"หมอธีระวัฒน์" ย้ำ ฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนัง จาก 10 ล้านโดส จะกระจายได้ถึง 50 ล้านโดสทันที ทำได้ใน 3 เดือน ยืนยันได้ผลไม่ต่างกัน แถมผลข้างเคียงน้อย
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า ข้อเสนอแบบแผน การฉีดวัคซีนโควิดเข้าชั้นผิวหนัง (intradermal) นั่นหมายความว่า ถ้าเรามีวัคซีน 10 ล้านโดส จะกลายเป็น 50 ล้านโดสในทันที ถ้ามีปริมาณพร้อมเมื่อไหร่ การฉีดง่ายไม่ได้ยุ่งยากเลย
ถ้ามีปริมาณพร้อมเมื่อไหร่ การฉีดง่ายไม่ได้ยุ่งยากเลย
ประเทศไทยเริ่มตั้งแต่ 37 ปีที่แล้ว และเป็นบรรทัดฐานสำหรับวัคซีนแทบทุกชนิดที่องค์การอนามัยโลกอนุมัติ ทั้งโรคพิษสุนัขบ้าแม้กระทั่งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ใช้ในปัจจุบัน
เมื่อได้ข้อมูลเบื้องต้น ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและความปลอดภัยซึ่งจากวัคซีนทั้งหมดที่ผ่านมาและใช้การฉีดวิธีนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร
การฉีดสามารถทำได้ทุกหัวระแหง ไม่ต้องแออัดยัดเยียดและไม่ต้องจัดใครก่อนใครหลัง เนื่องจากจำนวนพอสำหรับทุกคนในประเทศไทย!!!
นอกจากนั้นสามารถทำการติดตามผลไปพร้อมๆกับการปฎิบัติ
และถ้าจะทำการฉีดกระตุ้นก็สามารถทำได้โดยไม่เปลืองปริมาณวัคซีนเพิ่มมากขึ้นอีกเท่าไหร่
มีการทดสอบแล้วของวัคซีนโมเดนา ในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ผลเท่ากับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อโดยปริมาณใช้เพียงหนึ่งในห้าหรือหนึ่งใน 10 ของปริมาณวัคซีนเท่านั้น
และในประเทศไทยเองมีข้อมูลของการฉีดกระตุ้นด้วยการฉีดชั้นผิวหนังเรียบร้อยแล้ว และทำในหลายสถาบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• "หมอธีระวัฒน์" แนะบุกแหลก บุกหนัก เน้นฉีดวัคซีน 2 เข็ม ไม่ทิ้งระยะนานเกินไป
• "หมอธีระวัฒน์" แนะฉีดวัคซีนชั้นผิวหนังประหยัด 5-10 เท่า ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
• "หมอธีระวัฒน์" ชี้มีวัคซีนน้อย ฉีดแบบเข้าชั้นผิวหนังเพียงพอทั้งประเทศ
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ได้ขยายครอบคลุมการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดในประเทศไทย
และเพื่อให้ได้ภูมิคุ้มกันที่เร็วที่สุดหลังจากที่ฉีดวัคซีนโดยเร็วกว่าการฉีดเข้ากล้าม
ทั้งนี้โดยที่ถ้าเป็นวัคซีนเชื้อตายซิโนแวค จะเห็นภูมิขึ้นเมื่อหลังเข็มที่สอง (ซึ่งห่างจากเข็มที่หนึ่งหนึ่งเดือน) ไปแล้วหนึ่งเดือน
และถ้าเป็นแอสตร้า ถึงแม้ว่าจะเริ่มเห็นภูมิ ที่สองอาทิตย์หลังจากเข็มแรกแต่ก็จะเห็นภูมิชัดเจนต้องหลังจากเข็มที่สอง (ซึ่งเข็มที่สองห่างจากเข็มแรกไม่ต่ำกว่าสองถึงสามเดือน) ส่วนวัคซีน ไฟเซอร์ โมเดนา ซึ่งห่างกันสามถึงสี่อาทิตย์ระหว่างเข็มที่หนึ่งและสอง ถึงแม้ว่าภูมิจะขึ้นเร็ว แต่ก็ต้องรอเต็มที่หลังจากฉีดเข็มที่สองแล้วสองอาทิตย์
สำหรับการฉีดเข้าชั้นผิวหนัง
1- เป็นรูปแบบการฉีดเหมือนกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเชื้อตายทุกอย่างที่องค์การอนามัยโลกยอมรับและใช้กันทั่วโลก มา 37 ปีแล้ว และแม้แต่วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ใช้ในปัจจุบันทั่วโลกก็มียี่ห้อที่ฉีดเข้าชั้นผิวหนัง
2- ควรใช้ได้กับวัคซีนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อตายหรือจะเป็นวัคซีนชนิดไวรัสเวคเตอร์ เช่นแอสตร้า หรือจะเป็นชนิด mRNA เช่นไฟเซอร์ โมเดนา
3- วิธีการฉีด
0.1 cc เข้าชั้นผิวหนังที่ต้นแขนในวันที่ศูนย์ สาม และเจ็ด ในกรณีของชิโนแวค ชิโนฟาร์ม แอสตร้า
ในกรณีของวัคซีน ไฟเซอร์ โมเดนา ใช้ ขนาด 10 (หริอ 20) ไมโครกรัม (ตามการศึกษาของประเทศเนเธอร์แลนด์) เข้าชั้นผิวหนังในวันที่ศูนย์ สามและเจ็ด โดยที่การฉีดเข้ากล้ามต้องใช้ถึง 100 ไมโครกรัม และต้องดูปริมาตรฉีดให้ดีเนื่องจากวัคซีนโมเดนา มีเนื้อวัคซีน มากกว่าไฟเซอร์ สามเท่าโดยประมาณ
4- ประเมินระดับภูมิคุ้มกันที่ยับยั้งไวรัสได้ (Neutralizing antibody) ในวันที่ 14
โดยการเจาะเลือด (clotted blood) 3 cc
โดย ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ จุฬา ทำการประเมินเป็นปกติอยู่แล้ว และในห้องปฏิบัติการอื่นก็มีเช่นกัน
การใช้การฉีดเข้าชั้นผิวหนังไม่ควรใช้เวลาไตร่ตรองเนิ่นนานเกินไป สามารถปฏิบัติได้เลยและประเมินผลรวมทั้งเปรียบเทียบผลข้างเคียงแทรกซ้อนกับการฉีดแบบเข้ากล้าม
ทั้งนี้การศึกษาที่ได้เริ่มทำไปแล้วนั้นพบว่าได้ผลไม่ต่างกันอีกทั้งผลข้างเคียงดูจะน้อยกว่ามากหรือไม่มีเลย และสามารถใช้ได้เป็นแบบกระตุ้นเข็มที่สามหรือจะเป็นแบบเริ่มต้นตั้งแต่เข็มที่หนึ่งก็ตาม
การฉีด เข้าชั้นผิวหนังจะเป็นการปฏิวัติวัคซีนโควิดให้สามารถใช้ได้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศภายในสามเดือนโดยจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ขณะนี้
รูปแสดง การบริหารการฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนังและใช้ในการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าและวัคซีนไข้หวัดใหญ่ของบริษัทต่างประเทศที่ใช้อยู่ปัจจุบันนี้ก็เป็นการฉีดเข้าชั้นผิวหนัง