ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งแฉ! ข้อมูลนายตำรวจยศพันโทท่านหนึ่ง มีพฤติกรรมคล้ายกับคดี "ผู้กำกับโจ้" ทำให้ลูกชายที่ถูกทำร้าย มีอาการPTSD หรืออาการคล้ายตกอยู่ในเหตุการณ์รุนแรงอยู่ตลอดเวลา แต่ยังดำรงตำแหน่งมานานถึง 12 ปี ด้านชาวเน็ต ชี้ อยากให้ผู้เสียหายร้องเรียนอีกครั้ง
28 ส.ค.64 จากกรณีมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความแฉพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตำรวจนายหนึ่ง ระบุว่า #นี่ก็คือนิ้วที่เสียตามที่ พล.ต.อ.สุวัตน์ฯกล่าว..ตำรวจยศพันตำรวจโทอีกผู้หนึ่งที่ใช้พฤติกรรมถุงขยะคลุมหัวเฉกเช่นข่าวดัง ผกก.โจ้.เช่นกัน แต่ยังคงดำรงตำแหน่งมา 12 ปีจากการกระทำ และยังรับราชการใน สตช.องค์กรที่ประชาชนไว้วางใจให้คอยพิทักษ์รักษาความสงบสุขของ ปชช. อย่างนี้เราจะได้รับความสงบสุขจริงหรือไม่ เมื่อองค์กร สตช.ยังมีบุคลากรเช่นนี้อยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"หมอพรทิพย์" เผย ตาชั่งเอียงตั้งแต่เริ่มต้น ปมแถลงคดี "ผู้กำกับโจ้"
สมาคมทนายฯ ซัดกลับตร. ทำผิดกฎหมายเอง ปมแถลงข่าว "ผู้กำกับโจ้"
"ผู้กำกับโจ้" ฝากขังเรือนจำกลางพิษณุโลก หวั่นเจอผู้ต้องหาที่เคยจับกุม
นอกจากนี้เอกสารดังกล่าวได้ระบุว่า เป็นเอกสารร้องขอความเป็นธรรม ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนวินัยตำรวจ กรณีลูกชายถูกละเมิดจาก(ตำรวจยศพันตำรวจโท ยศปัจจุบัน) สิทธิโดยอาศัยกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ ด้วยพฤติกรรมความเสื่อมเสีย ซึ่งเกียรติภูมิสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือข้าราชการตำรวจโดยไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม และจรรยาบรรณในข้อประพฤติปฏิบัติในข้อห้ามในการรักษาวินัย ซึ่งเป็นการกระทำที่ใช้ช้อกฎหมายกลั่นแกล้งโดยการ เหยียดหยาม กดขี่ ข่มเหง และทำร้ายร่างกายลูกชายข้าฯให้เกิดความทุกข์แสนสาหัสอย่างที่สุด ด้วยการกระทำ ที่ใช้อำนาจหน้าที่ ที่ตนเองอยู่ในตำแหน่งเจ้าพนักงานตำรวจ โดยเป็นที่เคารพให้ความไว้วางใจของประชาชน รับมอบหมายจากรัฐให้ใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อันเป็นอำนาจมหาชนที่มีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่ในการนี้กลับดำเนินการกับลูกชายข้าฯ อย่างโหด์ร้ายไร้ความปรานี และกระทำด้วยการย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ปฐมบทของเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการนี้ที่ลูกชายข้าฯ ถูกเจ้าพนักงานตำรวจละเมิดสิทธิ โดยอาศัยกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ นั้น ข้าฯเป็นประชาชนใน ตำบลบ้านสร้าง อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี จบการศึกษาระดับ ป.๗ เดิมประกอบอาชีพเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ซึ่งลูกชายที่อ้างว่าถูกละเมิดสิทธิ ปัจจุบันอายุ ๓๐ ปี จบการศึกษาระดับ ม.6 แต่ไม่สามารถจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย หรือ ศึกษาต่อได้เนื่องจากป่วยทางจิตเวชด้วยโรคเครียดซึมเศร้าอย่างรุนแรงหลังประสบเหตุการณ์เสียขวัญที่ถูกเจ้าพนักงานตำรวจทำร้ายดังกล่าว คือโรค PTSD ( Post-traumatic stress disorder) โดยจะมีอาการรู้สึกเหมือนตกอยู่ในเหตุการณ์รุนแรงตลอดเวลา นอนไม่หลับ ฝันร้าย สะดุ้งผวา วิตกกังวล ตกใจ ง่าย หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย ซึมเร้าอย่างรุนแรง ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นผลโดยตรงมาจากเหตุการณ์ที่ลูกชายข้าฯถูกทำร้ายเมื่อ วันที่ 28มกราคม 2552 โดยการถูกทรมานกายข่มขู่จิตใจให้รับสาวภาพว่าเป็นคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ โดยต้องมีการบำบัดตรจรักษารับยามากินจนถึงปัจจุบันนี้ และพบแพทย์นายแพทย์
ซึ่งนอกจากนี้ยังได้ระบุอีกว่า ได้มีการทำหนังสือยื่นไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติจำนวน 16 ฉบับ ทำให้ข้อมูลดังกล่าวถูกแพร่กระจายไปทั่วโซเชียลมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ชาวเน็ตหลายคนยังระบุว่า อยากให้ผู้โพสต์นำเรื่องส่งถึงทนาย เหมือนกับที่เปิดโปงคดี "ผู้กำกับโจ้" และอยากให้ผู้โพสต์นำเรื่องส่งร้องเรียนอีกครั้งพร้อมให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก