มาแล้ว! ททท. เตรียมเปิดลงทะเบียนโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน - ทัวร์เที่ยวไทย วันที่ 24 ก.ย. นี้ พร้อมให้เดินทาง 1 ต.ค. แถมรัฐบาลช่วยออก "ค่าตั๋วเครื่องบิน-โรงแรม-คูปองอาหาร"
หลังจากที่รัฐบาลได้ทำการผ่อนคลายล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายภาคส่วนเริ่มเตรียมมาตรการกกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การใช้จ่าย และการบริโภคของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ชะลอตัวลง และรัฐก็ได้มีการผ่อนคลายเพิ่มขึ้น ร้านอาหารและห้างที่ปิด ก็สามารถกลับมาเปิดได้อีกครั้ง
ข่าวเกี่ยวข้อง
ซึ่ง ททท. คาดว่าในเดือนตุลาคมนี้ จะสามารถกลับมาเดินทางได้อีกครั้ง และการท่องเที่ยวก็จะมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเริ่มมีประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวใกล้ภูมิลำเนา อาทิ คนกรุงเทพฯ เดินทางไปเที่ยวแถวหัวหิน พัทยา ชะอำ เป็นต้น
ททท. จะเริ่มเปิดระบบให้ลงทะเบียนโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3" จำนวน 2 ล้านสิทธิ ซึ่งซึ่งรัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรม ร้อยละ 40 ให้คูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินอีก ร้อยละ 40 ในการเดินทางท่องเที่ยว
และโครงการ "ทัวร์เที่ยวไทย" จำนวน 1 ล้านสิทธิ ที่รัฐสนับสนุนวงเงินสูงสุด 5,000 บาท ในการซื้อแพคเกจท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายนนี้ หรือประมาณวันที่ 24 กันยายน 2564 เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เดินทางท่องเที่ยวและเข้าพักได้ทัน ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เนื่องจากต้องจองห้องพักล่วงหน้า 7 วันและชำระเงินให้เสร็จก่อน จึงจะสามารถเดินหน้าเข้าใช้บริการที่พักได้
โดยทั้ง 2 โครงการมีกรอบเงินกู้คงเหลือ 10,988 ล้านบาท จากเราเที่ยวด้วยกัน 5,958 ล้านบาท และทัวร์เที่ยวไทยที่ยังไม่ได้เริ่มอีก 5,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม อาจต้องหารือกับธนาคารกรุงไทย ในส่วนของการเปิดระบบอีกครั้ง ว่าจะเริ่มเปิดเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 23 กันยายน ได้ทันทีหรือไม่ หรือเป็นวันที่ 24 กันยายน ช่วงเวลากี่โมงถึงกี่โมง
นอกจากนี้ ผู้ว่า ททท. ยังระบุอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ถึงกรอบเวลาการใช้ทั้ง 2 โครงการ ว่าจะสามารถใช้ได้จนถึงช่วงใด เนื่องจากต้องทำเรื่องเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 จึงอยากขอให้เริ่มดำเนินโครงการเร็วที่สุดก่อน เพื่อประเมินว่ามีการใช้สิทธิมากเท่าใด และเหลือเท่าใด โดยเน้นย้ำว่าการจองใช้สิทธิทั้ง 2 โครงการ จะต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน และชำระเงินก่อน เพื่อป้องกันกรณีการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี คาดว่าจำนวนคนใช้สิทธิจะหนาแน่นมากในช่วงปลายปีนี้ เพราะเป็นช่วงเทศกาลและมีวันหยุดยาวต่อเนื่องข้ามไปเดือนมกราคม 2565 ดังนั้น เชื่อว่าทั้ง 2 โครงการจะกระตุ้นให้คนใช้สิทธิท่องเที่ยวได้มากขึ้น