รมว.ศธ.เผยเริ่มฉีดวัคซีนเด็ก 12-18 ปี ช่วงเดือน ต.ค.นี้ ต้อนรับเปิดเทอม

 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงความพร้อมในการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงในเรื่องการเรียนในสถานการณ์โควิด-19 จึงได้มีการจัดเตรียมวัคซีน ในเบื้องต้นเฟสแรกมีการฉีดซีนไปแล้วส่วนหนึ่งให้บุคลากรทางการศึกษาไปแล้ว 70% ส่วนในเฟสที่ 2 เป็นช่วงเวลาของการเตรียมความพร้อมให้มีการเปิดภาคเรียนที่ 2 ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าการเรียนที่ดีที่สุดคือการในโรงเรียนจริงๆ ทุกหน่วยงานจึงมีการเตรียมความพร้อมระดมฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 12-18 ปีเป็นกลุ่มแรกก่อน ให้ทั่วถึงและเร็วที่สุด เบื้องต้นคาดว่าเดือนตุลาคมนี้

 ส่วนโครงการโรงเรียน Sandbox Safety Zone in School (SSS) ขณะนี้นำร่องกับโรงเรียนประจำไปแล้วกว่า 40 โรงเรียน ในระยะที่ 2 จะนำร่องโรงเรียนไป-กลับ แต่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการจะต้องตรวจความพร้อมเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ อาจมีการเรียนแบบไป-กลับ หรือสลับวันเรียนเพื่อลดความเครียดในการเรียนและลดความเสี่ยง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เฮ! เงินเยียวยานักเรียน 2,000 บาท ส่งถึง ศธ.แล้ว เร่งจัดสรรสู่สถานศึกษา

• นายกฯ กำชับ ศธ.ติดตามเงินเยียวยานักเรียน 2,000 บาท ต้องถึงมือผู้ปกครอง

• ศธ.แถลง "เยียวยานักเรียน" ทุกสังกัด 2,000 บาท รับเต็มจำนวนต่อนักเรียน 1 คน

 ด้านนายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่าในส่วนของเด็กเล็กต่ำกว่า 12 ปีที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ ไม่ต้องกังวลว่าเด็กจะไม่ได้เรียน แต่จะมีรูปแบบการเรียนที่มีครูพร้อมและครูได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว และต้องดูว่าชุมชนนั้นมีการระบาดหรือไม่ หากไม่มีก็จะใช้รูปแบบสลับวันเรียนควบคู่กันไป แต่จะได้เรียนมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่สถานการณ์ขณะนั้นและการระบาดในพื้นที่โดยรอบของชุมชน

 ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่าจะมีวัคที่เพียงพอแน่นอน โดยเบื้องต้นปลายเดือนนี้จะมีวัคซีนเข้ามา 2 ล้านโดส และเดือนตุลาคมจะทยอยเข้ามาอีกสัปดาห์ละ 2 ล้านโดส คาดว่าเข็มแรกจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคมนี้ จากนั้นเข็มที่ 2 ก็จะทยอยตามมา ทั้งนี้วัคซีนเป็นอีกหนึ่งกลไกที่เป็นตัวชี้วัดว่าจะสามารถเปิดเรียนได้หรือไม่ จะเปิดได้หรือไม่ได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ปกครอง ชุมชน และโรงเรียนด้วย