ศบค.ชุดใหญ่ จ่อคลายล็อกดาวน์ นั่งทานร้านอาหารได้ แต่ต้องฉีดวัคซีน 2 เข็ม พิจารณาเปิด ห้าง-ร้านเสริมสวย-นวดฝ่าเท้า-สวนสาธารณะ พร้อมลดจังหวัด "สีแดงเข้ม"เหลือ 18 จังหวัด แต่ยังคงเวลาเคอร์ฟิว เดินทางข้ามจังหวัดได้เฉพาะกรณีที่จำเป็น เริ่ม 1 ก.ย.นี้
27 ส.ค.64 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 กรือ ศบค. ชุดใหญ่ ผ่านระบบทางไกลหรือวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ห้องปฏิบัติการนายกรัฐมนตรีตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล โดยคาดการณ์ว่าในที่ประชุมจะมีการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื่อโควิด-19 และการประเมินแนวโน้มประมาณการผู้ติดเชื้อ เนื่องจากที่ผ่านมาจากการรายงานของศบค.ยืนยันมาโดยตลอดว่า หากมีการเข้มข้นล็อกดาวน์ร้อยละ 25 จะทำให้แนวโน้มการติดเชื้อจะคงที่ประมาณ 20,000 รายต่อวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน! ศบค.ชุดเล็กคลายล็อกดาวน์ “นั่งทานอาหารในร้านได้-ลดเวลาเคอร์ฟิว”
พรรคเพื่อไทย จัดเสวนาซัดรัฐบาล "จากล็อกดาวน์ สู่น็อกดาวน์ประเทศไทย"
วิจารณ์ยับ! สั่งประชาชนล็อกดาวน์ ตำรวจนั่งกินข้าวในร้าน ย่านเคหะร่มเกล้า
ขณะเดียวกัน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะ ในการศูนย์ปฏิบัติธรรมมันบริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ผอ.ศปก.ศบค. จะรายงานผลการหารรือวานนี้ (26 ส.ค.) ที่จะมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ สีแดงเข้ม โดยร้านอาหารที่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือ เปิดแอร์อนุญาตนั่งรับประทานในร้านได้คิดเป็นร้อยละ 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งในร้าน ส่วนร้านอาหารที่ไม่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือไม่เปิดแอร์ ให้นั่งได้ร้อยละ 75 ของจำนวนที่นั่งในร้าน แต่การเปิดให้ประชาชนนั่งรับประทานอาหารในร้านจะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
ขณะที่ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์หรือสถานประกอบการอื่น ที่มีลักษณะคล้ายกัน ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้ตามปกติจนถึงเวลา 20.00 น. โดยผู้ให้บริการจะต้องปฏิบัติได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว และจะต้องมีการตรวจคัดกรองด้วยชุด ATK เป็นระยะและมีมาตรการเข้มผู้เข้าใช้บริการ
ส่วนการเปิดบริการร้านเสริมสวย หรือตัดผม ร้านนวด เปิดได้ตามปกติ แต่นวดได้เฉพาะฝ่าเท้า นอกจากนี้สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกาย ที่เป็นพื้นที่โล่งแจ้ง ยกเว้นฟิตเนส และอาคารในสถานศึกษา เปิดได้ตามปกติ แต่ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการสถานศึกษาพิจารณา
นอกจากนี้ จะเปิดบริการรถสาธารณะ โดยต้องจำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 75 และคนขับรถจะต้องได้รับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม และเปิดให้เดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งผู้โดยสารจะต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม หรือผลตรวจโควิด-19 ด้วย
พิจารณาแนวทางการเปิดประเทศอย่างปลอดภัยภายใต้มาตรการควบคุมโรคแนวใหม่ หรือ Smart Control and Living with Covid - 19 และมาตรการเปิดเรียนมั่นใจ ปลอดภัยไร้โควดิ – 19 ในโรงเรียนประจำ หรือ Sandbox Safety Zone in School
นอกจากนี้ประชุมศปก.ศบค. ยังเห็นชอบลดจำนวนจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จาก 29 จังหวัดเหลือ 18 จังหวัด และเห็นชอบการรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่เดิมกำหนดไม่เกิน 5 คน ขยายเป็น 25 คน และยังผ่อนคลายให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ ซึ่งเป็นจังหวัดสำหรับประชาชนที่มีความจำเป็นเท่านั้น แต่ยังต้องขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามจังหวัดหากไม่มีความจำเป็น แต่ยังห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นยังคงอยู่ โดยมาตรการผ่อนคลายดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้เป็นต้นไป