน ชี้ โลกต้องเติบโตแล้วจัดการกับปัญหาภาวะโลกร้อน

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวกับผู้นำโลกในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (United Nations General Assembly: UNGA) ในนิวยอร์ก ว่า "จำเป็นต้อง 'เติบโต' และจัดการกับปัญหาภาวะโลกร้อน"

จอห์นสัน ตำหนิการตอบสนองที่ไม่เพียงพอของมนุษย์ต่อวิกฤตโลกร้อน และเรียกร้องให้มนุษยชาติ "ฟังคำเตือนของนักวิทยาศาสตร์" ชี้ไปที่การระบาดใหญ่ของโควิด19 เป็นตัวอย่างที่ "นักวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่าเป็นฝ่ายถูกต้อง"

"เรายังคงยึดมั่นในบางส่วนของจิตใจของเรากับความเชื่อในวัยเด็ก ที่ว่าโลกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความพึงพอใจและความสุขของเรา และเรารวมเอาความหลงตัวเองนี้เข้ากับสมมติฐานความเป็นอมตะของเราเอง" จอห์นสัน กล่าว

"เราเชื่อว่ามีคนอื่นเข้ามาช่วยเคลียร์ เพราะนั่นคือสิ่งที่คนอื่นทำมาตลอด เราทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของเราครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยเหตุผลเชิงอุปนัยที่เราเคยใช้มาจนถึงตอนนี้ และด้วยเหตุนี้ เราจะหนีไปกับมันอีกครั้ง วัยรุ่นของมนุษยชาติกำลังจะถึงจุดจบ"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• Climate Change : ไฟป่าซีกโลกเหนือปีนี้ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทำลายสถิติ
• ปี 2564 (2021) ร้อนระอุ คาดภาวะโลกร้อนจะอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
• Climate change : กรกฏาคม 2021 อุณหภูมิโลกเฉลี่ย ร้อนที่สุดในรอบ 142 ปี

จอห์นสัน เน้นย้ำถึงการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ UN หรือที่เรียกว่า COP26 ในเมืองกลาสโกว์ ว่าเป็น "จุดเปลี่ยนของมนุษยชาติ"

ผู้นำระดับโลกจำเป็นต้องเดินทางถึงสกอตแลนด์เพื่อทำตามคำมั่นสัญญาที่จำเป็น มัน "สายเกินไป" ที่จะหยุดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกแล้ว แต่โลกยังคงสามารถ "ยับยั้งการเติบโตนั้น" ได้เพียง 1.5 องศาเซลเซียส

เครื่องหมาย 1.5 องศาได้รับการระบุโดยคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ความเสี่ยงจากภัยแล้งที่รุนแรง ไฟป่า น้ำท่วม และการขาดแคลนอาหารจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกคาดการณ์ว่าขณะนี้เรามีโอกาสประมาณ 40% ที่จะไปถึงระดับนั้น แม้ว่าจะเป็นการชั่วคราวก็ตาม ภายในห้าปีข้างหน้า

จอห์นสัน กล่าวว่า "เราจำเป็นต้องให้คำมั่นร่วมกันเพื่อให้เกิดความเป็นกลางของคาร์บอนเป็นศูนย์สุทธิภายในกลางศตวรรษ เราต้องการให้ทุกประเทศ เพิ่มความมุ่งมั่นในการลดภาวะโลกร้อนอย่างมากภายในปี 2030"

นายกรัฐมนตรีจัดการประชุมอย่างใกล้ชิดกับนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ และผู้นำโลกคนอื่นๆ เพื่อกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ ให้คำมั่นว่าจะให้ทุนสนับสนุนเพื่อช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาย้ายออกจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

จนถึงตอนนี้ สภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นหลักในการประชุม และดูเหมือนว่าคำพูดของจอห์นสันจะสอดคล้องกับผู้นำโลกคนอื่นๆ ที่กังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาวะโลกร้อน ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อ UNGA

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่าสหรัฐฯ จะเพิ่มความมุ่งมั่นทางการเงินเป็นสองเท่าในการช่วยประเทศกำลังพัฒนาจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

ในการพบปะกับไบเดน จอห์นสัน ยกย่องสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าเป็น "สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้"

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนยังได้ให้คำมั่นสัญญาใหม่ครั้งสำคัญที่จะหยุดสร้างโครงการถ่านหินในต่างประเทศ และเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำในประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ