ศบค. เผยติดเชื้อรายใหม่ 13,988 ราย ดับอีก 187 คน อาการหนัก 4,601 ราย คาดถกศบค. สุดสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า พิจารณา หลังปรับมาตรการครบ 14 วัน เผยหากคุมไม่ดี อาจติดเชื้อสูงถึง 3 หมื่น คนต่อวันปลายกันยายน - ต้นตุลาคมนี้
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ประจำวันที่ 6 กันยายน ว่า ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 29 ของโลก ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 13,988 ราย ติดเชื้อในประเทศ 13,527 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 17 ราย จากเรือนจำที่ต้องขัง 444 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,265,659 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,294,522 ราย หายป่วยแล้ว 17,284 ราย หายป่วยสะสม 1,105,432 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 187 คน เสียชีวิตสะสม 12,948 คน คิดเป็นร้อยละ 1.02% ผู้ป่วยรักษาอยู่ 148,622 ราย ในโรงพยาบาล 44,954 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 103,668 ราย อาการหนัก 4,601 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,013 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ศบค. ย้ำ คลายล็อกดาวน์ ไม่อนุญาตให้มีการแสดงดนตรีในร้านอาหาร
ศบค.ย้ำ แค่ปรับมาตรการไม่ใช่ปลดล็อก ประเมินผลภายใน1เดือนเริ่ม 1 ก.ย.นี้
ด่วน! ศบค. เปิดร้านอาหาร-ห้าง เข้ม! 29 จังหวัดพื้นที่สีแดง เริ่ม 1 ก.ย.นี้
ด้านรายงานผู้รับวัคซีน ฉีดแล้ว 35,912,894 โดส เข็มที่หนึ่งเพิ่มขึ้น 129,317 ราย สะสม 25,234,259 ราย เข็มที่สองเพิ่มขึ้น 195,241 ราย สะสม 10,074,612 ราย เข็มที่สามเพิ่มขึ้น 660 ราย สะสม 604,023 ราย
ขณะที่รายงานติดเชื้อจากต่างประเทศ 17 ราย มาจาก สหรัฐอเมริกา 1 ราย กัมพูชา 16 ราย
หากเปรียบเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กับตัวเลขคาดการณ์จากมาตรการล็อคดาวน์ภาพรวมประเทศ เราทำการเซมิล็อกดาวส์หรือล็อกดาวส์ ช่วงเดือนกรกฎาถึงสิงหาคมที่ผ่านมา ใช่ความร่วมมือระดับหนึ่งให้กราฟลดลงมาเป็นสีเขียวได้ จะเห็นว่ากราฟจริง เส้นสีส้ม ลดได้ตามกราฟสีเขียว ซึ่งเป็นฉากทัศน์ผลจากมาตรการล็อกดาวน์ เวิร์คฟอร์มโฮม ปิดสถานที่เสียง ลดค่า R ได้ร้อยละ 25 และฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงได้ตามเป้าหมาย หากตอนนี้เราผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ถึง 14 กันยายน ซึ่งจะมีการประชุมคาดว่าปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้าว่าจะมีการคงมาตรการต่อหรือไม่ กราฟเส้นสีส้มวันนี้เป็นผลจากการทำงานอย่างหนักของทุกภาคส่วน และวันนี้มีการปรับมาตรการ จึงเห็นคนเข้าห้าง ออกไปทำธุรกิจ ขอให้ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ฉะนั้นจะเห็นปลายเส้นของเส้นกราฟสีเขียว ตามคาดการณ์ มีแรงเฉื่อยหรือแรงควบคุมได้จนถึงปลายเดือนกันยายน และต้นเดือนตุลาคม เส้นเหล่านี้จะพุ่งขึ้น มีคนป่วยมากขึ้นกว่านี้อีก หากคุมไม่ดีจะมียอดแตะถึง 30,000 ต่อวันได้เหมือนกัน ทุกจังหวะทุกก้าว ใช้วิทยาศาสตร์ในการพูดคุยซึ่งเป็นข้อมูลคาดการณ์จากทีมของกระทรวงสาธารณสุข จึงขอความร่วมมือทุกคนการ์ดอย่าตกในทุกกิจกรรมที่ต้องทำ
ภาพกราฟคาดการณ์ผู้เสียชีวิต เส้นจริงสีส้ม เกาะไปตามเส้นกราฟสีเขียวคาดการณ์ ซึ่งมีความแม่นยำมาก แต่ข่าวดีอยู่ไม่นานกับเรา ประมาณเดือนตุลาคม มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น แต่ไม่เท่ากับติดเชื้อรายใหม่ อาจเป็นจากการที่เราได้รับวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุโรคเรื้อรัง
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ จำนวน 10 อันดับแรก กรุงเทพมหานคร 3,610 รวมตั้งแต่วันที่ 1เมษายน ถึง 6 กันยายน 301,383 สมุทรปราการ 868 รวม 87,084 สมุทรสาคร 711 รวม 79,091 ชลบุรี 703 รวม 67,603 เพชรบูรณ์ 488 รวม 7,146 ระยอง 464 รวม 20,441 นนทบุรี 300 รวม 46,000 พระนครศรีอยุธยา 294 รวม 22,226 นครราชสีมา 278 รวม 20,149 และราชบุรี 267 รวม 20,118
โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ ฝากกรุงเทพมหานครดูแลการเปิดกิจกรรมกิจการ การเปิด ที่เห็นภาพเป็นความแออัด มีคนเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าจำนวนมาก อยู่ในหลายพื้นที่ อาจจะทำให้เพิ่มจำนวนของผู้ติดเชื้อ วันนี้ที่เราทำจะไม่เห็นผลในวันพรุ่งนี้ การติดเชื้อจะเกิดขึ้นและไปเห็นผลอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า มาตรการที่ออกมา ที่จะออกปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้ายังเป็นตัวเลขที่เราทำอยู่จึงขอย้ำว่าการ์ดอย่าตก
สำหรับผู้ป่วยโรค โควิด-19 เสียชีวิตจำนวน 187 รายกรุงเทพมหานคร 24 สมุทรสาคร 17 ปทุมธานี 16 นครปฐม 11 สมุทรปราการ 5 นนทบุรี 4 ชัยภูมิ 3 มหาสารคาม อุบลราชธานี นครราชสีมา จังหวัดละ 1 ราย ตาก 3 เชียงราย นครสวรรค์ จังหวัดละ 2 ราย สนุโลก 1 ปัตตานี สงขลา ภูเก็ตจังหวัดละ 4 ระนอง 3 สตูล พัทลุง ยะลา ตรัง จังหวัดละ 1 ชลบุรี 20 พระนครศรีอยุธยา 12 อ่างทอง 11 สระบุรี 10 สุพรรณบุรี 5 ฉะเชิงเทรา 4 ลพบุรีสมุทรสงครามจังหวัดละ3 ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรีจังหวัดละ 2 ราชบุรี ระยอง นครนายก ตราด และเพชรบุรี จังหวัดละ 1 เป็นชาย 101 ราย หญิง 86 ราย ชาวไทย 181 ราย เมียนมา 4 จีน 1 อเมริกา 1 อายุระหว่าง 14-95ปี อายุ 60 ปีขึ้นไป 131 รายคิดเป็น 70% อายุน้อยกว่า 60 ปีมีโรคเรื้อรัง 41 รายคิดเป็น 22% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 14 รายคิดเป็น 7% เด็ก 13 ปี 1 ราย จังหวัดตาก โรคประจำตัว เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย เพศชาย 44 ปี จังหวัดระยอง มีโรคประจำตัวและติดเตียง จากกรุงเทพมหานคร/ปริมณฑล 2 จังหวัดสีแดงเข้ม 2 ติดเชื้อในพื้นที่ 183 คนรู้จัก 93 ครอบครัว 10 อาศัย 80 อาชีพเสี่ยง 0
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วย โควิด-19 นำกลับรักสาตามภูมิลำเนาเดิมในเขตสุขภาพที่หนึ่งถึง 12 ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคมถึง 15 กันยายน จากกราฟจะเห็นว่าเราผ่านภูเขาลูกใหญ่กันมาแล้ว ดังนั้นขอให้ภาพนี้ลดลงกดลงไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราจะต้องพยายามร่วมด้วยช่วยกันให้ภาพการติดเชื้อรายใหม่มีน้อยที่สุด ส่วนการฉีดวัคซีนภาพรวม การฉีดวัคซีนเข็มหนึ่ง อยู่ที่ 25,234,259 คน หรือ 50.5% เข็มสอง 10,074,612 หรือ 20.1 เข็มสาม 604,023 คนหรือ 1.2% ตั้งเป้าไว้จะต้องฉีดได้ถึง 50,000,000 คน สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือเปอร์เซ็นต์การฉีดของหญิงตั้งครรภ์เข็มหนึ่ง คิดเป็นร้อยละ 9.7 เข็มสองคิดเป็นร้อยละ 1.4 จึงขอความกรุณาประชาชนชักชวนหญิงตั้งครรภ์ เข้ามารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว
นายแพทย์ทวีศิลป์ ย้ำว่า ให้ติดตามปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้าที่อาจจะมีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผอ.ศบค. เป็นประธาน จะดูแลตัวเลข 14 วันที่ผ่านมา วันนี้เรากินบุญเก่าของ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ถ้าวันนี้เราต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อให้มีผลไปในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้กิจการกิจกรรมต่างๆ ที่สื่อมวลชนบอกว่าเป็นการผ่อนคลาย แต่ตนบอกว่าเป็นการปรับมาตรการ ขอให้การ์ดอย่าตก ที่สุดแล้วหากทุกคนมีสุขอนามัยส่วนตัวที่ดี ป้องกันตัวเองเราจะดูภาพกราฟตรงนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งไม่อยากให้เห็นกราฟสีเขียวจะพุ่งขึ้นมา และทำให้เกิดการติดเชื้อวันละ 30,000 คน วันนี้เราเดินทางมาได้ด้วยดีจึงฝากทุกท่านร่วมด้วยช่วยกันเป็นพลังของประเทศไทยในการขับเคลื่อนและสู้กับโควิด-19 ท้ายที่สุดเมื่อเรารู้ก็สามารถอยู่คู่กับเขาได้ เพราะเราจะกำจัดเขาไปให้กลายเป็นศูนย์ตอนนี้ทฤษฎีทางการแพทย์ไม่ได้หวังอย่างนั้นแล้ว เหมือนวัณโรค ไข้หวัดใหญ่ ที่ต้องอยู่คู่กันไปโควิด-19 ก็เช่นกัน