ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศขยายเวลาเปิดร้านเสริมสวย-ตัดผม ในห้างไม่เกิน 2 ชม.

4 ก.ย.64 กรณีที่ทาง กรุงเทพมหานคร ได้ออกประกาศ ตามที่กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยประกาศ กรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ให้ปิดสถานที่และให้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ในประกาศกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• คลายล็อกดาวน์ 1 กันยายน 64 เปิดอะไรบ้าง ห้าง สนามบิน ร้านอาหาร เดินทางฯ

• จับตา ศบค.พิจารณาคลายล็อก สวนสาธารณะ สนามกีฬา ร้านตัดผม

• ด่วน! ศบค.ปิดเพิ่ม 10 กิจการ 13 จังหวัดแดงเข้ม รวมร้านตัดผมทุกแห่ง มีผลทันที

เนื่องจากศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.) ได้มีมตีในการประชุมเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เห็นชอบให้ปรับรายละเอียด มติคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับการกำหนดเปิดดำเนินการของร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผม ในห้างสรรพสินค้าหรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันโดยผ่านการนัดหมายและจำกัดเวลาในการให้บริการในร้านจากเติมรายละไม่เกินหนึ่งชั่วโมง เป็นรายละไม่เกินสองชั่วโมง ดังนั้น เพื่อคำเนินการให้เป็นไปตามมติที่ประชุมดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 (1)  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ตามมติที่ประชุม เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
1. ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัคผม ที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลส์ หรือสถานประกอบกิจการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการโดยการให้บริการผ่านการนัดหมายและจำกัดเวลา การให้บริการในร้านไม่เกินรายละสองชั่วโมง

2. กรณีนอกเหนือจากประกาศนี้ ห้เป็นไปตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณ์ใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2564 จนถึงวันที่ 30กันยายน 2564 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น