svasdssvasds

สรุปให้ อภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่สอง ถ้อยคำที่กลับมาหลอน “วัคซีนเต็มแขน”

สรุปให้ อภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่สอง ถ้อยคำที่กลับมาหลอน “วัคซีนเต็มแขน”

อภิปรายไม่ไว้วางใจ บิ๊กตู่ และ 5 รัฐมนตรี ในวันที่สอง SpringNews จัดสรรข้อมูลเด็ดประจำวัน มานำเสนอ โดยในวันที่สองนี้ บทบาทที่โดดเด่นอยู่ที่พรรคก้าวไกล ส่วนเพื่อไทยก็ยังคงมีซีนสร้างสีสันอย่างต่อเนื่อง

“วัคซีนเต็มแขนคนไทย” เป็นถ้อยคำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่กล่าวไว้ในสภานี่แหละ เมื่อศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ซึ่งวัคซีนในที่นี้ หมายถึงแอสตร้าเซนเนก้า ที่นายอนุทินอ้างว่า จะเต็มแขนคนไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 จึงไม่มีความจำเป็นต้องสั่งซื้อวัคซีนยี่ห้ออื่น นอกจากซิโนแวค ที่สั่งมาแก้ขัดไปพลางๆ

แต่ความเป็นจริงในวันนี้ กลับกลายเป็นว่า แอสตร้าเซนเนก้า มีการส่งมอบในแต่ละเดือนน้อยกว่าที่รัฐบาลเคยอ้างไว้ มิหนำซ้ำกลับกลายเป็นซิโนแวค ที่รัฐบาลตะบี้ตะบันสั่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่มีผลวิจัยระบุออกมาอย่างชัดแจ้งแล้วว่า เมื่อเจอสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์โควิดหลักในเวลานี้ ประสิทธิภาพของซิโนแวคจะลดลงอย่างฮวบฮาบ

และในการอภิปรายวันที่สอง ทั้งซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า ก็กลายเป็นประเด็นเด่นประจำวัน ที่พรรคก้าวไกล นำมาขย่มพล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน โดย SpringNews ขอสรุปสิ่งที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้

นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

1. ข้อมูลเด่นประจำวัน : กางผลวิจัยซิโนแวค กางสัญญาจัดซื้อแอสตร้าเซนเนก้า

ผู้อภิปราย : นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล / วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

จะว่าไป เรื่องวัคซีนเป็นสิ่งที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงสังคม นำมาถล่มรัฐบาลติดต่อกันมาหลายเดือนแล้ว แต่จากการตอบข้อสงสัยที่ไม่กระจ่าง รวมถึงยิ่งตรวจสอบ ยิ่งพบเงื่อนงำ แต่ก็ยังมีการอนุมัติสั่งซื้อซิโนแวคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนชาวบ้านชาวช่องอดข้องใจไม่ได้ว่า วัคซีนของบริษัทนี้มีดีอะไร ?

โดยในวันนี้ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผู้ทำหน้าที่อภิปราย ก็ได้กางผลวิจัยประสิทธิภาพของซิโนแวค เพื่อตอกย้ำและตั้งคำถามถึงนโยบายการสั่งซื้อแบบหลับหูหลับตาของรัฐบาล อย่างไม่สนใจเสียงทักท้วงใดๆ

ก่อนจะส่งไม้ต่อให้ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. พรรคเดียวกัน มาขยี้และขย้ำซ้ำ ด้วยการกางสัญญาการจัดซื้อแอสตร้าเซนเนก้า ฉบับไม่ถมดำ ที่ทำให้เห็นว่าไทยเสียเปรียบอย่างเต็มประตู เพราะไม่มีการระบุกำหนดวันส่งไว้ในสัญญา ซึ่งก็มีคำถามตามมาอีกว่า เป็นเพราะความไม่รู้ (วิโรจน์ใช้คำว่าโง่) หรือเพราะมีวาระซ่อนเร้น ? 

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร

ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ต้นปี รัฐบาลพยายามขายฝันว่าไทยสั่งซื้อแอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส โดยจะส่งมอบให้ครบภายในสิ้นปีนี้ จะทยอยส่งให้เดือนละ 10 ล้านโดสอัพ นับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป

แต่ในความเป็นจริงปรากฏว่า แอสตร้าเซนเนก้าส่งวัคซีนให้ไทยได้เดือนละไม่กี่ล้านโดส จนเวลาต่อมา สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ก็ออกมาให้ข้อมูลว่า 61 ล้านโดส ในที่นี้ อาจจะส่งมอบได้ครบกลางปีหน้า กระทั่ง ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนอห่งชาติ ต้องออกมายอมรับ และขอโทษขอโพยประชาชน

จากปัญหาตรงนี้ ก็อาจกลายเป็นที่มาของสูตรการฉีดวัคซีนไขว้ระหว่างซิโนแวค กับแอสตร้าเซนเนก้า ที่เกิดขึ้นในไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในโลก โดยยังไม่มีการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่ได้รับการยอมรับแต่อย่างใด

ซึ่งทางผู้เกี่ยวข้องอ้างว่า ได้มีการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างมาแล้วระยะหนึ่ง แต่ก็มีข้อสงสัยตามมาว่า กลุ่มตัวอย่างที่ทดลอง มีจำนวนมากเพียงพอตามหลักวิชาการหรือไม่ ? ทำให้ประชาชนรู้สึกราวกับถูกมัดมือชก เพราะไม่มีทางเลือกอื่นๆ นั่นเอง !

แม้นโยบายฉีดไขว้ ที่รัฐบาลอ้างว่า จะทำให้การป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลต้า มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจจะช่วยแก้ปัญหาการส่งมอบแอสตร้าเซนเนก้าในแต่ละเดือน ที่ได้น้อย รวมถึงสร้างความชอบธรรมในการสั่งซื้อซิโนแวคเข้ามาเรื่อยๆ แต่จากข้อมูลของวิโรจน์ที่หยิบยกมาอภิปรายในสภา ก็ทำให้เห็นเค้าลางระเบิดเวลาลูกใหม่ นับตั้งแต่เดือนกันยายน และเดือนต่อๆ ไป

เพราะในเดือนกันยายนนี้ จะครบกำหนดการฉีดเข็ม 2 ของแอสตร้าเซนเนก้า รวมถึงการฉีดในสูตรไขว้ เข็ม 2 (เข็มที่ 1 ซิโนแวค เข็มที่ 2 แอสตร้าฯ) ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก และถ้าหากแอสตร้าเซนเนก้ายังคงเข้ามาอย่างกระปริกระปรอย ก็จะส่งผลกระทบซ้ำเติมสถานการณ์ จากที่หนักอยู่แล้ว ให้ย่ำแย่ลงไปอีก

2. พรรคก้าวไกล VS งูเห่า

ไม่ถึงกับเป็นมวยคู่เอก แต่ก็สะใจในระดับหนึ่ง

ในวันนี้ แม้นายกฯ จะลุกขึ้นโต้ตอบข้อกล่าวหาต่างๆ บ้างเป็นระยะ แต่ความมันหยด ก็ยังห่างชั้นกับเมื่อวาน ซึ่งไฮไลต์สำคัญอยู่ในช่วงเย็น ระหว่างการอภิปรายของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

โดยผู้ที่ทำหน้าที่ประท้วงอย่างแข็งขัน กลับเป็น คารม พลพรกลาง ส.ส.ที่ชื่อยังอยู่พรรคก้าวไกล ส่วนตัวกับหัวใจ ไปที่พรรคภูมิใจไทยเรียบร้อย

ซึ่งเมื่อนายคารมลุกขึ้นประท้วง วิโรจน์ก็เย้าว่า “เชิญครับคุณงู” และยังแหย่ผู้ทำหน้าที่ประธานสภาว่า “คุยกับงูรู้เรื่องด้วย” รวมถึงยังมีอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ (ก่อนยุบพรรค) ร่วมวงประท้วง จนทำให้วิโรจน์ถึงกับกล่าวออกมาว่า “งูเยอะจริงๆ”

คำๆ นี้น่าจะจี้ใจดำ ส.ส.คารม มิใช่น้อย ในช่วงหนึ่งของการประท้วงจึงบอกออกมาประมาณว่า ถึงขั้นนี้แล้ว เรียกงูเห่าออกมาตรงๆ เลยก็ได้

ถือว่าเป็นศึกเล็กๆ ขำๆ ยังไม่ถึงขั้นซัดกันแบบจัดหนักจัดเต็มจนเรียกว่าเป็นมวยคู่เอกได้ เป็นการเอาคืนที่เล่นตามจังหวะ แม้จะนิดๆ หน่อยๆ แต่เท่าที่สังเกตดู ก็สร้างความสะใจให้กับเหล่า ส.ส.พรรคก้าวไกล มิใช่น้อย  

คารม พลพรกลาง

3. สีสันประจำวัน

พรรคเพื่อไทย พร้อมใจชูรูปพร้อมข้อความ “หยุดยุทธ์”

ในการอภิปรายวันแรก ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็สร้างซีนสะเทือนใจ และโจมตีรัฐบาลให้จุอกในเวลาเดียวกัน ด้วยการลุกขึ้นยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากโควิดกลางสภา

มาในวันนี้ ระหว่างที่ จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจบิ๊กตู่ ที่ล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็พร้อมใจกันชูภาพใบหน้านายกฯ ที่มีแถบดำคาด และตัวหนังสือว่า “หยุดยุทธ์”

เป็นกิมมิกระหว่างการซักฟอก ที่ทำให้ในการอภิปรายวันที่สาม ต้องจับตาว่า พรรคพรรคนี้จะมีลูกเล่นอะไรมาสร้างสีสันระหว่างการอภิปรายได้อีก

และทั้งหมดนี้ ก็คือไฮไลต์ที่ SpringNews คัดสรรมานำเสนอ ส่วนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่สาม จะเข้มข้นขึ้นมากน้อยเพียงใด ก็ต้องติดตามกันต่อไป

พรรคเพื่อไทย

related