"โอกาส" คือสิ่งสำคัญของคนที่เคยติดคุกอยากได้จากสังคม รับฟังเรื่องราวจากอดีตนักแสดงดาวรุ่ง "เควิน ฌ็อง โดนาท์" ที่เสียเวลาชีวิตในเรือนจำกว่า 6 ปี 7 เดือน จากคดียาเสพติด และยอมรับว่านี่คือบทเรียนชีวิตราคาแพงจากความผิดพลาด
"ความผิดพลาด" แลกมาด้วย บทชีวิตเรียนราคาแพง
"ความพลาดคือพลาดเพราะเพื่อนแต่ผมไม่ได้โทษเขา ผมผิดที่ไปกับเขาเป็นความผิดพลาดในชีวิต แต่จะว่าก็เราไปใส่ความผิดให้เพื่อน"ก็ไม่ใช่ตัวเราเองก็ไม่ควรจะยุ่งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมไปลองมันคือชีวิตวัยรุ่นธรรมดาก็อยากสนุกและก็อยากลองและก็ไปเจอพวกที่อาจจะ ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ตัวเราไปผูกพัน แต่กับการจำหน่ายอย่างเนี่ยเราไม่ยุ่ง"
"แต่ก็รู้จักคนที่เป็นคนขายอยู่แล้ว และก็ตอนนั้นก็ผิดพลาดไป อนาคตกำลังรุ่งเนอะ จากวินาทีที่โดนจับมา ตอนนั้นผมยังไม่รู้ตัวนะว่าเราไม่ผิด ก็ยังไม่จบแต่ตั้งแต่เข้าศาล ศาลว่าจำเลยมีความผิดนี่ๆ รู้สึกว่าทุกอย่างที่ผมเคยมีมันก็ถล่มลงมาแบบสูญเสียไม่ว่าจะเป็นทุกอย่างที่ผมเคยมี หรือว่าทำให้ครอบครัวเสียใจแต่คือใจเหมือนช็อตแบบจะเอาไรต่อกับชีวิตตัวเอง"
"โอกาส" คือสิ่งสำคัญทิ่อยากได้จากสังคม
"คนที่ผิดพลาดไปแล้ว แต่ว่าตอนนี้เขาอาจจะกลับตัวกลับใจมาแล้วไม่ว่าจะเป็นใครจะเป็นดาราหรือว่าไม่มีชื่อเสียง ผมว่าเราต้องยื่นโอกาสให้เขา สมมติว่าคุณผิดพลาดมาอยากให้คนอื่นมาให้โอกาสไหม ไม่ใช่แค่ผมเพื่อนๆ ที่อยู่ข้างในเวลาพ้นโทษออกมาก็อยากให้ทุกๆ คน ให้โอกาสซึ่งกันและกันและก็ให้โอกาสเขาอย่างน้อยก็มีที่อยู่ในสังคมเพื่อไม่ให้กลับไปทำผิดอีกครั้ง"
"สำหรับคนที่เคยต้องคดีโอกาสเป็นคำที่มีความหมายแบบสูงสุดแล้ว คือคนทั่วไปเขาจะไม่คิดโอกาสก็คือโอกาส แต่คนที่ผิดพลาดไปแล้วเขาสูญเสียมาเยอะ แต่ที่จะกลับมามีกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติต้องได้รับโอกาส เพราะโอกาสก็มีแค่ครั้งสองครั้งแต่มากกว่านี้ก็ไม่มีแล้ว เขาแค่ขอโอกาสครับ"
6 ปี 7 เดือน เวลาชีวิตที่เสียไปในเรือนจำ
"ผมติดมาแล้ว 6 ปี 7 เดือน ได้รู้จักตัวเองว่าเป็นใครจากที่ไม่เคยรู้จักตัวเองมากเท่าไหร่มาก่อน ตอนนี้คือชีวิตมีเป้าหมายแล้ว เป้าหมายในเรื่องของหน้าที่การงานหรือว่าครอบครัวโตขึ้นแล้วก็มีความคิด และอย่างหนึ่งที่เรากลับไปไม่ได้คือเวลาเราเสียเวลามาเยอะ เวลา 6 ปี อันนี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะว่าเวลาคือโอกาสบางทีอาจจะมีโอกาสอย่างอื่น โอกาสดีๆ แต่เวลาที่เราไปเสียไปข้างในมันก็ไม่มีเวลาแล้ว"
"ตอนแรกก็บอกตัวเองว่าต้องติดคุก 18 ปี ตอนที่ตัดสินคือตัดสิน 18 ปี ก็ต้องอยู่ 18 ปี ทำไงได้ให้เราอยู่ได้ ไม่ใช่ว่าจะกลับบ้านๆ และก็จิตก็จะไม่ไหวก็จะรั่ว ก็ต้องสู้ต่อไป เวลาที่ผมต้องอยู่ข้างใน พยายามใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด แค่ทำดีที่สุดกับตัวเองสิ่งที่ผมผิดพลาดมา พยายามให้มันดีขึ้น เพื่อออกมาต่อสู้ต่อไป"
"บาริสต้า" อาชีพนี้ได้มาจากเรือนจำ
"ตอนอยู่ข้างในคือคนต้องพยายามหาเวลาให้มีประโยชน์มากที่สุดก็จะมีการฝึกวิชาชีพต่างๆ และก็ผมเลือกที่จะฝึกวิชาอบาริสต้า ออกมาก็วิชาชีพที่ผมติดตัวออกมา พยายามให้มันเป็นประโยชน์กับตัวเอง บาริสต้าเป็นวิชาชีพหนึ่งที่ถือว่าต้องใส่ใจ มีรายละเอียดอ่อน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องแต่งเมนูต่างๆ ซึ่งมันสนุกและก็มีความเท่ในตัว"
"ผมได้วิชาจากโรงเรียนสวนดุสิตอาจารย์มาสอนข้างใน ตอนนั้นๆ คิดเลยว่าแค่ให้มีอาชีพติดตัว และก็ไม่ได้คิดว่าไปทำจริงออกมาก็ยังคุยกับแม่กับเจ้าหน้าที่ว่าจะเปิดดีไหมก็ทำเล่นๆ ไปก่อน แต่จากที่ทำเล่นๆ ตอนนี้จริงจังมาก ลูกค้าไม่หยุดเลย มาจากกรุงเทพก็เห็นในเพจในข่าว อยากมาร้านกาแฟไม่รู้ว่าจะกินกาแฟหรือว่าจะมาหาคน (ยิ้ม) มีแฟนคลับที่มาเยี่ยมให้กำลังใจช่วยอุดหนุนร้าน"
"ผมก็ภูมิใจในตัวเองเพราะว่ารู้สึกว่าก็มีจุดยืนแล้วในสังคม และก็มีการต้อนรับแป็นอย่างดีนะครับและก็ไม่เคยคาดคิดว่าร้านมันจะบูมขนาดนี้ ผมออกมาผมอยากจะพิสูจน์กับญาติ ครอบครัว ว่าลูกกลับมาแล้ว ก็ยังเป็นคนดีเหมือนเดิมแต่ดีกว่าเดิมและก็ผมกล้าเปิดร้านที่คนที่ติดคุกไม่เคยที่จะเปิด แต่ตอนนี้ก็ทำธุรกิจเล็กๆ เพื่อครอบครัวอย่างน้อยก็จะเป็นจุดสำเร็จจุดนึงของชีวิตผม"