Bentley เปิดตัว Bacalar คอนเซปคาร์ ที่ได้รับการออกแบบมา "ไม่มีหลังคา" แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถภาพและดีไซน์ สามารถซื้อจับจองได้ในราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาท
Bentley แบรนด์รถหรูสัญชาติอังกฤษตัดสินใจเปิดตัวรถสมรรถภาพสูงอย่าง Bacalar ที่เห็นแวบแรกต่างเข้าใจว่านี่คือรถเปิดประทุนอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่มีหลังคา
แน่นอนว่าเป็นที่น่ากังวลใจเมื่อใครหลายคนได้ยินว่า Bentley Bacalar ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านเหรียญ (65 ล้านบาท) คันนี้ "ไม่มีหลังคา" แล้วเวลาฝนตกจะเป็นอย่างไร ? แต่ในเมื่อคุณสามารถซื้อรถราคาระดับนี้ได้ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่รถเพียงคันเดียวที่คุณมี และมั่นใจได้ว่ารถคันอื่นของคุณย่อมมีหลังคาป้องกันไม่ให้คุณเปียกได้เวลาฝนตก
ทิม ฮันนิก โฆษกของ Bentley ระบุว่า การไม่มีหลังคาทำให้ทีมนักออกแบบของเบนท์ลีย์มีอิสระอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องหาที่ซ่อนหลังคาเวลาพับลง และวางกลไกต่างๆ ที่วุ่นวาย
"เมื่อไม่มีหลังคา ทำให้ลายเส้นในการออกแบบนั้นลื่นไหล จากห้องโดยสารสู่ภายนอกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นรถคันนี้จึงมีความเกี่ยวข้องกับการออกแบบเป็นอย่างมาก และเบนท์ลีย์ต้องการสร้างสิ่งที่สวยงามเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่มีหลังคา" ฮันนิก กล่าว
Bentley ตั้งใจสร้าง Bacalar ขึ้นเพียง 12 คันเท่านั้น ด้วยจำนวนการผลิตที่น้อยมาก ประกอบกับราคาแบบนั้น ทำให้ Bacalar ถูกจัดประเภทเป็นรถคอนเซปคาร์ แตกต่างจากคอนเซปคาร์ทั่วไปที่ Bentley Bacalar นั้นสามารถครอบครองได้จริง และมั่นใจได้ว่าสามารถนำไปขับบนท้องถนนได้จริงอย่างถูกกฎหมายแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
Bentley Bacalar เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 12 สูบ 650 แรงม้า เทอร์โบชาร์จ แต่ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงเพียงเท่านั้น หากต้องการแบบนั้นสามารถไปซื้อรถสปอร์ตของ Lamborghini ที่แบรนด์น้องสาวของ Bentley ได้ (ทั้งคู่อยู่ภายใต้แบรนด์ของ Volkswagen Group)
Bacalar ถูกออกแบบมาให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล มีเบาะนั่งที่สะดวกสบาย และพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง เรียกได้ว่าเป็นรถที่ได้รับการออกแบบให้สามารถขับขี่ได้ทุกวัน แต่แน่นอนว่าคงไม่มีขับทุกวัน
Bacalar มีส่วนประกอบพื้นฐานส่วนใหญ่ร่วมกันกับ Continental GT โดยเฉพาะรุ่น GTC Speed ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ Bacalar นั้นมีน้ำหนักเบากว่าประมาณร้อยกว่ากิโลกรัม ต้องขอบคุณคาร์บอนไฟเบอร์ราคาแพงที่นำมาใช้ในการผลิต ประกอบกับการเสียสละหลังคาและเบาะหลังที่ช่วยลดน้ำหนักลงด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้ช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลงด้วย แต่ Bacalar ยังคงหนักถึง 5,300 ปอนด์ (2.4 ตัน) ซึ่งมันไม่ได้เบาเลยซักนิด โดยมีน้ำหนักมากกว่ารถซีดานหรูขนาดใหญ่ของ Mercedes เสียอีก
Bacalar ยังคงเอกลักษณ์แผงหน้าปัดแบบหมุนได้สามด้าน ที่พบเห็นได้ใน Bentley รุ่นอื่นๆ รวมถึง Continental GT แม้แผงหน้าปัดด้านหนึ่ง "ว่างเปล่า" ดูเหมือนส่วนอื่นๆ ของแดชบอร์ด แต่เมื่อกดปุ่ม แผงหน้าปัดสามารถพลิกไปรอบๆ เพื่อแสดงหน้าปัดแบบเก่าสามปุ่ม รวมถึงเข็มทิศด้วย พลิกแผงหน้าปัดอีกครั้งและแสดงหน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลที่รถแทบทุกคันมีในทุกวันนี้ ที่นั่น คุณสามารถดูแผนที่นำทาง เลือกเพลงที่จะเล่น และทำสิ่งต่างๆ ที่ไดรเวอร์ทำกับหน้าจอได้
เกี่ยวกับชิ้นส่วนภายในอื่นๆ ที่ Bacalar ใช้ร่วมกับ Continental GT คือแผงสวิตช์ใกล้กับคันเกียร์ ยังคงมีปุ่มเอาไว้สำหรับเครื่องปรับอากาศ แม้อาจดูไร้ประโยชน์จากการที่ Bentley Bacalar นั้นไม่มีหลังคา แต่ก็ยังดีกว่าถอดปุ่มออก
ด้วยการที่ Bacalar เน้นเรื่องการออกแบบเป็นสำคัญ ทำให้ตัวรถไม่มีกล้องติดอยู่ แม้ว่าจะมีหน้าจอบนแดชบอร์ดก็ตาม ทำให้การเพิ่มกล้องที่มีเลนส์จากเม็ดแก้วในส่วนท้ายของตัวรถดูไม่น่าพิศมัยในมุมมองของนักออกแบบ แต่ด้วยการออกแบบที่ดีเยี่ยมเช่นกันทำให้สามารถควบคุมพวงมาลัยได้อย่างคล่องตัว สามารถกลับรถ และถอยจอดได้อย่างง่ายดาย
Bentley Bacalar ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแรงและรวดเร็ว แต่สะดวกสบาย การบังคับเลี้ยวให้ความรู้สึกที่ดีเครื่องยนต์ให้กำลังเสียงที่เพียงพอและไพเราะ
แต่ลูกค้า Bentley Bacalar ไม่ได้จ่ายเงินเพื่อประสิทธิภาพ พวกเขากำลังจ่ายเงินสำหรับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของรถ นอกจากนี้ Bentley Bacalar ทั้ง 12 คันจะได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองรสนิยมเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย
"รถทุกคันมีบุคลิกเป็นของตัวเองอย่างแท้จริง" ทิม ฮันนิก โฆษกของ Bentley กล่าว