ศบค.ตั้งเป้าฉีดวัคซีน 1 ล้านโดสวันมหิดล ลุ้นเปิด กทม.รับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย.
ศบค.เผย ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 11,252 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 141 คน หายป่วย 13,695 ราย ยืนยัน พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังไม่มีผลบังคับใช้เร็วๆนี้ คาด 1 พ.ย.นี้ เปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว หากมีความพร้อมทุกด้าน แนะผู้ฉีดซิโนแวค ครบ 2 เข็ม ก่อนเดือน พ.ค.รอโมเดอร์นากระตุ้นเข็ม 3
นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉินกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การฉีดวัคซีนซึ่งมีเป้าหมายในการฉีดครอบคลุมเป็นวงกว้าง เพื่อควบคุมการระบาด รายงานการฉีดวัคซีนในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 811,915 โดส แบ่งเป็นเข็มที่หนึ่ง 300,033 ราย เข็มที่สอง 511,087 ราย และเข็มที่สาม 795 ราย หากคิดเป็นภาพรวมการฉีดวัคซีนในประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 46,023,016 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 29,511,110 ราย คิดเป็น 41.0% ของประชากร เข็มที่สอง 15,899,158 รายคิดเป็น 22.1% ของประชากร และเข็มที่สาม 222,748 ราย
ส่วนการได้รับวัคซีนครอบคลุมประชากรทั้งหมดเกิน 50% ไปแล้ว ได้แก่ จ.กรุงเทพมหานคร จ.ปทุมธานี จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทรปราการ ส่วนจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 19 จังหวัด ได้รับวัคซีนครอบคลุมประชากรทั้งหมดเกิน 50% ได้แก่จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนในจังหวัดอื่นๆ อีก 48 จังหวัดที่ฉีดครอบคลุมประชากรทั้งหมดเกิน 50% ไปแล้วได้แก่จ.พังงา จ.ภูเก็ต และ จ.ระนอง
ทั้งนี้จะมีการรณรงค์ใหญ่ในเรื่องของการฉีดวัคซีนเนื่องในวันมหิดลซึ่งเป็นวันสำคัญ และความสำคัญต่อการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศไทย จะมีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อโรคให้ได้ 1,000,000 โดส ซึ่งรวมเข็ม1-3
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมีจำนวนลดลง ยอดการติดเชื้อทั้งหมด 230,313,402 ราย ส่วนยอดของการเสียชีวิต 4,722,750 ราย สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวม 11,252 ราย มาจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,224 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ / ที่ต้องขัง 28 ราย ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,482,494 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 141 ราย หายป่วย 13,695 ราย กำลังรักษา 129,071 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,339,107 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ศบค.ชุดใหญ่ เตรียมถก 27 ก.ย. นี้ เผยไม่ลืมโรงภาพยนตร์-สถานบันเทิง
• "ศบค." แจง ยังไม่อนุมัติ "กรุงเทพแซนด์บ็อกซ์" คงมาตรการการกักตัว 14 วัน
• ศบค.ย้ำอย่าการ์ดตก จ่อคุมเข้มมาตรการโควิด-19 กิจการ กิจกรรมเสี่ยงติดเชื้อ
ทั้งนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่จำนวน 10 อันดับแรกคือจ.กรุงเทพมหานคร 2455 ราย จ.สมุทรปราการ 910 ราย จ.ชลบุรี 715 ราย จ.ราชบุรี 455 ราย จ.สงขลา 453 ราย จ.ระยอง 423 ราย จ.นราธิวาส 357 ราย จ.ปราจีนบุรี 271 ราย จ.นครราชสีมา 263 ราย และ จ.ปัตตานี 257 ราย
ส่วนพื้นที่ที่อยากจะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับมาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องของการป้องกันและควบคุมกลุ่มคลัสเตอร์ ให้หยุดโดยเร็ว และขอเน้นย้ำในเรื่องของงานบุญประเพณี และเทศกาล ขอให้จำกัดในเรื่องของจำนวนคนและการป้องกันต่างอย่างเคร่งคัดตามมาตรการของรัฐบาล ทั้งนี้การร่วมมือของประชาชนนั้นจะทำให้ประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง และจุดสำคัญที่ต้องคอยติดตามคือ ในเรื่องของการป่วยหนักและการใส่ท่อช่วยหายใจก็ถือว่ามีแนวโน้มตัวเลขลดลงต่อเนื่องเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของการป้องกันความเสี่ยงของคลัสเตอร์เล็กๆในพื้นที่ต่างๆ ก็ยังอยากจะให้ มีความเข้มงวดต่อไปเพื่อที่จะได้ควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในเรื่องของพรก.แก้ไขเพิ่มเติม พรบ.โรคติดต่อ ในตอนนี้ยังไม่ผล เนื่องจากยังอยู่ในช่วงที่หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องนำรายละเอียดข้อเสนอแนะจากคณะรัฐมนตรีไปปรับปรุงให้เหมาะสม ครบถ้วนทุกประการ และจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลาและไม่สามารถกำหนดชัดได้ว่าจะมีผลเมื่อไหร่ และคาดว่าในวันที่ 1 ตุลาคม 64 จะยังไม่มีผลบังคับใช้
ส่วนการเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวเป็นพื้นที่นำร่อง โดยเฉพาะพื้นที่ 5 จังหวัดโดยเฉพาะ จ.กรุงเทพมหานคร จะมีการเปิดเมืองในวันที่ 1 พฤศจิกายน 64 ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้นำเสนอแผนในเรื่องของการเปิดพื้นที่ต่างๆ ซึ่งทางที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้รับทราบแผนแล้ว และจะมีกระบวนการพิจารณาอย่างรอบครอบในขั้นตอนต่อๆไป โดยกรุงเทพมหานครเผยว่าเพื่อความมั่นใจ อยากให้การฉีดวัคซีนในเข็มที่สองมีการครอบคลุมไปถึง 70% ก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะครบถ้วนภายในเดือนตุลาคมนี้ รวมถึงกรอบเวลาที่ทางกระทรวงท่องเที่ยวฯเสนอมาคือวันที่ 1 พฤศจิกายน 64 ทั้งนี้จะต้องมีการพิจารณารายละเอียดและแนวทางต่อไป และจะต้องมีความพร้อมทั้งในส่วนของประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ท้องถิ่น และระบบสาธารณสุขจะต้องมีความพร้อมรับมือเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ยังมีการให้ข้อเสนอแนะถึงการวางแผนการฉีดวัคซีนของผู้ที่จองวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นาไว้กับเอกชน กรณีที่มีการฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้วให้ถือเอาวัคซีนโมเดอร์นาเป็นเข็มกระตุ้นเข็มที่สาม ยังไม่จำเป็นต้องใช้แอสตร้าเซนเนก้าฉีดกระตุ้นเข็มสาม
อย่างไรก็ตามในช่วงแรกของการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สาม โดยผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคในช่วงต้น ก่อนเดือนพฤษภาคม จะได้รับการติดต่อทาง SMS หมอพร้อม เพื่อจะให้กลับมาฉีดวัคซีนกระตุ้นในเข็มที่สาม ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับการติดต่อ สามารถสอบถามได้ที่จุดฉีดวัคซีนในเข็มที่สองได้
