“บิ๊กป้อม” ถก “กอนช.” ห่วงฝนตกชุกอาจเกิดอุทกภัย ช่วง ส.ค.-ก.ย.นี้ เผย อาจเกิดพายุหมุนเขตร้อน 2-3 ลูก สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งดำเนินการมาตรการรองรับให้ทันตามเป้าหมาย
วันนี้ (13 ส.ค.64) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานการประชุม ครั้งที่ 3/2564 ผ่านระบบ Video Conference โดยที่ประชุม ได้รับทราบสถานการณ์ฝน และการคาดการณ์ ห้วง ส.ค.-ก.ย.นี้ เป็นช่วงที่มีฝนตกชุก หนาแน่นที่สุด และมีโอกาสสูงที่จะเกิดพายุหมุนเขตร้อน เคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบน จำนวน 2 - 3 ลูก และอาจทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุก และปริมาณน้ำมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยได้ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
• "บิ๊กป้อม" สั่งคุมเข้ม "เฟกนิวส์" กำชับ ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด
• "เสรีพิศุทธ์" อวยพรวันเกิด "บิ๊กป้อม" ถามเดินไหวไหม อ้วนหมดสภาพแล้ว
• ผบ.เหล่าทัพ ตบเท้า อวยพรวันเกิด "บิ๊กป้อม" ล่วงหน้า 11 ส.ค.นี้ อายุครบ 76 ปี
สำหรับพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมจากการประเมิน พบว่า ห้วงเดือน ส.ค.64 - ม.ค.65 มีพื้นที่เสี่ยงจำนวน 2,988 ตำบล 630 อำเภอ 71 จังหวัด ทั่วทุกภาคของประเทศ ทั้งนี้ สทนช. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก ได้แก่ กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า กทม. กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้บูรณาการทำงานร่วมกันแก้ปัญหา มาอย่างต่อเนื่อง และมีความคืบหน้าอย่างน่าพอใจ อาทิ การเตรียมความพร้อมอาคารควบคุมน้ำ คันกั้นน้ำ เครื่องสูบน้ำ และอุโมงค์ระบายน้ำ เป็นต้น รวมถึงการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ การจัดเก็บผักตบชวา และการกำจัดขยะในคลอง ซึ่งในห้วงปี 63 - 64 ภาพรวมการเก็บผักตบชวาได้มากถึง 4,944,363 ตัน คิดเป็นร้อยละ 96.09 ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนข้อมูล ปริมาณผักตบชวา จากภาพถ่ายดาวเทียม GISTDA ในการเตรียมรับมือกับฤดูฝนปี 64 ซึ่งได้ดำเนินการเก็บผักตบชวาไปแล้ว จำนวน 680,288 ตัน
พล.อ. ประวิตร ได้กำชับให้สทนช. กระทรวงเกษตรฯ กทม. ผู้ว่าราชการในพื้นที่ และหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องเร่งดำเนินการ ตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 64 ให้ทันตามเป้าหมาย เพื่อป้องกันน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และยังสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้งหน้า ได้อีกด้วย รวมทั้ง ต้องมีการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ มีส่วนร่วม และสามารถแจ้งเตือนประชาชนให้ทันเวลา ตลอดจน เตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ให้มีความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย ไว้ตลอดเวลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ให้รวดเร็วที่สุด และให้ระมัดระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วย