พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ไปยังจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเร่งประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการปัญหาสถานการณ์น้ำท่วม
12 ก.ย.64 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยจุดแรกได้มาตรวจเยี่ยมที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี อำเภอบางพลี โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ส.ส.จังหวัดสมุทรปราการร่วมตรวจเยี่ยม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นิด้าโพล เผยผลสำรวจ "อนาคต 3 ป.” บิ๊กตู่ จะได้เป็นนายกฯ สมัยหน้าหรือไม่ ?
นายกฯรับเป็นคนปรับ "ธรรมนัส-นฤมล" พ้นครม. เอง ย้ำให้ปชช.ดู ยังไม่ปรับใหม่
นายกฯ เรียกถก "ศบค.ชุดใหญ่" คาดเลิกใช้ "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" ยุบ ศบค.โอนงานให้ สธ.
ทันทีที่เดินทางถึงนายกรัฐมนตรี ได้ถามหา นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมสั่งการให้ดูแลประชาชนหลังเกิดอุทกภัย และเร่งสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี ยังเดินพบปะและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาใช้บริการในโรงพยาบาลและกล่าวว่า วันนี้อารมณ์ดีพร้อมกับหัวเราะ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตะโกนให้กำลังใจและบอกให้นายกรัฐมนตรี สู้ๆ โดยนายกรัฐมนตรีตอบรับ อย่างอารมณ์ดีว่าสู้กับปัญหา เพื่อพวกเรา เชื่อสถานการณ์ต้องดีขึ้น
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเข้ารับฟังการรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานของสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ศูนย์การเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินินาถ การดำเนินงานโครงการผู้สูงอายุรามาธนารักษ์ และโครงการที่พักอาศัยของผู้สูงอายุ นายกรัฐมนตรีชื่นชมแนวคิด และวิสัยทัศน์โดยเฉพาะนโยบายด้านสาธารณสุขดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการชูประเทศไทยให้เป็น ศูนย์ Healthcare ของผู้สูงอายุในวัยเกษียณ จากประเทศต่างๆ ให้มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ไทยเตรียมความพร้อมรองรับกลุ่มคนดังกล่าวแบบครบวงจร ถ้าทำได้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ สร้างรายได้ให้กับประเทศมากขึ้น
นายกรัฐมนตรียังได้พูดคุยกับ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐที่มาให้การต้อนรับ ว่า สำคัญที่เราเป็นส.ส.ไม่ใช่ว่าจะให้เฉพาะความต้องการประชาชนอย่างเดียว จะต้องให้หลักคิดกับประชาชนด้วย ส่วนโครงการต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ต้องเสนอเข้ามาที่รัฐบาล
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำและปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ที่สะพานน้ำยกระดับสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร อำเภอเมืองสมุทรปราการ เนื่องจากพื้นที่นี้ เป็นสถานีสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วม 4 อำเภอในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ คือ อำเภอเมือง อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ และอำเภอบางเสาธง โดยหน่วยงานราชการในจังหวัดพร้อมกองทัพได้เร่งดำเนินการะบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขังแล้ว ทั้งนี้ ในปี 2564 จังหวัดสมุทรปราการได้ดำเนินการตามแผนงาน โครงการภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จำนวน 7 โครงการ งบประมาณ 83.5846 ล้านบาท ดำเนินการโดย 2 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมชลประทาน และองค์การจัดการน้ำเสีย เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมมีพื้นท่ีรับประโยชน์ จำนวน 2,500 ไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์ 8,716 ครัวเรือน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุม นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ส่วนราชการในท้องที่ รวมถึงท้องถิ่น และ สส. ทำงานร่วมกัน เมื่อเกิดน้ำท่วมให้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เตรียมแผนบริหารจัดการโดยเฉพาะในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ในบริเวณจุดเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก จะต้องแก้ไขปัญหาระบายน้ำทันที หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนรับรู้สถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์และเตรียมตัวอพยพ จะต้องมีการจัดหาสถานที่พักชั่วคราวให้ประชาชนอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ประสบปัญหาการระบาดโควิด 19 ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญที่สุด